สุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า กปปส. ไม่คิดต่อสู้เพื่อแบ่งแยกประเทศ คนไทยไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนเป็นพี่น้องด้วยกันทั้งสิ้น พร้อมนัด กปปส. จันทร์นี้ปิดทุกบริษัทที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับชินวัตร-จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วจับตายิ่งลักษณ์ เตือน นปช. อย่าเข้าใกล้เพราะอาจเจอ 'พ่อค้าป็อปคอร์น' พร้อมขอร้องเป็นคนไทยด้วยกันอย่าตั้งตัวเป็นศัตรู

เพจเวทีราชดำเนิน เผยแพร่รูป ผู้ชุมนุม กปปส. ใส่เสื้อเขียวสกรีนรูปคล้ายถุงป็อปคอร์นยี่ห้อหนึ่ง ร่วมกิจกรรมคืนซิมการ์ดโทรศัพท์ยี่ห้อเอไอเอส เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ที่ห้างมาบุญครอง ทั้งนี้มาตรการไม่ใช้สินค้าต่างๆ ตามที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรณรงค์ล่าสุดโดย กปปส.  (ที่มา: เพจเวทีราชดำเนิน)

สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยบนเวทีสี่แยกปทุมวัน เมื่อ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีการนัดหมายชุมนุมหน้าที่ทำการธุรกิจที่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตร ตั้งแต่วันจันทร์นี้ (ที่มา: Blue Sky Channel)

สุเทพโต้ NBT สัมภาษณ์ชาวนา ลั่นจดชื่อพิธีกรรายการใส่บัญชีหนังหมา

เมื่อเวลา 19.40 น. เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่แยกปทุมวัน ช่วงแรกของการปราศรัยได้นำเทปรายการโทรทัศน์ "ทันสถานการณ์บ้านเมือง" ออกอากาศเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ทางสถานีโทรทัศน์ NBT มาฉายให้ผู้ชุมนุม กปปส. รับชมและกล่าวว่าถ้าพี่น้องได้ดูจะเข้าใจได้เลยว่ารัฐบาลนี้โดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกได้พยายามใช้สถานีโทรทัศน์ของทางราชการจัดรายการบิดเบือนข้อเท็จจริง พูดจาให้เกิดความเสียหายต่อประเทศโดยส่วนรวม

"รายการเขาทำเนียนมากครับพี่น้องครับ ไปเอาชาวบ้านมานั่งสนทนา แล้วคงจะเตี๊ยมกันอย่างดีให้ชาวบ้านพูดอย่างไร เพื่อที่จะให้คนทั้งประเทศได้ฟังแล้ว เข้าใจผิด" ทั้งนี้สุเทพได้นำรายการสัมภาษณ์ชาวนาช่วงหนึ่งมาฉาย ขณะที่ผู้ชุมนุม กปปส. โห่ไม่พอใจบทสัมภาษณ์ชาวนาดังกล่าว เพราะชาวนาในรายการกล่าวในทำนองว่า ชาวนาที่มีใบประทวนอยู่แล้ว อย่างไรรัฐบาลก็ต้องจ่าย แม้ว่าอาจจะช้าหน่อย หรือกรณีที่ชาวนาฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่มาจากปัญหาจำนำข้าว แต่กลับมาโทษรัฐบาล หรือกรณีชวนชาวนามาร่วมขบวนต่อสู้ หาก กปปส. ชนะแล้วจะจ่ายเงินให้ชาวนา เป็นต้น

ทั้งนี้นายสุเทพได้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ และว่าที่กล่าวมานี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่จริงแล้วธนาคารจะปล่อยกู้หรือไม่ปล่อยกู้ให้รัฐบาลเป็นเรื่องของธนาคาร ผู้ชุมนุม กปปส. ไม่เคยไปเกี่ยว เกี่ยวครั้งเดียวตอนธนาคารออมสินเท่านั้นเป็นเพราะเป็นห่วงเงินฝากของเด็ก

"ที่ธนาคารทั้งหลายไม่กล้าปล่อยเงินกู้เพราะเขาเห็นว่ายิ่งลักษณ์ และกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่มีอำนาจกู้เงิน เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการณ์ ขืนปล่อยไปเงินเขาหายเขาเดือดร้อน ไอ้โง่ฟังเอาไว้ด้วย"

นายสุเทพชี้แจงด้วยว่า กปปส.ไม่เคยชวนชาวนามาต่อสู้ "เราสู้ของเราเพื่อขจัดระบอบทักษิณทำมาก่อนที่จะเกิดปัญหาชาวนา พอเราเห็นชาวนาเขาเดือดร้อน เขาฆ่าตัวตาย ร้องห่มร้องไห้ คนไทยทั้งประเทศเห็นใจชาวนา สงสารชาวนา จึงร่วมกันบริจาคเงินช่วยชาวนา พวกเราก็อาสาว่าเรายินดีเป็นเครื่องมือของชาวนา ทวงหนี้ให้ชาวนา สู้เพื่อให้ชาวนาได้เงินค่าข้าวคืน ไม่ใช่ไม่สงสารชาวนา ไอ้คนไม่เห็นใจชาวนาคือยิ่งลักษณ์กับพวกต่างหากครับ"

สุเทพ กล่าวถึงพิธีกรรายการ "ทันสถานการณ์บ้านเมือง" ด้วยว่า "ขอบอกไปถึงนายวุฒิพงษ์ พงษ์สุวรรณนะ ว่าพวกผมไม่ได้จับชาวนาเป็นตัวประกันแต่ว่าจดชื่อคุณไว้ในบัญชีหนังหมาแล้ว วันที่ประชาชนได้รับชัยชนะ นายวุฒิพงษ์ พงษ์สุวรรณ ก็จะถูกดำเนินคดี ผมกราบเรียนให้พี่น้องได้รู้ว่านายวุฒิพงษ์ เป็นลูกน้องนายจำลอง สิงห์โตงาม ผู้อำนวยการช่อง 11 เป็นลูกน้องอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พี่น้องจดชื่อเอาไว้ด้วย มันก้มหน้าก้มตารับใช้ทรราช บิดเบือนข้อเท็จจริง โยนผิดให้คนอื่น บอกว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ทุจริต ผมจะบอกว่านายกรัฐมนตรีถูกใส่ร้าย ปชช. ใส่ร้าย คนทั้งประเทศใส่ร้าย นายกรัฐมนตรีบริสุทธิ์ทั้งแท่ง ปปช. ห้ามทำก็ยังทำ สตง. ห้ามทำก็ยังทำ นักวิชาการบอกว่าจำนำข้าวทำลายชาติก็ยังดื้อทำ นายกรัฐมนตรีบอกว่าดีอยู่ค่ะ กำลังเอาอยู่ค่ะ ก็รอดูว่า ปปช. เขาสอบแล้วจะเป็นอย่างไร ดูว่าจะติดคุกไหม ถึงตอนนั้นหวังว่าผู้อำนวยการช่อง 11 ก็ดี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายวุฒิพงษ์ จะยังคงมีลมหายใจอยู่ได้เห็นยิ่งลักษณ์ติดคุกนะครับ"

ยืนยันไม่คิดแบ่งแยกดินแดน คนไทยทุกภาคเป็นพี่น้องกัน กปปส. หวังต่อสู้ให้ประเทศดีขึ้น

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า "ตัวอย่างที่นำมาให้ดูในคืนนี้จะได้เห็นเลยครับว่า เขาใช้สื่อของรัฐซึ่งมาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น แล้วก็หลอกลวงประชาชนเป็นขั้นเป็นตอน บิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายประชาชนด้วยกัน บังอาจพูดจาให้คนเข้าใจว่า ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็แบ่งประเทศกัน พวกเราเอาทางใต้ไป เขาจะอยู่ของเขาต่างหาก นี่มันบ้าไปแล้ว ดูความคิดต่ำทรามของคนที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิครับพี่น้อง"

สุเทพชี้แจ้งการเคลื่อนไหวของ กปปส. ว่า "ผมขออนุญาตใช้เวลาตรงนี้ กราบเรียนไปถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ พวกเรามวลมหาประชาชนที่ลุกขึ้นต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน ไม่คิดแบ่งประเทศ ไม่คิดแบ่งประชาชน พวกเราคิดอยู่ตลอดเวลาว่า พี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนภาคไหนของประเทศ เราเป็นพี่เป็นน้องกัน เป็นประชาชนด้วยกันทั้งสิ้น เป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น และเราไม่เคยคิดที่จะแบ่งแยกประเทศเป็นภาคเป็นส่วนอย่างที่ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังคิดอยู่ในขณะนี้ แต่ประการใดทั้งสิ้น"

"การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนในครั้งนี้ เราต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น ให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราต้องการปฏิรูปประเทศไทยให้การเลือกตั้งสุจริต ไม่ให้มีการโกงทุจริต ไม่ให้มีการคอร์รัปชั่น อย่างที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสันโดยคนในตระกูลชินวัตรที่โกงทั้งโคตร โคตรโกงเราไม่ต้องการให้มีในประเทศไทยอีกต่อไป ถ้าการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนชนะ มีการปฏิรูปประเทศไทย บ้านเมืองจะดีขึ้น เจริญขึ้น ความสงบสุข การทำมาหากิน การใช้ชีวิตของประชาชนก็จะได้ราบรื่น เรียบร้อย มีอนาคต และเป็นประชาชนของประเทศไทย ทุกจังหวัด ทุกภาคของประเทศ ไม่ว่าเขาเชื่อใคร ชอบใคร หรือไม่อย่าไร เราไม่คิดแบ่งแยก กราบเรียนให้ทราบว่าแม้จนขณะนี้พวกเราไม่คิดแบ่งประชาชน อยากเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกหนทุกแห่งทั่วประเทศ มาร่วมต่อสู้เพื่อประเทศไทย อย่าทำตัวเป็นขี้ข้าอยู่ภายใต้อำนาจเงิน อิทธิพลทางการเมืองของคนชั่วคนเลว ให้คิดถึงอนาคตลูกหลาน สิ่งที่เราสู้นี้จะเป็นประโยชน์กับลูกหลานคนไทย ทุกคน ทุกจังหวัด ทุกภาค ขอยืนยันพี่น้องประชาชนให้ได้ยินทั่วกัน"

สุเทพกล่าวด้วยว่า เงินที่โกงค่าจำนำข้าวที่รัฐบาลทำเจ๊งไป 400,000-500,000 ล้านบาท ถ้าเอาเงินเหล่านี้มาให้ลูกหลานชาวนาได้เรียนหนังสือฟรีได้ทั้งประเทศด้วยซ้ำ

นัดหมายจันทร์นี้จะตามไปปิดทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเครือชินวัตร

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันเสาร์ พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ สถานที่ราชการ สถานประกอบธุรกิจของปิดทำการ แต่พวกเราก็ยังได้ปฏิบัติการในเชิงรุกต่อตระกูลชินวัตร และได้ดำเนินการประสบผลน่าพึงพอใจ ถ้าเราเดินหน้าทำอย่างนี้ต่อไป รับรองได้ว่า ธุรกิจทั้งหลายของตระกูลชินวัตรต้องกระทบกระเทือนถึงขั้นล้มละลายเสียหายได้อย่างแน่นอน ขนาดวันนี้ปฏิบัติการวันแรก มีภาพพี่น้องทั้งหลายเข้าแถวคืนซิมโทรทัศน์เอไอเอสมาแสดง

"นี่เป็นตัวอย่างครับ มีพี่น้องประชาชนไปเข้าแถวทั้งวันเปลี่ยนยี่ห้ออื่น ไม่ใช้ ยะโสนัก อวดว่าบริษัทใหญ่โตมีคนใช้ 41 ล้านราย ตอนนี้อาจจะเหลือ 39 ล้านแล้ว จะลดลงเรื่อยๆ ทุกวัน เราไม่ได้มีจิตใจอาฆาตมาดร้ายกับใคร แต่เราจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดินของเรา ทำทุกอย่างในกรอบกฎหมายตลอด เดินขบวนเขาก็ไม่ไป ปิดกรุงเทพฯ แล้วเขาก็ไม่เดือดร้อน ทำอย่างไรก็ด้านอยู่ เราก็ยกระดับการต่อสู้ไปเรื่อยๆ เราตามหายิ่งลักษณ์มา 3 วันแล้วไม่เจอ จะตามต่อไป จะเฝ้าต่อไป วันจันทร์อังคารนี้คงโผล่มารูไหนสักแห่ง"

"ขอถือโอกาสกราบเรียนเชิญพี่น้องไว้เป็นการล่วงหน้า วันอาทิตย์ปฏิบัติการต่อเนื่องเอไอเอส แต่พอวันจันทร์ขอรถอาสาสมัคร อยู่ตรงไหน จะตามไปอุดหนุนทุกบริษัท แล้วจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วคอยตามว่ายิ่งลักษณ์อยู่ตรงไหนไปตรงไหน และไม่ได้ไปไล่ล่าจับฆ่าจับแกง แต่ตั้งใจไปกระซิบข้างหูว่า 'ออกไปได้แล้ว ออกไปได้แล้ว อย่าอยู่ต่อไป' ไปกระซิบให้ยิ่งลักษณ์ได้ยินว่าจะปฏิรูปประเทศไทย ไม่เอาแล้วระบอบทักษิณ ต้องการประชาธิปไตยสมบูรณ์ เราพูดมาสามเดือนกว่าไม่ได้ยิน แด๊ะๆ ออกมาตีหน้าซื่อ ตอแหลอย่างนั้นอย่างนี้ทุกวัน ไม่มีทางเลือกอื่น เราสันนิษฐานว่าแกไม่ดูโทรทัศน์ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ เป็นความจำเป็นที่เราต้องหาตัวให้เจอ แล้วกระซิบที่ละคนว่าออกไป ออกไป ออกไป"

"เพราะฉะนั้นอย่าตีความว่าเราโหดเหี้ยม จะไปฆ่าแกง ไม่ใช่ เราไปบอกว่าประชาชนไม่ต้องการแล้ว เรารังเกียจชิงชังระบอบทักษิณ จะไปบอกว่าประชาชนไม่ทนให้คนตระกูลชินวัตร คืนกลับมาเป็นของประชาชน"

จะฟ้องยิ่งลักษณ์และพวกข้อหาฆ่าคนตาย จากเหตุสลายชุมนุม 18 ก.พ.

สุเทพกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันจันทร์ทนายความของ กปปส. จะไปดำเนินคดีกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, เฉลิม อยู่บำรุง, พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว,  และธาริต เพ็งดิษฐ์ ในข้อหาฆ่าผู้ชุมนุมเสียชีวิตไป 4 คน เมื่อ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา

"เราไปกระซิบให้ได้รู้ว่า ความอำมหิตของคุณนั้น ในที่สุดจะต้องถูกลงโทษ ด้วยตัวบทกฎหมาย เราไม่ไปทุบตีไปฆ่าหรอก ตัวคุณน่ะคนเขาอาจจะชอบ แต่เราไม่ เพราะคุณมันหญิงชั่ว หญิงไม่ดี เมื่อคุณบังอาจมาฆ่าพี่น้องเรา ซึ่งเขาลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดินด้วยความบริสุทธิ์ เหตุที่ผ่านมาเราหาหลักฐานไม่ได้ ไม่มีประจักษ์พยาน ไม่ทำคดี แต่เหตุการณ์ที่ผ่านฟ้าเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมานี้เรามีประจักษ์พยาน ชัดเจนจะดำเนินคดี ว่าพี่น้องเรา 4 คน ตายเพราะคำสั่งของคุณ คุณเป็นฆาตรกรต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อเราดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล สำหรับพี่น้องเราที่เสียชีวิตทั้ง 4 คน เราจะดำเนินคดีให้กับพี่น้องที่บาดเจ็บเพราะการกระทำของเจ้าหน้าที่ในข้อหาพยายามฆ่าอีก 60 คดี รวมแล้ว 64 คดี ที่นี้คุณจะได้รู้ว่ากรรมมีจริง ทำชั่วเอาไว้ ฆ่าคนตายเพราะต้องการครองอำนาจ ไม่เห็นชีวิตประชาชนมีคุณค่า มีความหมาย เราต้องสู้เพื่อความยุติธรรมสำหรับญาติพี่น้องเราที่เสียชีวิต และขอเชิญชวนทนายความที่เชี่ยวชาญคดีอาญามาเป็นทนายอาสา ซึ่งต้องการฟ้องให้รวดเร็วเพราะมีภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่งเหตุการณ์ครบหมด"

ในช่วงท้าย เลขาธิการ กปปส. ได้นัดหมายผู้ชุมนุมว่า "ได้มีผู้ส่งรายชื่อบริษัท ธุรกิจในเครือชินวัตร เป็นกล่องดวงใจของทักษิณ มี 45 บริษัท มีเงินทุน 5.2 หมื่นล้าน ที่ทำรายได้มากสุดคือ SC Asset ที่ชินวัตร 3 และมีบริษัทลูก 2-3 แห่ง รองลงมาคือ โรงพยาบาลพระราม 9 มีรายได้ 460 ล้าน เพราะฉะนั้นพี่น้องไม่ต้องเข้านะ ไปโรงพยาบาลอื่น เราจะไม่ไปโรงพยาบาล เพราะเดี๋ยวเขาหาว่าเราไม่มีคุณธรรม เราไม่ทำเหมือนจตุพรไปโรงพยาบาลจุฬาฯ ส่วนบริษัทอื่นเราจะไปเยี่ยมเยียน ไปอุดหนุน ไปดูมันเจ๊งให้ได้กับตากับมือของเรา อย่างที่เราทำกับเอไอเอส"

กปปส. ใกล้ชนะแล้ว แต่ต้องระวัง "นักรบเขมร" แต่เชื่อว่าถ้ามาจะเจอ "ชมรมป็อปคอร์น"

สุเทพกล่าวด้วยว่า การต่อสู้ของ กปปส. ใกล้จะได้รับชัยชนะแล้ว ที่ผ่านมาได้ผลดีมาก ข้าราชการทำงานไม่ได้ ข้าราชการไม่ร่วมมือกับรัฐบาล สถานที่ราชการปิดหมด ไม่มีใครยอมเป็นเครื่องมือให้แล้ว "พ่อค้าประชาชนทั้งประเทศเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระบอบทักษิณต้องจบเห่ นี่มันไม่มีทาง ถ้าเรารุกหนัก กิจการค้าขายธุรกิจทั้งหลายพังลง พวกนี้ต้องจบ หมดฤทธิ์ หมดอิทธิพลที่จะข่มเหงรังแกประเทศชาติต่อไป ขอให้พี่น้องอดใจเดินหน้าอีกหน่อย ไม่นานเกินรอแล้ว ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้ว"

จากนั้นสุเทพได้กล่าวหาพาดพิงประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า "แต่ว่าต้องขอให้พี่น้องทั้งหลาย ระมัดระวัง คนพวกนี้อำมหิตโหดเหี้ยม ได้ข่าวว่าเป็นเอานักรบเขมรมาเล่นงาน แต่ไม่เป็นไร มาก็เจอป็อปคอร์น ผมเนี่ยไม่เคยเห็นตัว พี่น้องก็ไม่เห็นตัว เสียงก็ไม่ได้ยินว่าสมาชิกชมรมป็อปคอร์นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่า เขาไม่มีวันยอมให้เขมรมาเข่นฆ่าคนไทยด้วยกัน ขอให้พี่น้องดูแลเป็นหูเป็นตา พวกนี้ปลอมปนในหมู่พวกเรา พวกนี้พูดไทยไม่รู้เรื่อง ตระครุบไว้ รักษาหน้าให้ดี เราจะพิสูจน์ให้ชาวโลกว่ายิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตรใจดำ เอาคนต่างด้าวมาข่มเหงย่ำยีประชาชน จะได้ประจานทั้งโลก"

"แล้วพี่น้องสังเกตไหมครับ พอมันจนตรอก ใช้ตำรวจปราบเราไม่ได้เหมือน 18 ก.พ. มันใช้วิธีการเดิมใช้สมุน อันธพาลคนชั่วมาก่อเหตุร้าย เมื่อคืนมาขว้างระเบิดที่ประตูน้ำ ประชาชนบาดเจ็บ 6 ราย ก่อนหน้านั้น วันที่พวกเราไป ศรส. พวกมันเอาปืนเอ็ม 79 เล็งไปที่ ศรส. ยิ่งใส่ตำรวจ ยิงผิดที่ตกห่างไป 150 เมตร มันต้องการใส่ร้ายพวกเราให้ตำรวจเข้าใจผิดว่าเรายิ่งตำรวจ ผมบอกพี่น้องตำรวจตั้งสติให้ดี แล้วจะเห็นความชั่วของคนที่ทำงานให้ จะฆ่าพวกท่านแล้วโยนความผิด ยืนยันว่าพวกเราไม่มีอาวุธ สู้ด้วยมือเปล่า ขอให้ตำรวจได้เข้าใจ และไตร่ตรอง"

เตือน นปช. เข้าใกล้ กปปส. อาจเจอ "ป็อปคอร์น" - ขอร้องคนไทยด้วยกันอย่าตั้งตัวเป็นศัตรู

"เลวกว่านั้นก็คือ พวกมันกำลังคิดแบ่งแยกประชาชน นี่ประกาศเลย ที่ยายนกแสก จตุพร ณัฐวุฒิ นัดชุมนุม นปช. ที่โคราชวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) แล้วประกาศว่า นปช. ลั่นกลองรบ ชุมนุมโคราช เราจะคอยดูว่ามีสักเท่าไหร่ แล้วจะเอาไปทำอะไร บอกเสียก่อนนะโว้ย ถ้าคิดมารบกับเรา เราไม่รบด้วย เราเป็นพลเมืองดี ไม่ใช่โจร ไม่รบรากับใคร แต่ว่าขอเตือนให้รู้ไว้ เห็นเราเป็นพลเมืองดีมือเปล่าอย่างนี้ อย่าผลีผลามวิ่งเข้ามาหาเรานะ เดี๋ยวมึงเจอพ่อค้าป็อปคอร์นเข้าจะมาโกรธเราไม่ได้นะเว้ย"

"ขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะอยู่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางหรือภาคไหนก็แล้วแต่ พวกเรามวลมหาประชาชนไม่เคยคิดเป็นศัตรูกับประชาชนด้วยกัน ไม่มีครับ อย่ามารบรากับพวกผมเลย เราไม่ได้เห็นพี่น้องเป็นศัตรู เราไม่ได้สู้เพราะมักใหญ่ใฝ่สูงอยากจะได้อำนาจ ไม่ใช่เลยครับ พวกเรามวลมหาประชาชนสู้เพื่อให้ชาติอยู่รอด ไม่ให้ประเทศไทยเจ๊ง ไม่มีคิดเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีใครบ้าอำนาจแบบคนตระกูลชินวัตร พวกผมยืนยันสู้แล้วพวกผมกลับบ้านทุกคน เพราะฉะนั้นขอได้โปรดตั้งสติให้ดี อย่าเป็นเครื่องมือของเขา แล้วคิดเอาเองว่าพวกผมเป็นศัตรู พวกเราไม่เป็นศัตรูกับประชาชนไทยกลุ่มไหนทั้งสิ้น ใส่เสื้อแดงเสื้อเขียวเป็นพี่น้องเรา เราอยากชวนท่านมาร่วมต่อสู้กับพวกเรา ถึงแม้ท่านไม่พร้อมมาต่อสู้กับเรา ท่านก็อย่าตั้งตัวเป็นศัตรู เราคนไทยด้วยกัน อย่าขายชีวิตให้คนโกงชาติโกงบ้านเมือง ให้กับคนที่เห็นชีวิตประชาชนไม่มีความหมาย ตั้งสติค่อยๆ คิดก็ได้ ไม่เป็นไร นั่งอยู่กับบ้านเฉยๆ รอมวลมหาประชาชนชนะแล้ว ท่านทั้งหลายจะได้เห็นเองว่าผลที่มวลมหาประชาชนต่อสู้นั้นได้ผลดีเกิดขึ้นกับครอบครัวท่านเหมือนกัน" จากนั้น สุเทพจบการปราศรัย และร้องเพลงสู้ไม่ถอยร่วมกับผู้ชุมนุม