Skip to main content
sharethis

เลขาธิการ กปปส. ย้ำปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ 13 ม.ค. ไม่ได้ทำให้เกิด 'รัฐที่ล้มเหลว' แต่มุ่งทำให้'รัฐบาลล้มเหลว' บริหารราชการไม่ได้ - จะมีการลุกฮือคู่ขนานใน ตจว.ปิดสถานที่ราชการ ย้ำได้อำนาจรัฐเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้วสุเทพจะไม่รับตำแหน่งใดๆ - ที่มาสภาประชาชน 300 คนมาจากสาขาอาชีพ อีก 100 คนจะให้ 'คณะสรรหา ส.ว.' ตาม ม.113 รธน.50 เป็นผู้คัดเลือก

เมื่อเวลา 19.40 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ กปปส. ได้ปราศรัยที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน โดยตอนหนึ่งยืนยันว่าในวันที่ 13 ม.ค. จะทำการเคลื่อนไหวเพื่อยึดอำนาจอธิปไตย ตั้งรัฐบาลประชาชน สภาประชาชน ปฏิรูปประเทศให้ประเทศไทยมีอนาคตที่แจ่มใส โดยระบุว่า "เช้าวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป เราจะรวมพลังมวลมหาประชาชนมาปิดกรุงเทพฯ "shut down" กรุงเทพฯ

 

ย้ำ 13 ม.ค. ทำให้รัฐบาลล้มเหลว ไม่ใช่ทำให้รัฐล้มเหลว 

สุเทพปราศรัยว่า "มีคนตั้งคำถาม มีฝ่ายรัฐบาลมีการเอาคนมาพูด มาแถลงการณ์ทำลายภาพพจน์มวลมหาประชาชนบอกว่า เราจะทำให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อน บ้านเมืองเสียหาย ผมขออนุญาตอธิบายที่อาจไม่ได้ทราบข่าวมาแต่ต้น การที่พวกเรามวลมหาประชาชน จะปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. นั้น เป็นการแสดงอารยะขัดขืนขั้นสำคัญที่สุด เพื่อที่จะทำให้รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลล้มเหลวในสายตาชาวโลก บริหารราชการไม่ได้อีกต่อไป"

ขอชี้แจงว่าไม่ได้ทำให้เกิดรัฐที่ล้มเหลว 'failed state' แต่เป็นรัฐบาลล้มเหลว เรามาชุมนุมมากที่สุดเมื่อ 24 พ.ย. แต่รัฐบาลยังดื้อด้านกอดเก้าอี้รักษาอำนาจ วันที่ 9 ธ.ค. เดินขบวนหลายล้านคน รัฐบาลทำเพียงยุบสภา นึกว่าประชาชนจะยอม พอใจ แต่ยังกอดเก้าอี้ แข็งแรง 22 ธ.ค. ปิดกรุงเทพฯ ครึ่งวันมืดฟ้ามัวดิน ยิ่งลักษณ์ไปตะแล๊ดแต๊ดแต่อยู่ภาคเหนือ ภาคอีสาน เที่ยวนี้เราจะปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯ ตลอดไปจนกว่ายิ่งลักษณ์จะพ้นรัฐมนตรีรักษาการ

 

ถนนทุกสายเป็นถนนคนเดิน - ตัดน้ำตัดไฟบ้าน ครม. และสถานที่ราชการ - ระบบขนส่งวิ่งปกติ

"ในวันที่ 13 ม.ค. ถนนในกรุงเทพฯ จะเป็นถนนคนเดินทุกสาย ประชาชนมาตั้งเวทีต้านรัฐบาล แสดงพลังไม่ยอมรับรัฐบาลนี้ ทุกสามแยกสี่แยก ข้าราชการไปทำงานไม่ได้แน่นอน ไม่ให้ไป พี่น้องประชาชน จะเอารถยนต์ตัวเองมาจอดขวางไว้ทุกสามแยกสี่แยก แล้วชุมนุมที่นั่น สถานที่ราชการทุกแห่งไม่มีน้ำ ไม่มีไฟใช้ในระหว่างยึดกรุงเทพฯ รวมทั้งบ้านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีด้วย แล้วไม่ต้องมาบิดเบือนว่าประชาชนคนอื่นจะเดือดร้อน เพราะประชาชนทั่วไปไม่มีบ้านไหนถูกตัดน้ำตัดไฟ เพราะเราเป็นประชาชนด้วยกัน มวลมหาประชาชนไม่ทำให้พี่น้อง กทม. เดือดร้อนทั้งสิ้น ยังมีน้ำ มีไฟใช้ ได้เหมือนเดิม เฉพาะบ้านยิ่งลักษณ์และสมุนบริวารเท่านั้นที่เดือดร้อน"

"รถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟใต้ดิน ยังเปิดบริการเหมือนเดิม คนธรรมดาไปไหนมาไหนได้ มาร่วมชุมนุมได้สะดวกทุกคน ถนนที่ยึดไว้จะมีเลนพิเศษสำหรับรถเมล์ เผื่อกรณีฉุกเฉิน จะมีการ์ดเฝ้าไว้ รถราชการห้ามผ่านเด็ดขาด"

 

เริ่มประกาศจุดตั้งเวที เล็งขยายมาที่ 'ห้าแยกลาดพร้าว' ให้กลุ่ม ม.เกษตร รับผิดชอบ

"ทุกสี่แยกทุกสามแยก จะมีเวทีของมวลมหาประชาชน ที่เป็นการรวมตัวของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัย นักธุรกิจ พ่อค้า แม่ขาย มวลมหาประชาชน ศิลปิน นักร้อง นักแสดง เป็นเจ้าของเวทีทุกเวที แต่ละเวทีจะมีการพูดจาปราศรัย สนทนาแลกเปลี่ยนกัน เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย มีการแสดงตามความถนัดที่คนแสดงความจำนงอาสามาจะไปแสดงอะไรบนเวที เพื่อเป็นขวัญกำลังใจมวลมหาประชาชน"

"ทั้งนี้สุเทพ ได้เริ่มประกาศกลุ่มผู้รับผิดชอบจัดกิจกรรมตามเวทีต่างๆ โดยที่สี่แยกปทุมวัน จะเป็นกลุ่มรุ่นพี่ รุ่นน้อง ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ ถ.สีลม จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจสีลม ชุมชนสีลม นักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย ที่แยกอโศก กลุ่มอาจารย์-นักศึกษานิด้าจะร่วมกับพี่น้องประชาชน ดูแลเวทีอโศก นอกจากนี้มีการประกาศจุดชุมนุมแห่งใหม่ คือ ห้าแยกลาดพร้าว จะให้ครูอาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้ชุมนุมภาคภาคอีสาน เป็นผู้รับผิดชอบเวที"

ส่วนที่แยกราชประสงค์ สุเทพกล่าวว่า 'อาจารย์เสรี วงศ์มณฑา' จะพาดารา นักร้องมาร่วมเวทีให้คับคั่งทุกวันจนกว่าจะชนะ พร้อมแจกเบอร์โทรศัพท์ของทีมงานของเสรี เพื่อให้ดารานักแสดงติดต่อมาร่วมเวที

 

ให้ กปปส. ต่างจังหวัดลุกฮือปิดสถานที่ราชการแบบคู่ขนาน

สุเทพปราศรัยต่อไปว่า "ในขณะที่กรุงเทพฯ คึกคักด้วยมวลมหาประชาชน ที่ลุกขึ้นแสดงพลังทุกสามแยก สี่แยก ปิดกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 9 โมงเช้า จนถึงวันที่ข้าราชการทั้งหลายที่ตัดสินใจมาร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชน และระบอบทักษิณยอมจำนน วันนั้นเราถึงจะเลิก"

"ในขณะเดียวกัน ที่ต่างจังหวัด ทุกจังหวัด กปปส. จังหวัด ก็จะร่วมกับองค์กรภาคเอกชน แพทย์ พยาบาล สภาหอการค้า อุตสาหกรรม เกษตรกร จะลุกฮือปิดสถานที่ราชการในจังหวัดนั้นๆ คู่ขนาน"

 

ยืนยันเคารพเสรีภาพสื่อ แต่ไม่อยากให้ฝ่ายรัฐบาลและนักวิชาการได้ออกทีวีกล่าวหา กปปส.

สุเทพกล่าวต่อไปว่า "พี่น้องสื่อมวลชน อย่าเพิ่งบอกว่า กปปส. คุกคามสื่อ เรามวลมหาประชาชน เชื่อในหลักคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน เราไม่คุกคามสื่อมวลชนใดๆ ทั้งสิ้น พวกเรามีความประสงค์ที่จะเห็นสื่อมวลชนได้ทำหน้าที่ของตน เสนอข่าวเป็นกลาง ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะโทรทัศน์ช่องต่างๆ แต่อยากเรียนว่าสถานีโทรทัศน์ปล่อยให้รัฐบาลได้ใช้สถานีโทรทัศน์ เป็นเครื่องมือในการโกหก บิดเบือน ข้อเท็จจริง ใส่ร้ายมวลมหาประชาชนต่อเนื่องนั้น สถานีโทรทัศน์ทั้งหลายต้องหาทางแก้ไขอย่าให้เป็นแบบนี้ต่อ"

"ตัวอย่างเช่น กรณีที่ผมพูดสักครู่ เราไม่มีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แล้วฟังเฉลิมโกหกว่าคนที่มาเป็นมวลชนปักษ์ใต้ เป็นคนกรุงเทพฯ สุเทพต้องระวังถูกยิงร้อยนัด อย่างนี้สถานีโทรทัศน์ปล่อยออกได้อย่างไร แบบนี้ต้องหยุด หรือกรณีสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล หรือ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ใส่ร้ายประชาชนกรณี 26 ธ.ค. อย่างนี้โทรทัศน์ต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง อย่าให้คนเหล่านี้ใช้สถานีของท่านมาโกหกใส่ร้ายประชาชนอีกต่อไป"

"สถานีโทรทัศน์ที่ยอมให้คนของรัฐบาล นักวิชาการฝ่ายรัฐบาล ออกไปพูดเป็นชั่วโมง บิดเบือนความจริง ทำลายภาพพจน์มวลมหาประชาชน ให้พื้นที่ข่าวรัฐบาล มวลมหาประชาชนก็ขอเรียกร้อง ถ้าท่านให้ฝ่ายรัฐบาลไปใช้สถานีของท่านออกรายการต่างๆ ท่านต้องยอมให้นักวิชาการฝ่ายมวลมหาประชาชนไปชี้แจงตอบโต้ได้ด้วย นั่นจึงจะเรียกว่าท่านเป็นกลาง ถ้าท่านไม่พร้อม ไม่จำเป็นต้องมาเข้าข้าง แต่เราเรียกร้องความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าวสาร นี่คือสิ่งที่เราเรียกร้องจากท่าน ไม่ใช่การคุกคามสื่อมวลชน โปรดเข้าใสด้วยครับ"

 

ชี้แจงไม่ได้เกลียดตำรวจ แต่ต้องการปลดแอกตำรวจชั้นผู้น้อย ด้วยการปฏิรูปโครงสร้าง

"เรื่องตำรวจมีความพยายามบิดเบือน ปลุกปั่นยุยงตำรวจให้เกลียดชังประชาชน ผมได้พูดบนเวที เกือบทุกวัน ว่ามวลมหาประชาชน ประชาชนทั้งแผ่นดินนี้ ไม่ได้เกลียดตำรวจ ที่เกลียดนั้นเฉพาะคนเลวแต่งเครื่องแบบตำรวจเท่านั้น"

"ที่ประกาศเรื่องปฏิรูปตำรวจ เป็นหัวข้อหนึ่งของการปฏิรูปประเทศ เพราะเราต้องการปลดแอกตำรวจชั้นผู้น้อย ไม่ให้ถูกตำรวจชั่วข่มเหงรังแก เราต้องการให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชน ไม่ใช่ตำรวจนักการเมือง ต้องการปลดแอกตำรวจเป็นไท ขอยืนยันว่าแนวคิดปรับโครงสร้างตำรวจคราวนี้ จะเป็นผลดีของตำรวจชั้นผู้น้อย คนที่ถูกริดรอนอำนาจคือตำรวจชั้นอยู่ใหญ่ทั้งหลาย ต่อไปนี้ไม่สามารถรีดนาทาเร้นตำรวจชั้นผู้น้อยส่งส่วยบำรุงนายต่อไป และไม่ต้องวิ่งเต้นหาเงินไปจ่ายเมื่อจะเลื่อนยศตำแหน่ง เพราะประชาชนจะดูแลให้ความเป็นธรรมกับตำรวจ"

 

เมื่อยึดอำนาจได้แล้วจะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ และประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลประชาชน

"มีการวิจารณ์ว่าเมื่อเรายึดอำนาจอธิปไตย ตั้งรัฐบาลประชาชน สภาประชาชนแล้ว อยากรู้ว่าหน้าตาของสภาประชาชนเป็นอย่างไร ผมขอกราบเรียนอธิบายตรงนี้ครับว่า เมื่อประชาชนสามารถยึดคืนอำนาจอธิปไตยมาเป็นของปวงชนชาวไทย ได้สำเร็จ หลังปฏิบัติการวันที่ 13 ม.ค. ความสำเร็จ พวกยิ่งลักษณ์ ระบอบทักษิณ กระเจิดกระเจิงหมดแล้ว วันนั้น ประชาชนจะมีฐานะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้มีอำนาจอธิปไตยสูงสุด เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลประชาชนขึ้นมา เลือกคนดีที่ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองไหน ไม่เป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลชั่วคราวบริหารราชการแผ่นดินช่วงปฏิรูปประเทศไทย"

