ม.บูรพาจัดกิจกรรม ‘จุดเขียนเทียนสันติภาพ’ PEACE PLEASE … ขอสันติกลับคืนสู่ประเทศไทย

ภายใต้ความขัดแย้งความแตกแยกทางความคิดและความรุนแรงทางการเมืองในสังคมไทย ยังคงมีแสงสว่างจากเปลวเทียนเล็กๆที่กำลังส่องสว่างท่ามกลางความมืด จากเทียนเล่มเล็กเพียงหนึ่งเล่ม ก็เพิ่มจำนวนเป็นสองเล่ม สามเล่ม ห้าเล่ม สิบเล่ม ร้อยเล่ม ด้วยความหวังว่าแสงสว่างเล็กๆ ที่รวมตัวกันนี้จะช่วยส่องสว่างชี้ทางออกที่ดีที่สุดให้แก่สังคมไทยได้

กระนั้นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องสันติภาพนี้ก็ถูกตั้งคำถามจากหลายส่วนของสังคมว่าการกระทำนี้เป็นกลางจริงหรือเป็นแค่การกระทำของคนอีกฟากฝั่งกันแน่? หรือกระทั่งคำถามว่า ทำไปเพื่ออะไร? จัดกิจกรรมนี้ไปแล้วมันจะเปลี่ยนหรือส่งผลอะไรได้แค่ไหนหรือ? เราจึงจะนำคำถามเหล่านี้ไปสัมภาษณ์ผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อนำเสนอความคิดของเขาออกสู่สังคม

นายณัฐวุฒิ ขุนเมือง ประชาชนที่ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรม “จุดเขียนเทียนสันติภาพ” ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยบูรพาเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2557 ให้สัมภาษณ์กับเราว่า “ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม หรือการกระทำ ข้อเรียกร้องที่ทำให้เกิดความรุนแรง ขัดขวางประชาธิปไตย เวทีนี้เป็นที่ที่เราได้มาแสดงออกถึงพลังของคนที่ไม่เห็นด้วยกับ กปปส. หรือเหตุผลอะไรก็ตาม เพื่อแสดงว่ายังมีคนอีกหลายคนที่ต้องการแสดงพลัง ถามว่าเป็นกลางหรือไม่อันนี้ไม่สามารถตอบได้ คนที่ไม่เห็นด้วยกับ กปปส. ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสื้อแดง ถามว่าแล้วการเป็นคนเสื้อแดงผิดหรือ? ถามว่าส่งผลมากหรือน้อย อันนี้ไม่รู้จริงๆ แต่จากการที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อวานนี้ รู้สึกว่ามีคนให้ความสนใจที่จะแสดงออกทางการเมือง บางคนเป็นป้าแก่ๆ ที่มายืนถือป้าย ไม่รู้แกจบปริญญาห้าใบรึป่าวนะ แต่แกก็มาแสดงความคิดเห็นผ่านกิจกรรมซึ่งมันเปนภาพที่งดงามนะสำหรับผม ส่วนตัวคิดว่าการแสดงออกครั้งนี้คงส่งไปถึงทุกคน ทุกฝ่าย ว่าประชาชนจับตาดูคุณอยู่ วันนี้พวกเค้าทุกคนรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาจะได้รับหากมีสิ่งที่ไม่เป็นไปตามครรลองเกิดขึ้น ประชาชนไม่โง่ และไม่เคยโง่”

นายรวิพล ลี้มิ่งสวัสดิ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา หนึ่งในนิสิตนักศึกษาที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมมองว่ามันเป็นสิทธิของเขาที่จะคิดอย่างนั้นนะครับผมคงไม่สามารถไปห้ามความคิดเขาได้ แต่พึงสังเกตว่าเราออกมาเรียกร้องไม่อยากให้เกิดความรุนแรง คือเอาง่ายๆงานนี้ประเด็นหลักใหญ่สำคัญคือยุติความรุนแรงส่วนแต่ละคนจะมาจากไหนความคิดอย่างไรมันก็เรื่องปลีกย่อยนะครับ อีกอย่างเรื่องกลางไม่กลางเนี่ยมันไม่มีใครเขากลางจริงๆหรอกครับ เราก็ไม่กลางเราเข้าข้างสันติภาพกันไง ส่วนประเด็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมหลังจัดกิจกรรมนี้แล้วอันนี้ยอมรับว่าไม่ทราบจริงๆว่าจะเกิดผลอะไรหรือเปล่าแต่อย่างน้อยๆก็มีคนที่รับรู้ว่ามีคนต้องการสันติภาพมากกว่าความรุนแรงแล้วแน่นอน แต่ถ้าจะคาดคั้นเอาว่าคิดว่าจะส่งผลอะไรหรือเปล่า คงบอกว่าไม่ เพราะ มวลชนที่เลือกข้างไปเรียบร้อยแล้วในเลนส์ตาของเขาเต็มไปด้วยอคติ ประสาทหูหยุดการรับข้อมูลอีกฝั่งไปนานแล้ว เขาเชื่อแกนนำของเขาและพร้อมที่จะมุ่งสู่ความรุนแรงเสมอ”

ทางด้านนายฤชานนท์ เมืองนก นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ตัวแทนกลุ่มรัฐราษฎร์หนึ่งในผู้ร่วมจัดงาน “จุดเทียนเขียนสันติ” ได้ตอบคำถามกับเราว่า “เป็นกลางไหมแล้วแต่คนจะคิดส่วนตัวผมคิดว่าเป็นการแสดงพลังเพื่อปกป้องสิทธิตนเองและเตือนสติอีกฝั่งหนึ่งให้รู้ว่าในระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่สิทธิ์ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งแต่ต้องรับฟังกันทุกฝ่ายและเดินตามกติกา ทั้งนี้เราทำไปเพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้าน ความรุนแรงและเดินตามกติกาประชาธิปไตยอย่างตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดแย่งอำนาจอธิปไตยของเราไป ส่วนในแง่ของการส่งผลอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ทั้งนี้อาจจะไม่สำคัญอะไรเท่ากับการที่ประชาชนออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์และสร้างพื้นที่ของตนเพื่อให้เป็นการต่อรองและทัดทานอำนาจของกลุ่มคนฝั่งใดฝั่งหนึ่งให้อยู่ในกรอบและเล่นตามกติกาในระบอบประชาธิปไตยครับ”

จากการสัมภาษณ์แล้วการจัดกิจกรรมนี้แม้ในรายบุคคลจะมีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการจัดกิจกรรมจะกระทำไปเพื่อหวังผลทางการเมืองสิ่งที่ผู้ร่วมงานและผู้จัดงานมีจุดร่วมกันอย่างชัดเจนคือ เขายังตั้งความหวังไว้ว่าแสงเทียนในมือพวกเขา และเสียงเล็กๆของพวกเขาจะสามารถส่งต่อออกไปสู่สังคมเพื่อเรียกร้องสันติภาพ ต่อต้านความรุนแรง เพราะถึงที่สุดแล้วคงไม่มีใครต้องการเห็นภาพที่คนไทยด้วยกันต้องออกมาทำร้ายหรือฆ่าฟันกันเพียงเพราะเราคิดไม่เหมือนกัน.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท