โฆษก กปปส. ยืนยัน 'ชัตดาวน์บางกอก' ไม่ปิดขนส่งมวลชน-ไม่ตัดน้ำตัดไฟ

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ แถลงชุมนุม 13 ม.ค. จะไม่มีการปิดขนส่งมวลชน-ไม่ตัดน้ำตัดไฟ บ้านเรือนประชาชน ส่วนจุดชุมนุมตามสี่แยกเบื้องต้นยึดตามที่เคยซ้อม 22 ธ.ค. โดยยังคงหารือ 'แก้วสรร-ขวัญสรวง' เพื่อวางแผนออกแบบกิจกรรม เผยขณะนี้มีใบปลิวปลอมอ้างชื่อ กปปส. วอนพิจารณารับข้อมูลข่าวสาร

ที่มาของภาพ: เพจเวทีราชดำเนิน

3 ม.ค. 2557 - ในเพจของเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ได้รายงานว่า เมื่อเวลา 15.15 น. วันนี้ (3 ม.ค.) ที่เวที กปปส. ถ.ราชดำเนินกลาง นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงกรณีนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. และอดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทย์ยื่นฟ้องร้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกคำสั่งอายัดบัญชีแกนนำ กปปส. ต่อศาลอาญารัชดาว่านายถาวรได้ยื่นฟ้องนายธาริตในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และกฎหมายอาญามาตรา 200 เจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เนื่องจากนายธาริตกระทำขัด พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 โดยอ้างอำนาจแห่งพ.ร.บ.ดังกล่าวออกคำสั่งอายัดบัญชีแกนนำกปปส. ซึ่งตามข้อเท็จจริงจะต้องรอให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งเป็นไปตามมาตรา 10 ของพรบ.สอบสวนคดีพิเศษก่อน แต่สิ่งที่นายธาริตกระทำคือกระทำก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา (24 ธ.ค.) ดังนั้นจึงกระทำขัดมาตรา 10

นายเอกนัฎ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายธาริตยังอ้างมาตรา 24 (5) ของพรบ.สอบสวนคดีพิเศษ ที่ระบุว่าก่อนที่จะอายัดหลักฐานต้องมีการพิจารณาไตร่สวนเสียก่อน แต่ข้อเท็จจริงไม่มีการไตร่สวนบุคคลและเอกสาร ซึ่งถือเป็นการอายัดข้ามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม แม้นายธาริตในฐานะเจ้าพนักงานจะสอบสวนเห็นว่ามีการกระทำผิด แต่นายธาริตไม่สามารถอ้าง พ.ร.บ.สอบสวน ในการอายัดบัญชีกปปส. ทั้งนี้ศาลฯนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทย์ครั้งแรกในวันที่ 17 มี.ค. เวลา 13.30 น. นี้

โฆษก กปปส. แถลงถึงกระแสข่าวการปิดจุดต่างๆ เพื่อชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค. นี้ ว่า ข้อเท็จจริงคือขณะนี้ กปปส.ยังคงประชุมร่วมกันกับนายขวัญสรวง อติโพธิ ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง และนายแก้วสรร อติโพธิ ในการวางแผนปิดกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมเดินรณรงค์ใน กทม.เพื่อเชิญให้ประชาชนได้ออกมาร่วมกิจกรรมในวันที่ 13 ม.ค. นี้ จะเดินรณรงค์ในวันที่ 5, 7 แล ะ9 ม.ค. โดยใช้เส้นทาง กทม. ชั้นในถึงฝั่งธนบุรี นอกจากนี้ยังจะจัดงานวันเด็กในวันที่ 11 ม.ค. ด้วย

นายเอกนัฎ กล่าวอีกว่า สำหรับวันที่ 13 ม.ค. เป้าหมายสำคัญ คือ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวไม่สามารรถบริหารราชการได้ โดยจะมุ่งเป้าไปที่การตัดน้ำตัดไฟคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานราชการใน กทม. และจะไม่กระทบหรือกระทบน้อยที่สุดในระบบขนมวลชน ยืนยันว่าไม่มีการปิดรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟใต้ดิน และสนามบิน ทั้งนี้การกำหนดปิดสามแยกและสี่แยก อย่างน้อยที่สุด คือจุดเดิมในวันซ้อมใหญ่วันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา

อนึ่งในการแถลงข่าวช่วงเช้า เอกนัฎ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีขบวนการมืดกำลังกุข่าวที่เป็นเท็จ ทั้งการจัดทำป้ายใส่ร้าย กปปส. ,การเขียนข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางโซเซียลมีเดียต่างๆ และการจัดทำใบปลิวออกมาหลายฉบับ แต่จากการตรวจสอบเนื้อหามีการบิดเบือนและเขียนผิดในหลายจุด จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนและสื่อมวลชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร

นายเอกนัฎ กล่าวว่า วันนี้เวลา 12.00 น. แกนนำ กปปส. จะมีการประชุม เพื่อหาข้อสรุปเส้นทางการเดินรณรงค์ในวันที่ 5 มกราคมเป็นต้นไป รวมถึงแผนมาตรการในการปิดกรุงเทพฯ วันที่ 13 มกราคมด้วย ซึ่งรูปแบบการเดินรณงค์ในวันที่ 5 มกราคม จะเป็นการเดินรณรงค์เชิญชวนให้คนกรุงเทพ ออกมาร่วมกับ กปปส.เหมือนเช่นที่ผ่านมา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท