วุฒิสภาผ่านวาระ 3 แล้ว พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน

วุฒิอภิปรายมาราธอน โหวตผ่านวาระ 3 เกือบ 3.00 น. ดันร่าง พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้านด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 13

19 พ.ย. 2556 - สำนักข่าวแห่งชาติ รายงานว่า ประชุมวุฒิสภาวันนี้ (19 พ.ย.) เป็นวันที่ 2 ของการพิจารณา "ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท" วาระ 2 เป็นรายมาตรา

หลังจากเมื่อวานนี้(18 พ.ย.) ที่ประชุมพิจารณาผ่านความเห็นชอบถึงมาตรา 3 โดยที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบเพิ่มถ้อยคำว่า “โครงการ” ด้วยคะแนน 63 ต่อ 53 เสียง ยึดตามร่างที่ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่มีถ้อยคำดังกล่าว ส่วนคำว่า“แผนงาน” เห็นด้วยไม่แก้ไขนิยามศัพท์ ด้วยคะแนน 87 ต่อ 27 เสียง ส่วนคำว่า “หน่วยงานของรัฐ” เห็นชอบไม่แก้ไขด้วยคะแนน 84 ต่อ 24 เสียง ส่วนคำว่า “ยุทธศาสตร์” “หน่วยงานเจ้าของโครงการ” ผู้สงวนคำแปรญัตติได้ถอนคำเหล่านั้นออกไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ประธานสั่งพักการประชุมในเวลา 20.00 น. และการนัดประชุมในวันนี้(19 พ.ย.) จะเป็นการอภิปรายต่อมาตรา 4 ที่ระบุว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

ทั้งนี้ในการอภิปรายวันนี้ ที่ประชุมได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นในมาตรา 6 กว่า 7 ชั่วโมง โดยมาตรา 6 การกำหนดให้เงินที่ได้จากการกู้ให้นำไปจ่ายตามวัตถุประสงค์โดยต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะกรรมาธิการวิสามัญเสียงข้างมากได้ทำการแก้ไข เนื่องจากร่างพ.ร.บ.ที่สภาผู้แทนราษฎรส่งมาให้วุฒิสภาไม่ได้กำหนดให้เงินได้จากเงินกู้ต้องเป็นเงินที่ต้องนำส่งคลังตามกฎหมาย ประเด็นสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการ เนื่องจากเกรงว่าถ้าไม่มีการส่งเงินคืนเข้าสู่คลังนั้นอาจจะทำให้มีการทุจริต ไม่สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวุฒิสภาได้มีมติผ่านมาตรา 6 โดยให้คงไว้ตามร่างเดิมของ ส.ส. ไม่มีการแก้ไข ด้วยคะแนน 68 ต่อ 44 เสียง

จากนั้นมีการพิจารณามาตรา 7 ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากด้วยคะแนน 66 ต่อ 31 เสียงเห็นชอบมาตรา 7 ที่กำหนด “วงเงินกู้ การจัดการเงินกู้ และวิธีการเกี่ยวกับการกู้เงินในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามคณะรัฐมนตรี” ยืนตาม คณะกมธ. ส่วนมาตรา 8 ที่กำหนดให้ “ค่าใช้จ่ายในการกู้เงินและการออกและการจัดการตราสารหนี้ อาจจ่ายจากเงินที่ตั้งไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือเงินกู้รายนั้นก็ได้” โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากด้วยคะแนนเสียง 67 ต่อ 29 เสียง เช่นเดียวกันกับ ในมาตรา 9 ที่กำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ โดยการกู้เงินรายใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม แปลงหนี้ ชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดชำระ ขยายหรือ ย่นระยะเวลาการชำระหนี้ โดยที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 67 ต่อ 33 เสียง

จากนั้น มีการพิจารณาต่อเนื่องในมาตรา 10 ว่าด้วยว่าการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ โดยที่ประชุมได้มีการลงมติเห็นชอบ ด้วยเสียง 73 ต่อ 29 เสียง ตามร่าง คณะ กมธ.ที่ไม่มีการแก้ไขขณะที่ มาตรา 11 ว่าด้วยการให้มีกองทุนเพื่อบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งกรรมาธิการไม่มีการแก้ไข  ทั้งนี้ผู้ที่สงวนคำแปรญัตติส่วนใหญ่ขอถอนและไม่มีผู้ติดใจอภิปรายที่ประชุมจึงมีมติผ่าน  ส่วน มาตรา 12 ว่าด้วยการให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารและจัดการเงินกู้ การเบิกจ่ายเงินกู้ การชำระหนี้  โดย กมธ.ไม่มีการแก้ไข แต่มีผู้เสนอคำแปรญัตติ ทั้งนี้ได้มีการซักถามถึงประเด็นการเบิกจ่ายเงินกู้ตามระเบียบของหน่วยงานราชการ โดยกมธ.  ยืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ที่ดูแลการเบิกจ่ายทั้งหมด จากนั้นได้มีการลงมติโดยเสียงข้างมาก 71  ต่อ 33 เสียงเห็นด้วยกับร่างของคณะกมธ.ที่คงไว้ตามร่างเดิม ขณะที่มาตรา 13 ได้มีการผ่านการพิจารณา โดยคงเนื้อหาไว้ตามร่างเดิม ซึ่งไม่มีการแก้ไข หลังส.ว.ไม่ติดใจอภิปราย

 

คะแนน 63 ต่อ 13 เสียง   วุฒิสภาผ่าน ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน วาระ 3

ต่อมา เวลา 02.50 น. ของวันใหม่ คือวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน วาระ 3 ด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 13 งดออกเสียง 3 โดยให้มีเนื้อหาให้เป็นไปตามร่างฯเดิม ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร ทุกมาตรา

ทั้งนี้ในวันที่ 20 พ.ย. ส.ว.ได้ลงมติรับข้อสังเกตร่าง พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านจากคณะกรรมาธิการจำนวน 13 ข้อ ด้วยมติ 61 ต่อ 9 เสียง โดยข้อสังเกตดังกล่าวกำหนดให้รัฐบาลดำเนินการหลายประการ เช่น ควรพิจารณาเส้นทางรถไฟสายใหม่ กำหนดเทคโนโลยีที่ชัดเจนขึ้น เตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบ และควรประกาศให้สาธารณชนให้รับทราบกรณีเงินโครงการยังไม่ได้เบิกจ่ายเพื่อความโปร่งใส

หลังเสร็จสิ้นการลงมติ ตัวแทนฝ่ายค้านยื่นหนังสือให้ประธานวุฒิสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่างพ.ร.บ.นี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท