7 ก.พ. 2557 - สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PERMAS) สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (สนมท.) และองค์กรเครือข่าย ออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PERMAS)
ฉบับที่ : 1/2557
เรื่อง : กรณีคนร้ายกราดยิงครอบครัวนายเจะมุ มะมัน เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต 3 ราย

 
เนื่องด้วยเหตุการณ์คนร้ายสวมชุดดำประมาณสิบคนได้ซุ่มกราดยิงครอบครัวของนายเจะมุ  มะมัน หลังกลับจากมัสยิด หมู่ที่ 7 บ้านปะลุกาแปเราะ ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2557 เป็นเหตุให้นายเจะมุ มะมัน และนางฟาดีละ แมยู ภารยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้รับบาดเจ็บ และลูกอีก 3 คนเสียชีวิตประกอบด้วย เด็กชายมูยาเฮด มะมัน อายุ 11 ปี, เด็กชายบาฮารี มะมัน อายุ 9 ปี  และเด็กชายอีลยาส มะมัน อายุ 3 ปี
 
สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PERMAS) เป็นองค์กรร่มขององค์กรนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี ที่มีจุดยืนทางการเมืองในการขับเคลื่อนสันติภาพ ตามเจตนารมความต้องการของประชาชนปาตานี โดยยึดหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนสากล
 
ตลอดระยะเวลา 10 ปี กับสงครามระลอกใหม่ที่ปาตานี คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับเหตุการณ์ครั้งนี้อันเป็นการกระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ ผิดหลักการทำสงครามตามกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 อนุสัญญาเกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในยามสงคราม (Convention Relative to the Protection of Civilian Persons in the Time of War) ส่งผลสะเทือนใจต่อประชาชนปาตานีเป็นวงกว้าง
 
สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PERMAS) ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวนายเจะมุ มะมัน และขอประณามการก่อเหตุสะเทือนใจในเหตุการณ์ครั้งนี้
 
ขอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งหลักในพื้นที่สงคราม ซึ่งหมายถึงรัฐไทยและขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ หรือ BRN ดังต่อไปนี้
 
1. รัฐไทยจะต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ควรด่วนสรุปว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการกระทำของกลุ่มใดหรือบุคคลใด หากหลักฐานและข้อเท็จจริงยังไม่เป็นที่ยุติ
 
2. ขอให้คู่สงคราม กระทำสงครามภายใต้กฎระเบียบ กาติกาที่เป็นสากล (Geneva Conventions)
 
3. ขอให้คู่สงคราม รับประกันความปลอดภัยของครอบครัวนายเจะมุ มะมัน ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนปาตานีว่าจะหลีกเลี่ยงการปะทะในพื้นที่ชุมชนและการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
 
ด้วยจิตรักในสันติภาพ
5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557

แถลงการณ์ กรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามสังหาร "ครอบครัวมะมัน" เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต 3 ราย

สืบเนื่องจากเหตุการณ์คนร้ายได้บุกเข้าไปยิงครอบครัวของนายเจะมุ  มะมัน หลังกลับจากมัสยิดที่บ้านเลขที่ 153/4 หมู่ที่ 7 บ้านปะลุกาแปเราะ ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นเหตุให้นายเจะมุ มะมัน และนางฟาดีละ แมยู ผู้เป็นภารยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส และส่งผลให้ลูกอีก 3 คนเสียชีวิต ประกอบด้วย เด็กชายมูยาเฮด มะมัน อายุ 11 ปี, เด็กชายบาฮารี มะมัน อายุ 9 ปี  และเด็กชายอีลยาส มะมัน อายุ 6 ปีซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดระยะที่ผ่านมาเด็กและสตรีมิใช่ลูกหลงอีกต่อไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (สนมท.) ในฐานะองค์กรแกนนำของนิสิตนักศึกษามุสลิมในประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียของครอบครัวนายเจะมุ มะมัน  และขอประณามการพยายามสังหารหมู่ที่มีเด็กและสตรีเป็นเหยื่ออันเป็นการแสดงถึงการกระทำอันป่าเถื่อนและไร้ซึ่งมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง และขอเรียกร้องให้บรรดานิสิตนักศึกษาและภาคประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประณามต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอีกด้วย
 
ทั้งนี้ทางสมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (สนมท.) จึงขอเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดังนี้

1. ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด พร้อมกับให้มีกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่โปร่งใส เป็นไปตามหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน

2. ขอให้คู่ขัดแย้งในพื้นที่ทุกฝ่ายงดเว้นการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือน โดยเฉพาะ เด็ก ผู้หญิง คนชรา ตลอดจนผู้นำศาสนาทุกศาสนา

3.ขอให้สื่อมวลชนในฐานะตัวกลางในการกระจายข่าวสารต้องนำเสนอเหตุการณ์ดังกล่าวตามความเป็นจริงให้กว้างขวาง และสะท้อนการกระทำอันโหดเหี้ยมนั้นสู่พื้นที่สาธารณะ ตลอดจนเป็นหนทางหนึ่งในการกดดันและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

ด้วยจิตวิญญาณรักสันติ
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (สนมท.) และองค์กรเครือข่าย
6  กุมภาพันธ์ 2557