เกิดเหตุระเบิดที่ ถ.ราชดำริ ใกล้แยกราชประสงค์-ประตูน้ำ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 รายบาดเจ็บนับสิบ ตำรวจพบเป็นระเบิด 40 มม. จากเครื่องยิงเอ็ม 79 เช่นเดียวกับที่ช่วงบ่าย จนท.เก็บกู้ระเบิด 40 มม. ใช้กับเครื่องยิงเอ็ม 79 ที่ศาลแพ่ง-ศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก

ที่มาของภาพ: เพจ Police Spokesmen

23 ก.พ. 2557 - เมื่อเวลา 17.25 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณร้านขายเสื้อที่ระลึก บริเวณที่ชุมนุม กปปส. หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถ.ราชดำริ ระหว่างแยกราชประสงค์และแยกประตูน้ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 24 ราย และมีเจ้าหน้าที่อีโอดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี และทหาร เข้าตรวจที่เกิดเหตุแล้ว

ขณะที่มีรายงานจากศูนย์เอราวัณว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 22 คน เสียชีวิต 2 คน นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 6 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี 8 คน โรงพยาบาลพญาไท 15 คน และโรงพยาบาลจุฬา 5 คน สำหรับผู้เสียชีวิตรายแรกเป็น เด็กชายอายุ 4 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามาธิบดี อีกรายเป็นสุภาพสตรีอายุ 40 ปี เสียชีวิตที่โรงพญาบาลพญาไท

ด้าน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ว่า จากเหตุระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ จากจำนวนผู้บาดเจ็บ 24 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับผู้บาดเจ็บ 8 คน เป็นเด็ก 3 คน เป็นเด็กชายอายุ 4 ปี 1 คน เด็กชายอายุ 9 ปี 1 คน เด็กหญิงอายุ 12 ปี 1 คน ที่เหลือเป็นผู้ใหญ่ 5 คน เป็นชาย 3 คน และหญิงอีก 2 คน ต่อมาเด็กชายอายุ 4 ปี ได้เสียชีวิตจากบาดแผลที่กะโหลกศีรษะ เนื้อสมองฉีกขาด มีเลือดตกในช่องท้องและบาดแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือ มีเด็กหญิงอายุ 12 ปี แพทย์ดูแลใกล้ชิดเพราะมีบาดแผลที่ศีรษะและตกเลือดในช่องท้องเช่นกัน แพทย์ได้นำเข้าห้องผ่าตัดด่วน ส่วนเด็กชายอายุ 9 ปี ยังสลบไม่ได้สติ บาดแผลภายนอกพบบาดแผลที่คอ และรอผลการตรวจเพิ่มเติมด้วยการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ชาย 3 คนแพทย์รับตัวไว้ดูอาการที่โรงพยาบาล เพราะมีบาดแผลตามลำตัว แขนขาและกระดูกหัก ส่วนผู้หญิง 2 คน มีบาดแผลเล็กน้อยที่ลำตัว แขนขา แพทย์ได้ทำแผลและอนุญาตให้กลับบ้านได้ สรุปผู้บาดเจ็บ 8 คน เสียชีวิต 1 คน รับไว้ดูอาการที่โรงพยาบาล 5 คน อนุญาตให้กลับบ้าน 2 คน

ขณะที่สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธ์สุระ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดว่า ระเบิดที่ใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดชนิด 40 มม. ยิงจากเครื่องยิงระเบิดชนิด M79 จากจุดสูง นอกพื้นที่การชุมนุม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจหาวิถีกระสุนมาจากทิศทางใด จุดยิงระยะใด เบื้องต้น มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุแล้ว 2 ตัว แต่ยังไม่พบเบาะแส ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีการข่าวแจ้งเตือนว่า อาจมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น จึงได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเหตุ ยกระดับการป้องกัน แต่ยังเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คนร้ายจงใจให้เกิดความสูญเสีย เนื่องจากเป็นการยิงระเบิดใส่พื้นที่ที่มีมวลชนจำนวนมาก

ที่มาของภาพ: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า ที่ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ อีโอดี นำดินระเบิดซีโฟร์ในการจุดระเบิดทำลายหัวระเบิดชนิด 40 มม. ซึ่งใช้สำหรับเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ที่ตรวจพบบริเวณลานจอดรถ ระหว่างอาคารที่ทำการศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย ก่อนรวบรวมพยานหบักฐานไปตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ระเบิดที่พบเป็นหัวระเบิด 40 มม. พร้อมทำงาน แต่ยังไม่ยืนยันว่า ระเบิดมีผู้ยิงหรือนำมาวาง เพื่อต้องการข่มขู่หรือไม่ ซึ่งตำรวจจะประสานขอภาพกล้องวงจรปิดตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ มีผู้ก่อเหตุยิงระเบิด 40 มม. ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่ชั้น 7 ศาลอาญามาแล้ว จากนี้จะหารือแนวทางการเฝ้าระวังและอารักขาผู้พิพากษา โดยจะหารือกับเลขาธิการศาลยุติธรรมอีกครั้ง เบื้องต้นได้จัดกำลังตั้งจุดตรวจค้น บริเวณเส้นทางรอบพื้นที่ศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก เน้นเฝ้าระวังรัศมี 400 เมตร ที่เป็นระยะยิงหวังผลของเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79

ส่วนความคืบหน้าคนร้ายขว้างระเบิด บริเวณแยกประตูน้ำ ใกล้พื้นที่ชุมนุมกลุ่ม กปปส. เวทีราชประสงค์ พบว่า เป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ด่านตรวจความมั่นคง สถานีตำรวจนครบาลบางนา ที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากหมายเลขระเบิดตรงกัน เชื่อว่า มาจากแหล่งเดียวกัน แต่ขอเวลาขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง