สธ.เสียงแตก กลุ่มแพทย์ประชาธิปไตยค้านการนำองค์กรเคลื่อนไหวการเมือง

 

12 ก.พ.2557  นพ.ภีศเดช สัมมานันท์ บุคลากรแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุข เพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ล่าสุดตนและ นพ.ธีรวัฒน์ วงศ์ตัน ตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย พร้อมทั้ง พล.ร.ต.นพ.สมยศ สำราญบำรุง ตัวแทนกลุ่มแพทย์และผู้รักประชาธิปไตย ได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงท่านรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผ่านไปยัง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและประชาชนทุกคน

 โดยกลุ่มบุคลากรด้านสาธารณสุขเหล่านี้ ประกอบด้วย กลุ่มแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร และบุคลากรทางด้านสาธารณสุขอื่นๆ ทั่วประเทศ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ทั้งในสังกัดมหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข และสังกัดอื่นๆ ร่วม 800 คนทั่วประเทศ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้จึงขอแสดงความเห็นถึงท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านไปยังท่านรักษาการนายกรัฐมนตรี และประชาชน ดังนี้

1.เรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการอ้างตำแหน่ง หรือสถาบันทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งองค์กรจะมีความคิดเห็นทางการเมืองไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด เพื่อไม่ละเมิดสิทธิบุคคลอื่นที่เห็นต่าง และสถาบันทางการแพทย์และสาธารณสุขควรเป็นกลางทางการเมือง เพื่อให้ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากประชาชนทุกกลุ่ม

2.ขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ห้ามมิให้บุคคลใดเรียกร้อง หรือกระทำการใดเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้แก่ การเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการลาออก การเรียกร้องรัฐบาลหรือสภาที่มาจากการแต่งตั้ง หรือการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง

3.จากโครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการอยู่ทำให้มีปัญหาในการจ่ายเงินชาวนาส่วนใหญ่ซึ่งมีฐานะยากจนมีความเดือดร้อน จึงขอร้องให้ทุกฝ่ายเห็นใจในความเดือดร้อนของชาวนา ไม่ใช้ความเดือดร้อนของชาวนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และช่วยเหลือชาวนาอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตขอให้มีการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีอคติเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

4.เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตที่ยังเลือกตั้งไม่เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 93 ให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบทุกเขตโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เพราะรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจหน้าที่เต็มในการดูแลและแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ รวมทั้งปัญหาของชาวนาและเราเชื่อว่าการหันมาเจรจากันระหว่างรัฐบาลและฝ่ายผู้ชุมนุม เพื่อให้ได้ข้อตกลงในการปฏิรูปประเทศตามระบอบประชาธิปไตย จะนำไปสู่ความสงบและความเจริญของประเทศชาติได้ในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ วันที่ 11 ก.พ. เครือข่ายบุคลากรทางการเแพทย์และสาธารณสุข ประกอบด้วย คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย 8 แห่ง ได้แก่ ศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ม.สงขลานครินทร์ ม.ธรรมศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.นเรศวร ม.รังสิต ม.บูรพา คณบดีคณเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัย 6 แห่ง นายกแพทยสภา นายกทันตแพทยสภา นายกสภาการพยาบาล นายกสภาเภสัชกรรม นายกสภาเทคนิคการแพทย์ นายกสภากายภาพบำบัด นายกสัตวแพทยสภา และประชาคมสาธารณสุข 23 องค์กร ร่วมกันออกแถลงการจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาการลาออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ และเปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลางที่ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้เข้าแก้ไขปัญหาชาวนา จัดการเลือกตั้ง และนำประเทศเข้าสู่การปฏิรูปแบบจริงจัง

แพทยสภาแจงไม่เคยมีมติให้ยิ่งลักษณ์ลาออก

ด้านนายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในไทย 47,000 คน ทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ ที่ผ่านมาทางแพทยสภามีมติเป็นกลางทางการเมืองและยังไม่มีมติใดๆ ในเหตุการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะการเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออก ดังนั้นการที่นายกแพทยสภาได้ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองจึงถือเป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่จากมติกรรมการแพทยสภา ที่เป็นตัวแทนของแพทย์ทั้งประเทศ โดยในวันที่ 13 ก.พ.จะมีการประชุมบอร์ดในประเด็นดังกล่าว

พล.ร.ต.นพ.สมยศ สำราญบำรุง ประธานกลุ่มแพทย์และผู้รักประชาธิปไตย กล่าวว่า แพทย์ไม่ควรนำองค์กรมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ถึงแม้แพทย์มีสิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้แต่ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นในนามบุคคล ไม่ได้มีสิทธิทางการเมืองมากกว่าประชาชน และไม่ควรใช้สถานะของตนเองมาเพิ่มน้ำหนักให้กับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ โดยพึงระลึกไว้ว่าหน้าที่หลัก คือ ดูแลรักษาสุขภาพประชาชนทุกฝ่าย โดยต้องไม่อาศัยประโยชน์จากความเป็น "แพทย์หรือการประกอบวิชาชีพแพทย์" เพื่อมุ่งหวังในการเพิ่มน้ำหนักให้กับการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำวันเดียวกันก็มีการจัดตั้งเพจ สมัชชาปกป้องเกียรติภูมิวิชาชีพแพทย์พยาบาลและสาธารณสุข เผยแพร่ข้อมูล ความคิดเห็นของคนในแวดวงสาธารณสุข ซึ่งมีแนวทางเห็นต่างกับเครือข่ายที่เรียกร้องให้มีรัฐบาลคนกลาง

ที่มาบางส่วนจาก เว็บไซต์มติชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท