Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 

หมายเหตุ: หากท่านเป็น 1. ผู้ที่เอาระบอบทักษิณแน่ๆ หรือ 2. ผู้ที่ไม่เอาระบอบทักษิณแต่คิดว่าข้อเสนอของคุณสุเทพดีอยู่แล้ว ขอให้ข้ามไป อย่าอ่านให้เสียเวลาครับ
- 1 -

ถึงจุดนี้ผมคิดว่าเรามี “ข้อมูลบ่งชี้” ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายแนวคิด “สภาประชาชน” ของคุณสุเทพนั้น หัวใจหลักอยู่ที่การระงับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์เสียก่อน โดยหลังจากนั้นจะทำการจัดตั้งคณะทำงานภายใต้ชื่อสภาประชาชนขึ้นมาเพื่อแก้ไขกฎกติกาต่างๆของประเทศ

มีนักวิชาการบางท่านเริ่มสื่อสารออกมาแล้วว่า การทำงานของสภาประชาชนนั้นคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 6-15 เดือน ซึ่งแปลว่าในระหว่างนั้นประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งทำหน้าที่บริหารประเทศ นอกจากนั้นการประวิงเวลาเลือกตั้งออกไปยังเป็นการขัดต่อ พรฎ.ยุบสภา ที่ลงพระปรมาภิไธยเสร็จสมบูรณ์แล้ว และยังขัดต่อรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีวันเลือกตั้งที่ชัดเจนอีกด้วย

- 2 -

แผนการที่ว่านี้ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าจะทำให้ระบอบทักษิณหมดไป หรือทำให้เครือข่ายตระกูลชินวัตรหมดอำนาจจากเวทีการเมืองทั้งหน้าและหลังฉาก นอกจากนั้นเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแก้กติกาแล้วเราจะพบเจอระบอบอะไรที่เลวร้ายกว่าระบอบทักษิณอีกหรือเปล่า

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆคือเราจะต้องอยู่กับระบอบสุเทพไปอย่างน้อย 6-15 เดือน อยู่กับระบอบที่มีเครือข่ายของคุณสุเทพเป็นผู้เขียนกติกาบ้านเมือง มีเครือข่ายของคุณสุเทพคอยคัดเลือกคนมาเป็นรัฐบาล มันจะเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยปั่นป่วนมากที่สุดเพราะนอกจากมวลชนกลุ่มอื่นๆจะไม่พอใจแล้ว มิตรประเทศต่างชาติก็จะไม่สนับสนุน เศรษฐกิจจะซบเซา ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของไทยก็จะตกต่ำ เพราะการมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องไม่ปกติอีกต่อไปแล้วในโลกทุกวันนี้

แต่ในช่วงเวลาปั่นป่วนเหล่านั้น เรามั่นใจได้ว่าคุณทักษิณหรือคุณยิ่งลักษณ์ก็จะยังกินอยู่อิ่มท้อง นอนหลับสบายบนเตียงนุ่มเหมือนเคย เผลอๆจะอยู่ต่างประเทศอย่างสงบสุขกว่าปัจจุบันเสียอีก ความวุ่นวายและเศรษฐกิจซบเซาจะทำให้เงินในกระเป๋าเราหายไป แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคนนามสกุลชินวัตรแน่ๆ

- 3 -

ณ เวลานี้ การปฏิเสธระบอบสุเทพ ไม่อาจทำได้เพียงการกลับบ้านไม่เข้าร่วมการชุมนุมอีกต่อไปแล้ว การจะปฏิเสธระบอบสุเทพให้ชัดเจนที่สุดคือการแสดงออกให้ทุกคนในสังคมได้เห็นว่าเราจะไปเลือกตั้งในวันที่ 2 กพ. เราจะเอาการเลือกตั้ง เราจะใช้การเลือกตั้งตัดสินปัญหา(อย่างน้อยก็ในเวลานี้) เราจะเอาการเลือกตั้งเท่าที่กติกามีอยู่ในวันนี้ เราไม่เอาอะไรมากกว่านี้ เราไม่เอาคนกลาง เราไม่ต้องการคณะกรรมการใดๆในตอนนี้ และเราไม่ต้องการบิดเบือดกฎหมายโดยเตะถ่วงให้เลือกตั้งช้าไปกว่าวันที่ 2 กุมภาพันธ์

แผนการของคุณสุเทพนั้นจะสำเร็จไม่ได้เลยถ้ามันเป็นเพียงข้อเสนอนิ่งๆของคุณสุเทพคนเดียว แต่แผนการของเขามีแนวร่วมมากมายหลายสาขาอาชีพคอยช่วยสร้างความชอบธรรมให้อยู่ ดังนั้นเราต้องส่งเสียงให้ “พวกเขา” ได้ยินด้วยว่ายังมีพวกเราอยู่ในสังคม และพวกเราจะเอาเลือกตั้ง บอกองค์กรเอกชน บอกเพื่อนฝูง บอกทหาร บอกตำรวจ บอกนักวิชาการ บอกสื่อมวลชน บอกนักกฎหมาย บอกผู้พิพากษา บอกองค์กรอิสระ บอกทุกคน ว่าเราจะเอาเลือกตั้ง เลิกคุยกันได้แล้วว่าถ้าไม่เอาเลือกตั้งจะทำอะไรได้บ้าง เลิกหาหนทางบิดเบือนกลไกและระบบกฎหมายเสียที

