เลขาธิการ กปปส. ย้ำ 'ปิดกรุงเทพ' 13 ม.ค. จะเคลื่อนไหวตามแนวทางสันติวิธี ไม่ปะทะ ขอให้ผู้ชุมนุมยึดมติแกนนำปักหลัก 7 พื้นที่ เช้าปิดล้อมสถานที่ราชการ-เย็นกลับที่ตั้ง ป้องกันถูกลอบกัด พร้อมขอวินรถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ เสียสละ-อย่าเป็นศัตรูกัน ชวนคนเสื้อแดงละทิ้งจากแกนนำกระหายอำนาจ มาร่วมกันปฏิรูป

10 ม.ค. 2557 - เมื่อคืนวานนี้ (9 ม.ค.) สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นปราศรัยทีเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายหลังจากเดินขบวนไปฝั่งธนเมื่อช่วงกลางวัน โดยตอนหนึ่งกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนฝั่งธนบุรีที่มารอสนับสนุน ขอบคุณผู้สนับสนุนระหว่างเดินผ่าน โรงเรียนศึกษานารี สาธิตมหาวิทยาลัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่กรี๊ดสุดคือพาณิชยการราชดำเนิน ได้จับมือกับกำนันก็เต้นสนุกเลย ทวีทาภิเศก ชิโนรสวิทยาลัย มีน้องๆ มาต้อนรับ สตรีวัดระฆังเรามาถึงค่ำแล้ว ต้องขอขอบคุณน้ำใจน้องๆ

สุเทพปราศรัยต่อไปว่าการเดินขบวนวันที่ 9 ม.ค. ประสบความสำเร็จในการเชิญชวนพี่น้องชาวฝั่งธนบุรีมาร่วมปิดกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 13 ม.ค. เป็นต้นไป เชื่อว่าเฉพาะพี่น้องฝั่งธนบุรีจะต้องมาร่วมอย่างน้อย 4-5 แสนคนขึ้นไป ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันหมดไม่มีใครออกมาต่อต้านแบบที่รัฐบาลอ้าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ปิดบัญชีก็ทำให้คนมาบริจาคมาก ก็ขอบคุณธาริตเสียหน่อย

ย้ำ กปปส. จะรักษาแนวทางต่อสู้สันติ ขอให้ทุกคนฟังแกนนำ

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายธาริต ได้ออกหมายจับเขาและแกนนำ กปปส. อีก 35 คน แต่ศาลไม่อนุมัติ ต้องขอบคุณศาล จะได้ทำงานต่อไป แต่ที่ผ่านมา กปปส. ต่อสู้โดยสันติ ปราศจากอาวุธ ไม่มีความรุนแรง ตรงนี้จะเป็นเครื่องประกันว่าพลเมืองดีได้ต่อสู้อยู่ในกรอบที่กฎหมายรัฐธรรมนูญรับรองสิทธิ เมื่อรัฐบาลทรยศประชาชน ลุแก่อำนาจ ไม่ฟังเสียงประชาชน ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ไม่เคารพหลักนิติธรรม แต่รัฐบาลนี้ไม่สนใจหลักกฎหมาย เอาหลักอำเภอใจตัวเองเป็นสำคัญ บังอาจเอาอำนาจประชาชนไปใช้ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนและพี่ชาย ให้ได้เงินยึดทรัพย์คืน กลับมาเมืองไทยเพื่อเสวยอำนาจ เอาอำนาจที่ประชาชนมอบให้ไปล้างผิดให้ฆาตกรฆ่าตำรวจ ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน เผาบ้านเผาเมือง อย่างนี้เป็นการทรยศประชาชน ผิดหลักการที่สากลปฏิบัติ ยังทำผิดต่อรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิด แต่ก็ยังเชิดคออยู่ไม่ไปเสียที จึงเป็นสิทธิประชาชนลุกขึ้นมาไล่ให้ออกไป เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

สุเทพย้ำว่า "เราต้องรักษาแนวทางต่อสู้นี้อย่างเคร่งครัด อย่าออกไปนอกแนว เมื่อมวลมหาประชาชนมีความเมตตา มีความไว้วางใจผม ต้องขอความกรุณาพี่น้อง ให้มีวินัย ฟังผม และเดินในแนวทางที่ผมได้กราบเรียน สิ่งที่ผมพูดนั้นผมพูดแทนมวลมหาประชาชนส่วนใหญ่ คิดอย่างนั้นทุกคน ต้องปฏิบัติตามอย่างนั้น เหมือนที่ผมเรียนแล้ว ไม่ต้องคิดสู้กับใคร"

13 ม.ค. เกิดเรื่องไม่ต้องปะทะ ให้สวดมนต์ลูกเดียว ย้ำปิด 7 แยกเท่านั้นห้ามแถม

"คำว่าไม่คิดสู้ใครหมายความว่า ไม่คิดสู้กับใครด้วยกำลัง ด้วยอาวุธ ด้วยความรุนแรง แต่จะยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณด้วยพลังของประชาชน ด้วยมือเปล่าของเราทุกคน เราจะยืนหยัดเป็นนักรบมือเปล่า เอาชนะมันให้ได้ แต่เราจะไม่ลุแก่โทสะ ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะส่งเจ้าหน้าที่มายั่วยุ ส่งอันธพาลมาก่อกวน หรือแม้นาทีสุดท้ายไอ้จตุพร ณัฐวุฒิ หมอเหวง ธิดา วีระ สาระเลวทั้งหลายนั้นเกณฑ์คนมารบกับเรา เราก็จะไม่รบกับมัน ถ้าพี่น้องทำได้อย่างนี้ ผมการันตี รับประกัน ชนะอย่างขาวสะอาด โลกจะยกย่องและจารึกเอาไว้"

"วันที่ 13 ม.ค. จะจัดพิมพ์บทสวดมนต์แจกจ่าย พกใส่กระเป๋าเอาไว้ คนร้ายมารังแกเรามาราวีเรา เรานั่งสวดมนต์ลูกเดียวไม่ต้องลุกขึ้นทุบตีกับใคร "อิติปิโสภควา อะระหังสัมมา" ท่องมันเข้าไปทั้งวัน ให้โลกได้ยิน เอาวิธีนี้ และในการปฏิบัติการ ตั้งแต่ 13 ม.ค. เป็นต้นไป ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติเฉพาะตามแนวทาง ตามแผนปฏิบัติการที่ผมได้ประกาศต่อพี่น้องอย่างเปิดเผยเท่านั้น ไม่ทำนอกเหนือกว่านั้น ไม่มีของแถม เช่น เมื่อประกาศชัดเจนว่าจะปิดถนน 7 แห่ง แจ้งวัฒนะ ห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปทุมวัน ลุมพินี ราชประสงค์ อโศก ก็ทำแค่ 7 แห่ง ไม่ต้องแถมตรงอื่น จนกว่าผมจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องแถมเด็ดขาด"

เช้าไปสถานที่ราชการ-มืดกลับ ป้องกันถูกลอบกัด ไม่ปิดสนามบิน-ขนส่ง

สุเทพปราศรัยว่า "ตั้งหลักที่ 7 แห่งนี้ ประกาศให้รัฐบาลรู้ตัวล่วงหน้า เราจะทำเท่านี้ จะนั่งอยู่ 7 แห่งนี้ ยึดเป็นที่มั่น เช้ามืดกระจายกำลังจาก 7 แห่งนี้ปิดสถานที่ราชการทั่วกรุงเทพฯ เย็นกลับ ดูแลรักษาง่าย ดูแลความปลอดภัยง่าย ดูแลพี่น้องง่ายดีกว่าไปค้างอ้างแรมตามกระทรวง ตามกรมต่างๆ ซึ่งอาจจะถูกพวกอันธพาล สมุนบริวารยิ่งลักษณ์ไปข่มเหงรังแก ลอบกัดในเวลากลางคืน"

"ย้ำนะครับปิด 7 แห่งนี้ และกระทรวง ทบวง กรม ทั้งหลายเท่านั้น ฟังผู้จัดการเวทีแต่ละเวที ว่าแต่ละวันจะพาพี่น้องแต่ละเวทีไปปฏิบัติการตรงไหน ไม่ออกไปเอกเทศไม่มีใครต่อสู้อิสระได้ เราต้องเป็นนักรบมีวินัย เพราะเราสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เดิมพันยิ่งใหญ่ ทำตามอำเภอใจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้"

"ประกาศให้โลกรู้ เราไม่ปิดสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ปิดทางรถไฟ ไม่ปิดสถานีรถไฟ ไม่ปิดสถานีขนส่งรถยนต์ ไม่ยุ่งกับเรื่องการคมนาคม ท่าเรือแหลมฉบังเราก็ไม่ปิด เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องประชาชนจะเป็นสังกัด กปปส. จังหวัดไหนก็ตาม ถ้ามีความประสงค์จะเข้าร่วมการต่อสู้กับเราคราวนี้ต้องต่อสู้ตามขอบเขตที่เรากำหนดจาก กปปส. ส่วนกลาง ขอความกรุณาพี่น้องได้มีวินัยเช่นเดียวกับพวกเราที่นี่ทุกคน"

ไม่ปิดตลาดหลักทรัพย์-ธนาคาร ไม่ถอนเงิน ทำอะไรจะค่อยๆ ยกระดับ

"ไม่มีการปิดตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารไหนๆ บางคนเลยเถิดว่าจะปลุกระดมไปถอนเงินจนธนาคารล่ม ไม่ได้ๆๆ เดี๋ยวพอเราชนะขึ้นมาเราต้องแก้ปัญหาหนัก เดี๋ยวบ้านเมืองเสียหาย ไม่ได้ๆ ต้องไม่ทำ"

"ต้องขีดเส้นใต้ 4 เส้น ไม่ปิดตลาดหลักทรัพย์ ไม่ปิดธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ปิดธนาคารพาณิชย์ทั้งสิ้น ทำเท่านี้ แล้วถ้ายังไม่พอ เดี๋ยวหาทางจัดการตัวนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ครม. อย่างนั้นได้ผลกว่า ค่อยๆ ยกระดับไป วันที่ 13 ม.ค. บอกพี่น้องข้าราชการในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ไม่ต้องไปทำงาน หยุดยาวเลย หยุดงาน พักร้อน โดยไม่ต้องเสียจำนวนวันลาพักร้อน เรียกว่ามวลมหาประชาชนแถมวันพักร้อนให้พิเศษ โบนัสพิเศษละกัน ไม่ต้องไปปฏิบัติราชการที่ไหนทั้งสิ้น ไม่ต้องลา ตอบว่าไปไม่ได้ รถติด ประชาชนปิดหมดแล้ว ไปไม่ได้ แล้วถ้าใครดื้อไปก็จะผิดหวัง เพราะพอไปถึงที่ทำงานต่อเช้าก็เข้าไปทำงานไม่ได้ เราปิดหมด เพราะฉะนั้นผมแนะนำเลยพี่น้องข้าราชการไหนๆ ก็หัวใจมากับเราแล้ว คล้องโซ่เองเลยแล้วมาร่วมชุมนุมกับเราดีกว่า"

"พี่น้องประชาชนทั่วไป เราไม่ประสงค์ที่จะทำให้เดือดร้อน พยายามให้เดือดร้อนน้อยที่สุด ปิดถนนหมด แต่ว่าจะเว้นเลนรถเมล์ ให้รถเมล์วิ่งผ่าน รถพยาบาลวิ่งผ่านได้ รถทัวร์นักท่องเที่ยว รถโรงแรม รถของร้านอาหารที่เอาผักเอาอาหารไปทำในร้าน ขนสินค้าไปขายให้วิ่งได้ในเลนนั้น นี่เอื้อเฟื้อขนาดนั้น และแท็กซี่ติดธงชาติให้วิ่งได้"

ขอวินรถตู้อนุสาวรีย์ชัยอย่าตั้งตัวเป็นศัตรู ถ้าระบอบทักษิณยังอยู่ ไม่มีวันได้เป็นเสรีชน

สุเทพกล่าวต่อไปว่า "วันนี้ ผมได้ข่าวว่ามีวินรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประท้วงใหญ่ ไม่ต้องประท้วง เราไม่ได้คิดเป็นศัตรูกัน แม้เราจะรู้ว่าการที่ท่านทำวินรถตู้ไม่ชอบมาพากลอยู่ แต่เราถือว่านั่นวิธีทำมาหากินของท่าน เราไม่แตะต้อง ท่านเสียสละให้เราหน่อย อย่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับมวลมหาประชาชน ไม่เป็นผลดีบอกไว้ก่อน ท่านทำรถตู้ ท่านมีลูกมีหลาน ถ้าทักษิณกลับประเทศไทยได้ ระบอบทักษิณยังอยู่ ลูกหลานของพวกทำรถตู้ต้องเป็นขี้ข้าทักษิณตลอดชาติ ไม่มีวันได้เป็นเสรีชน ที่มวลมหาประชาชนต่อสู้เพื่อปลดแอกให้ลูกหลานเติบโตอย่างเป็นเสรีชน ยืนหยัดด้วยความมีอิสรภาพ มีเสรีภาพ 100% ไม่เป็นขี้ข้าตระกูลชินวัตร ท่านก็ได้ประโยชน์ ขอส่งข่าวสารไปว่าอย่ามีเวรมีกรรมแก่กันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขตามแต่อัตภาพแต่ละคนเถอะ"

ชวนคนเสื้อแดงละทิ้งจากแกนนำ มาร่วมปฏิรูปประเทศ

"แม้แต่มวลชนเสื้อแดง ผมยืนยันเปิดหัวใจแทนมวลมหาประชาชนว่าเราไม่คิดจะเป็นศัตรูกับประชาชนด้วยกัน อย่าทำตัวเป็นจิ้งหรีดให้เขามาปั่นหัวแล้วสู้กันเอง เพราะทั้งท่านและพวกเราเป็นประชาชนคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้กอดคอกันปฏิรูปประเทศเพื่ออนาคตลูกหลานไทยดีกว่าครับ"

"ให้พี่น้องมวลชนเสื้อแดงลองไปทบทวนดูตั้งแต่ต่อสู้ให้กับทักษิณได้อะไรไปบ้าง รู้ไหมว่าณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. จากไม่มีอะไรกินเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ไม่รู้กี่ร้อยล้าน จตุพร คางคก ใส่นาฬิการาคาเป็นล้านบาท คนเสื้อแดงได้อะไร ไปดูว่าคนเหล่านี้อยู่อย่างไร ขนาดคนกระจอกอย่างอริสมันต์รับจ้างก่อเหตุวันนี้เมียมันยังทำสายการบิน เสื้อแดงตาไม่สว่างหรืออย่างไร ว่างๆ ไปเยี่ยมบ้านธิดา หมอเหวงบ้านสิครับ แล้วเทียบกับบ้านเสื้อแดงที่ยอมตายถวายชีวิตเพื่อทักษิณว่าขนาดไหน หรือดูร้านอาหารวีระที่อังกฤษก็ได้ ไปดูแล้วจะรู้สึก พอเถอะครับพี่น้อง พอกันที กลับมาสามัคคีกับมวลมหาประชาชนเป็นอันหนึ่งอันเดียวดีกว่า ไอ้แกนนำนั้นเราจะจัดการให้ และจะถลกหนังให้ดูว่ามีหนังกี่ชั้น"

คนเสื้อแดงตายเพื่อสังเวยความกระหายอำนาจ จึงอยากให้เปลี่ยนสีเสื้อเมื่อรู้ความจริง

"พี่น้องทั้งหลาย มันเคยเสี่ยงชีวิตไหม 2 หน 2 คราว ทั้งปี 2552 และ 2553 มันเอาชีวิตมวลชนเสื้อแดงเป็นเครื่องสังเวยความกระหายอำนาจ กระหายเงิน ให้นายจ้างยึดครองอำนาจ ไม่เคยเสียดายชีวิตประชาชนเสื้อแดง แม้แต่เสื้อแดงด้วยกันยังฆ่า ผมพูดเองพี่น้องอาจจะไม่เชื่อ แต่ธาริต เพ็งดิษฐ์เคยทำรายงานไว้ว่า 17 คนโดยคนเสื้อแดงถูกฆ่าโดยคนชุดดำพวกเดียวกัน และคนสั่งฆ่าคนคือบรรดาแกนนำทั้งหลายที่กระผมเอ่ยชื่อ และไม่ได้เอ่ยชื่อเพราะรองลงไป สิ่งเหล่านี้ผมจะค่อยๆ เอามาเปิดเผยให้ทราบ ผมโชคดีตอนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ไอ้อาริตมันยกย่องผมอยู่ มันถ่ายเอกสาร สำเนาการสอบสวนรายงานผมเรื่อย ผมเก็บเอาไว้ วันนี้ ถึงมันจะแก้สำนวนมันจะพลิกลิ้นอย่างไร หลักฐานที่ผมยังมีอยู่และผมจะต้องแสดงกับศาลในที่สุด พี่น้องครับไอ้ธาริตนี่แสบ ตอนผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี มันทำให้ผมดูหมดเลย ว่าทักษิณบงการอย่างไร สั่งการอย่างไร แล้วก็เขียนผังความเชื่อมโยงระหว่างคนั้นคนนี้ แล้วก็ตั้งชื่อว่า "ผังล้มเจ้า" เตรียมดำเนินคดีกับคนพวกนี้ พอยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ธาริตแถลงเฉยเลยว่าผังล้มเจ้าไม่มีจริง ก็มึงทำเองกับมือน่ะ เฮอะๆๆ แต่เอกสารยังมีอยู่ อายุความคดียังมีพี่น้อง เอาวันที่เราชนะแล้วกัน คิดบัญชีมันแล้วกันว่าทำระยำกับประเทศไว้อย่างไร"

"ผมขอกราบเรียนเชิญชวนพี่น้องประชาชน แม้ท่านจะเคยเป็นคนเสื้อแดง แต่ความเป็นคนเสื้อแดงไม่ได้หมายความว่าใส่เสื้อสีอื่นได้ ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อรู้ความจริงว่าอะไรเป็นประโยชน์กับประเทศในระยะยาว ถอดเสื้อแดงทิ้งมาสามัคคีกับคนทั้งแผ่นดิน มาทำเพื่อแผ่นดินให้ลูกหลานมาเป็นเสรีชน ยืนหยัดมีศักดิ์ศรีในแผ่นดินนี้ ไม่ต้องเป็นขี้ข้าใคร ลืมอดีตให้หมด คิดถึงอนาคตเดินหน้า เรามวลมหาประชาชนขอต้อนรับพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ ทุกภูมิภาค เราคือประชาชนด้วยกันทั้งหมด จะมาแบ่งเขาแบ่งเราทำไม เห็นชัดว่าระบอบทักษิณมันปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน มันโกงเงินภาษีอากร มันโกงเราไปเป็นแสนแสน โยนเศษเนื้อข้างเขียงมาล่อใจประชาชน ชาติเจ๊งชาติขาดทุน อยู่ต่อไปวิบัติ ลูกหลานมันร่ำรวย โง่แสนโง่ก็เข้ามหาวิทยาลัย ลอกข้อสอบได้ ลูกเราทำได้หรือ ให้คนพวกนี้ทำผิดไม่ติดคุก ศาลตัดสินแล้ว มันก็เขียนกฎหมายให้รอดคุกได้เหมือนกฎหมายนิรโทษกรรม แล้วจะมีหลักอะไรในบ้านเมืองเรา ลูกหลานเราไปขโมยกล้วยสักหวีก็ติดคุก นี่ปล้นเงิน 46,000 ล้าน ศาลพิพากษาแล้ว มันจะเอาเงินคืนพี่น้องคิดดู"