"ผมได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า ผมไม่ใช่คนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ให้ตัวเองมีตำแหน่ง คนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ผมไม่ขอรับตำแหน่งในรัฐบาลประชาชน ขอประกาศเป็นสัจจะวาจาลูกผู้ชาย"

 

จะแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง กระจายอำนาจ ปราบทุจริต ภารกิจเรียบร้อยก็จะกลับบ้าน

"เมื่อมีรัฐบาลประชาชน เราจะดำเนินการจัดตั้งสภาประชาชน คำว่าสภาประชาชนหมายความชัดว่าเป็นสภาประชาชน ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ทำงานควบคู่กับรัฐบาลของประชาชน เร่งรัด ดำเนินการออกกฎหมายใหม่ ออกกฎหมายเก่า ให้การปฏิรูปประเทศสัมฤทธิ์ผลโดยเร็วที่สุด สภาประชาชน จะเป็นคนแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง กระบวนการเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง กกต. การเลือกตั้งที่ผมเคยยกตัวอย่าง"

"เป็นต้นว่าถ้ามีการทุจริตโกงการเลือกตั้ง ประชาชนคนไทยเป็นเจ้าทุกข์ ฟ้องคดีได้ทุกคน ไม่ต้องรอ กกต. เพราะไม่รู้ว่าจะทำหรือไม่ทำ ยกตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ ที่นครศรีธรรม พาผู้สมัครรัฐบาลขี่ ฮ. ไปสมัคร แบบนี้ดำเนินคดีได้เลย คนนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าทุกข์ทุกคน หรือไปพบการซื้อสิทธิขายเสียงก็เป็นเจ้าทุกข์ดำเนินคดีได้ การโกงเลือกตั้ง ซื้อคะแนนเสียง นักการเมืองเหล่านั้นนอกจากถูกตัดสิทธิการเมืองแล้ว ต้องติดคุกได้ ไม่ให้เป็นนักการเมืองอีกต่อไป อย่างนี้ถึงจะสาสม"

"พรรคการเมืองที่จะตั้งได้ต้องเป็นพรรคการเมืองประชาชน มีอุดมการณ์ชัดเจน มีนโยบายชัดเจน ไม่ให้เป็นพรรคของนายทุน เอาระบบทุนสามานย์มาครอบงำประเทศอีกต่อไป เป็นต้น"

"เช่นเดียวกัน กฎหมายการต่อต้านทุจริต คอร์รัปชั่นนั้น ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหน ไม่มีวันหมดอายุความ กลับเมื่อไหร่ ติดคุกเมื่อนั้น ใครโกงภาษีอากร กินบ้านกินเมือง ประชาชนเป็นเจ้าทุกข์ฟ้องได้ ไม่ต้องรอ ปปช. ดีเอสไอ"

"เช่นเดียวกัน เรื่องกระจายอำนาจการปกครอง ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดที่ทักษิณ หรือคุณนายแดงแต่งตั้ง แต่ให้ประชาชนเลือกตั้งเอง ที่สำคัญต้องมีการปฏิรูปโครงการนโยบายแก้ไขปัญหาคนจน ความเหลื่อมล้ำในสังคม เอาเฉพาะปัจจัยให้ประชาชนมีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เอาแล้วประชานิยมหากินกับคนจน ไม่มีการให้นักการเมืองใช้ช่องทางนี้หากินแล้ว"

 

สภาประชาชนมาจากวิชาชีพ 300 คน อีก 100 คนให้กรรมการสรรหา ส.ว. ตาม รธน.50 เลือก

"สิ่งเหล่านี้จะทำให้พี่น้องเห็นภาพชัดว่า สภาของประชาชน จะทำหน้าที่อะไร ถามว่าแล้วสภาประชาชนมาจากไหน ผมจะเรียนว่ามาสองทาง ทางหนึ่งพี่น้องประชาชนในสาขาอาชีพต่างๆ เลือกตั้งกันเอง ส่งตัวแทนของตัวเองเข้ามา เป็นสมาชิกสภาประชาชน มีจำนวนสัก 300 คน ถ้าไม่พอเพิ่มได้ไม่เป็นไร เราดูกันถึงเวลานั้น นี่ประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ คัดเลือกมาเอง สมาคมทั้งหลาย"

"อีกส่วนหนึ่ง ให้มีคณะกรรมการสรรหา กปปส. เอาคนที่ตกหล่นอยู่เห็นว่าเป็นคนดี มีความรู้ มีใจทำให้ชาติบ้านเมือง รวบรวมชื่อมา แล้วไม่ใช่ กปปส. ตัดสินเอง เราจะให้มีคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่ง อย่างในรัฐธรรมนูญ ม.113 เขามีคณะกรรมการสรรหาวุฒิสมาชิกอยู่แล้ว เราจะให้คณะกรรมการชุดนั้นสรรหาเลย"

"โดยจะมีประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน  ปปช. ตรวจเงินแผ่นดิน ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามอบหมายจำนวนหนึ่งคน และตุลาการในศาลปกครองสูงสุดที่ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมอบหมายจำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ เอาบัญชีให้คณะกรรมการเลือกไป ทั้งสองส่วนนี้ประกอบเป็นสภาประชาชน ไม่มีตัวแทนนักการเมือง พรรคการเมืองมาเอี่ยว เพราะเราไม่ให้เข้ามา"

"สภาประชาชนจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีผลประโยชน์การเมืองมาเกี่ยว จึงไม่ให้ตัวแทนทางการเมืองมาเป็นสมาชิกสภาประชาชน แล้วจะมีข้อห้ามว่าใครก็ตามมาเป็นสมาชิกสภาประชาชนพ้นตำแหน่งไปแล้ว จะไปสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ 5 ปี ไม่ว่าเลือกตั้งอะไรทั้งสิ้นในประเทศนี้ เราออกแบบไว้อย่างนี้ จะได้เห็นชัดๆ ว่าทำเพื่อประเทศชาติ เราไม่ได้รังเกียจนักการเมือง พรรคการเมืองหรอก แต่ไม่ไว้ใจ กลัวเข้ามาแล้ว จะอดคิดถึงประโยชน์พรรคตัวเองไม่ได้ จะเขียนกฎหมายเอาเปรียบเพื่อน"

"เมื่อปฏิรูปประเทศแล้ว มีกฎหมายเลือกตั้ง กระบวนการเลือกตั้งใหม่ที่เรามั่นใจว่าจะมีประชาธิปไตยสมบูรณ์ เชิญนักการเมืองมาลงเลือกตั้ง เราไม่เกี่ยวแล้ว เรากลับบ้าน หมดหน้าที่ของเรา"

 

ย้ำใช้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. มาต่อรองกับสุเทพ เพราะประชาชนมุ่งปฏิรูป-ขจัดระบอบทักษิณ

"พี่น้องครับ ผมจะพูดเรื่องนี้บ่อยๆ ซ้ำๆ เพราะพูดไปแล้ว รัฐบาลจะออกมาโต้แย้ง ใส่ไข่ ใส่สี บิดเบือนเจตนารมณ์ แต่เรายืนยันว่าเราต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และต้องการปฏิรูปโดยทันที โดยทันที ขีดเส้นใต้"

"และไม่ต้องมาต่อรอง ไม่ต้องมาคุยกับกำนันสุเทพ เพราะกำนันสุเทพเป็นร่างทรงประชาชน คิดเองไม่ได้ ร่างทรงมวลมหาประชาชนหลายล้านคน ผมคิดเองไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือทำตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน เพราะฉะนั้น อย่าเอาเรื่องเลือกตั้ง 2 ก.พ. มาต่อรองกับผม นี่คิดแล้วครับ คิดจะเลื่อนการเลือกตั้ง แล้วมาต่อรองให้พวกเรากลับบ้าน ทำให้บ้านเมืองสงบ ผมตอบแทนเลยว่าประชาชนเขาไม่สนใจเลือกตั้ง เขาสนใจปฏิรูป และขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย อย่าทำให้ไขว้เขวหลงประเด็น ประชาชนตื่นรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมระบอบทักษิณแล้ว วันนี้ซักรีดเสื้อผ้าแล้ว และวันที่ 13 ม.ค. จะลงมือยึดอำนาจ ปฏิวัติโดยประชาชน เราจะหยุด จะกลับบ้านไปทำหน้าที่พลเมืองดี ทำมาหากินปกติ ต่อเมื่อจัดตั้งรัฐบาลประชาชน สภาประชาชน เพื่อทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศไทย ตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน เรื่องอื่นไม่ต้องมาต่อรอง นี่คือคำยืนยันร่างทรงของมวลมหาประชาชน กำนันสุเทพ พูดแทนมวลมหาประชาชนครับ" สุเทพกล่าวในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net