- 4 -

หากเราป้องกันระบอบสุเทพได้สำเร็จ เราทุกคนก็จะเดินไปเข้าคูหาเลือกตั้งพร้อมกัน

ถึงตอนนั้นเราจะสู้กับระบอบทักษิณได้ง่ายๆด้วยการเลือกพรรคอื่น หากเราสามารถชักชวนให้ “มวลมหาประชาชน” จำนวนมากมายไม่เลือกทักษิณ พรรคของคุณทักษิณก็จะไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาล หากเราสามารถสนับสนุนให้คนดีๆได้ลงเลือกตั้งมาแข่งเยอะๆ นำนโยบายดีๆที่แก้ปัญหาคอรัปชั่นมานำเสนอ เราก็จะมีตัวเลือกมากขึ้น

หากเรากังวลว่าแพ้เลือกตั้งแล้วระบอบทักษิณจะกลับมา ก็ต้องไม่ลืมว่า “เสียงของเรา” จะสะท้อนผ่าน “ผลการเลือกตั้ง” ออกมาเป็นตัวเลขที่จับต้องได้ชัดเจน มันจะเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ที่ทุกคนยอมรับ สื่อรายงานแพร่หลาย หนังสือทุกเล่มบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ ดังเช่นที่เราทราบดีว่ามีคนอีกเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศที่ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทย

นอกจากนั้น เราควรเข้าใจด้วยว่าเครือข่ายทักษิณไม่ได้ชนะเลือกตั้งเสมอไป การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว หรือที่ชัดเจนกว่านั้นอีกก็คือการเลือกตั้งซ่อมที่ดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยแท้ๆ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเอาชนะมาได้อย่างสง่างาม

หรือหากที่สุดแล้วหากระบอบทักษิณจะกลับมาจริงๆ เราก็ทนอยู่กับมันไปอีก 4 ปีก็จะได้เลือกตั้งอีกครั้ง ระหว่างนั้นเรายังทำอะไรได้อีกมาก ประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ยัดไส้กฎหมายอย่างน่ารังเกียจก็ยังต้องล้มพังไปเพราะพลังประชาชนเลยมิใช่หรือ?

- 5 -

ในระยะยาว ไม่ว่าเราจะต่อสู้กับระบอบอะไร อาวุธที่ดีที่สุดของเราในฐานะประชาชนคือระบอบประชาธิปไตยและการซื่อตรงต่อกฎหมายให้มากที่สุด หากเราใจร้อนนิยมทางลัด ยินดีบิดเบือนกลไกประชาธิปไตยและกฎหมายเสียแต่ในวันนี้ อะไรจะเป็นหลักประกันว่าคนอื่นจะไม่ทำเช่นนี้บ้างเมื่อมีโอกาส

หากพรุ่งนี้ระบอบสุเทพได้รับชัยชนะ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนอย่างคุณสุเทพและพรรคพวกจะหยิบยื่นประชาธิปไตยที่สวยงามให้เราจริงๆ แล้วฝ่ายคุณทักษิณที่พ่ายแพ้ล่ะ พวกเขาจะไม่พยายามบิดเบือนระบบเหมือนที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้เพื่อตัวเองบ้างหรือ?

หรือหากเรา “ยอมจ่าย” กับระบอบสุเทพไปแล้วแต่สุดท้ายพ่ายแพ้ ระบอบทักษิณยังคงอยู่่ต่อไป ถึงตอนนั้นเราจะเอาอะไรไปสู้ได้อีก หากระบอบทักษิณจะบิดเบือนกฎหมายบ้าง เขาก็จะมีข้ออ้างที่มีน้ำหนักมาก เพราะเราทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างมาก่อนในวันนี้มิใช่หรือ

ระบอบประชาธิปไตยของไทยนั้นยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงพัฒนาอีกมาก แต่เราสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยกลไกตามระบบ พรรคประชาธิปัตย์เองก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่าเขาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ มันทำได้ ไม่ได้ลำบากยากเย็นอะไร พรรคการเมืองในระบอบรัฐสภาปกติก็สามารถแก้ไขกติกาประเทศได้ เราไม่ต้องลงทุนยับยั้งประชาธิปไตยเพื่อแก้ไขกติกากันหรอก

หากเราต้องการจะพัฒนาประชาธิปไตย สิ่งแรกที่ต้องทำในวันนี้คือรักษามันเอาไว้ก่อน


เผยแพร่ครั้งแรกใน: http://www.roodthanarak.com/2013/12/we-want-election/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net