ย้ำทหารจะไม่มีวันช่วยยิ่งลักษณ์ เพราะทหารถูกฆ่าที่ราชดำเนิน

"มีใครในประเทศนี้ฆ่าตำรวจแล้วไม่ติดคุก นอกจากพวกมัน มีใครฆ่าทหารที่ราชดำเนิน แล้วเขียนกฎหมายรอดคุกทุกคนมันมีที่ไหน คืนพรุ่งนี้ผมจะเอาภาพมาฉายให้พี่น้องดู พี่น้องจะได้รู้สึก โอ้ บรรดาสมุนบริวารขี้ข้าทักษิณ มันทำกับประเทศเรา ทำกับข้าราชการตำรวจ ทหาร ขนาดนี้ ผมจะให้ดูพรุ่งนี้ พี่น้องจะเข้าใจเลย ว่าที่มันทำกับทหาร ด่าทหารเป็นหมูหมา วันนี้ยิ่งลักษณ์แด๊ะๆ ทหารมาช่วยหน่อย ใครเขาจะช่วยมึงอีโง่ ถ้าทหารคนไหนเข้าร่วมกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปราบประชาชน แสดงว่าทหารคนนั้นทรยศต่อทหารด้วยกัน ใครเค้าจะทำ พวกมึงฆ่าทหาร พวกมึงทำให้ทหารพิการมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ครอบครัวลูกเมียเค้าร้องไห้มาสามปีแล้ว วันนี้มึงจะมาออดอ้อนบีบน้ำตาเท่าไหร่ เขาก็ไม่ช่วยมึง เพราะถ้าเค้าช่วยมึง เค้าก็ไม่สามารถจะเดินถนน มองหน้าทหารเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันได้อีกตลอดชีวิต มึงยังไม่สำนึกอีก คนที่ช่วยมีแต่ 3 ตำรวจชั่วเท่านั้น นอกนั้นมึงไม่เหลือใครแล้ว ไม่ต้องออก นั่งกอดเก้าอี้ตรงนั้นแหละ วันที่มวลมหาประชาชนยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เตรียมตัวถูกยึดทรัพย์ก็แล้วกัน ดูไบก็ไปไม่ทันแล้ว แล้วดูสิว่านับวันจะมีน้ำยารึ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านสุราษฎร์ ไอ้จารุพงศ์ ก็แอ็คอาร์ทสั่งผู้ว่าสอบทั้งสุราษฎร์ แน่จริงมึงสั่งผู้ว่าฯ ปลดกำนัน ผู้ใหญ่บ้านสักคนสิ ดูว่าผู้ว่าฯ จะอยู่สุราษฎร์ได้กี่ชั่วโมง"

จากนั้นสุเทพ ได้พากำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จากชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการขึ้นดวที พร้อมโจมตี รมว.มหาดไทย ไปขึ้นเวทีเสื้อแดง เวทีเดียวกับนักศึกษาอาชีวะที่ถูกกล่าวหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ แต่พอกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแสดงตัวเห็นด้วยกับ กปปส. ในการปฏิรูป กลับสั่งสอบสวน แบบนี้จะเป็นผู้บังคับบัญชาได้อย่างไร ในเมื่อทำตัวทรยศต่อแผ่นดินแล้วบังอาจสอบสวนเขา และกล่าวด้วยว่าบ้านนายจารุพงศ์เป็นเป้าหมายที่มวลมหาประชาชนไปเยี่ยมถึงบ้าน