Skip to main content
sharethis

อดีต สนช. แนะ ปชป. - อภิสิทธิ์ให้ประกาศจะไม่เป็นรัฐบาล จะเปลี่ยนประเทศให้มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ - เพื่อปิดช่องไม่ให้เพื่อไทยและ นปช. โจมตี ด้าน 'อภิสิทธิ์' เชื่อชุมนุม 24 พ.ย. จะเป็นไปตามที่ 'สุเทพ' แสดงจุดยืนว่าจะเคารพกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง

อภิสิทธิ์เชื่อชุมนุม 24 พ.ย. สุเทพแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเคารพกฎหมาย ไม่รุนแรง

19 พ.ย. 2556 - เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ 24 พ.ย. ที่ ถ.ราชดำเนินโดยอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ผมคิดว่าคุณสุเทพได้แสดงจุดยืนชัดเจน ก็คือบอกว่าการเคลื่อนไหวของคุณสุเทพนั้นมีเป้าหมายในการที่จะขุดราก ถอนโคน ระบอบทักษิณ ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือคุณสุเทพยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของคุณสุเทพ และมวลมหาประชาชนนี้จะเป็นไปในลักษณะที่เคารพกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีลักษณะของการที่จะไปชักชวนคนให้ไปทำผิดกฎหมาย นี่คือสิ่งที่คุณสุเทพยืนยัน"

"เพราะฉะนั้นคุณสุเทพก็พยายามคิดรูปแบบ วิธีการที่จะเป็นการทำให้การชุมนุมนั้นสัมฤทธิ์ผล โดยใช้วิธีการที่สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ก็จึงเรียกร้องว่า คุณสุเทพมั่นใจว่า ถ้าหากว่ามีพี่น้องประชาชนออกมาแสดงพลังอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธอย่างที่ว่า จำนวนเป็นนับล้าน ซึ่งจะเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ คุณสุเทพมั่นใจว่าก็จะทำให้กลไกต่างๆ ในที่สุดในสังคมนี้เป็นตัวที่ชี้ขาดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น อันนี้ก็คือสิ่งที่ผมฟังจากคุณสุเทพ"

 

ห่วง นปช. ชุมนุมแล้วมีความรุนแรง และจะไปคุกคามศาล

ส่วนการชุมนุมของ นปช. ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 19 พ.ย. นั้น อภิสิทธิ์กล่าวว่า มีความเป็นห่วง เพราะว่าประวัติของการชุมนุมของ นปช. นั้นจะมีความรุนแรงเข้ามา

"แต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือว่า เป็นห่วงว่าจะมีความพยายามไปข่มขู่ คุกคาม กดดันศาล ซึ่งไม่สมควร แล้วก็คำพูดของแกนนำ หรือผู้นำของ นปช. หลายเวทีชัดเจนครับว่า เจตนาที่จะมาทำเช่นนั้นด้วย เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะต้องดูแล รักษาความสงบเรียบร้อย แล้วก็สามารถที่จะทำให้ตุลาการเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอิสระ"

 

แนะทุกฝ่ายรอฟังคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 20 พ.ย. นี้นั้น อภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนก็มีสิทธิ์วิเคราะห์ไปต่างๆ นานา แต่ว่าดีที่สุดก็คือรอฟังคำวินิจฉัยของศาล

"ผมก็ยืนยันว่าข้อร้องเรียนที่อยู่ในคำร้องนี้ไม่ว่าจะเป็นในมาตรา 68 ไม่ว่าจะเป็นในมาตรา 291 ผมมีพยาน หลักฐานชัดเจนว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งนี้ 1. เนื้อหาสาระกระทบกระเทือนต่อดุลอำนาจในรัฐธรรมนูญอย่างไร 2. กระบวนการที่ไม่ชอบหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการไม่ครบองค์ประชุม ปิดอภิปราย กดบัตรแทนกัน สารพัด ก็คือเหตุผลที่เราได้ทำคำร้องออกไป ส่วนศาลท่านจะวินิจฉัยอย่างไร ก็รอติดตาม แล้วก็รอฟังเหตุผลจากท่าน เพราะว่าที่วิเคราะห์กันนนี้หลากหลายมาก และมีประเด็นที่มันแตกออกไปครับ"

"เพราะว่าจริงๆ การร้องนี้ก็เป็นการร้องตามมาตรา 68 กับ 291 แต่ว่าหลายคนก็ไปไกลถึงเรื่องของการยุบพรรค ไปไกลถึงเรื่องของสมาชิกแล้ว แต่ว่าตอนยื่นไปนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า มุ่งเป็นหลักก็คือ มุ่งระงับยับยั้ง แล้วก็การให้การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มันไม่ชอบ"

 

'ประพันธ์ คูณมี' เชื่อคนมาร่วมชุมนุมไม่ได้ต้องการแค่เปลี่ยนขั้ว

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ประพันธ์ คูณมี อดีต สนช. และอดีตแกนนำพันธมิตร กล่าวในรายการ “เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม” ทางเอเอสทีวี ว่าแกนนำการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็คงตระหนักว่าประชาชนที่ออกมา ไม่อยากแค่เปลี่ยนขั้วการเมือง เลยลาออกจาก ส.ส.และประกาศไม่ลงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีปมที่คาใจว่าหากไล่รัฐบาลออกไปได้ พรรคประชาธิตย์จะเข้าสู่อำนาจหรือเปล่า เพราะหากเกิดกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาถอดถอน ส.ส. - ส.ว.312 คน วันที่ 20 พ.ย.นี้ ในคดีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. บวกกับฝ่ายค้านได้ยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยุบสภาไม่ได้แล้ว แม้ว่าประธานรัฐสภาไม่ยอมรับบรรจุ อ้างว่าไม่มีเอกสาร อันนั้นไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ ถ้าถือว่ายื่นแล้วโดยชอบก็ยุบสภาไม่ได้ ฉะนั้นหากมีการโหวตหาคนเป็นนายกฯ เสียงข้างมากจะเป็นฝ่ายค้านแล้ว ถ้ามันมีสุญญากาศแบบนี้ประชาธิปัตย์จะฉวยโอกาสโหวตให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หรือเปล่า ที่บอกว่าสู้เพื่อประเทศ ไม่ใช่เพื่อพรรค ดังนั้นประชาธิปัตย์ต้องประกาศจุดยืน

ประพันธ์กล่าวต่อว่า วันนี้เวทีชุมนุมทั้งสามเวที เริ่มบูรณาการเข้าหากันแล้ว มีจุดประสงค์เดียวกันคือล้มรัฐบาล แต่เรื่องปฏิรูปยังแตกต่างกันอยู่ โดยเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ กับมัฆวานฯ ชัดเจนเรื่องปฏิรูป แต่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยังไม่พูดชัด ซึ่งตนมองว่าเป็นเชิงยุทธวิธี เพราะเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีคนเข้าร่วมหลากหลายกลุ่ม หากยกเรื่องปฏิรูปขึ้นมาพูด จะทำให้การต่อสู้ของมวลชนต้องกลับไปตั้งคำถามและมีข้อถกเถียงเพิ่มขึ้น ประชาธิปัตย์คงค่อยๆยกระดับยังไม่อยากพูดประเด็นนั้น เพื่อล้มระบอบทักษิณให้ได้ก่อน เพราะตรงกับความต้องการของมวลชนส่วนใหญ่ เมื่อล้มรัฐบาลได้แล้ว แน่นอนประชาชนจะต้องเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น อันนั้นอาจเป็นจังหวะที่สองที่เวทียังไม่อยากล้ำหน้ามวลชน แตกต่างจากอีกสองเวทีซึ่งก็ต้องกระตุกไว้ก่อน ถึงขึ้นถวายฎีกา ตั้งสภาประชาชน อันนั้นตนมองว่าก้าวกระโดดเกินไป เป็นการเปิดช่องให้รัฐบาลหาเรื่องมาโจมตี ควรเอาไว้เป็นขั้นหลังจากนั้น ให้ประชาชนค่อยๆ เรียนรู้

นอกจากนั้น การชุมนุมครั้งนี้ยังเป็นการควบคุมทิศทางให้รัฐบาลที่จะขึ้นมาสู่อำนาจด้วย ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ก็ตาม เพราะสิ่งที่เขาพูดบนเวทีคือหลักฐานสัญญาประชาคม วันนี้ถือว่าประชาชนควบคุมกำหนดทิศทางประวัติศาสตร์และแนวทางนักการเมือง ฉะนั้น ทั้งสามเวทีทราบว่ามีการประสานกันตลอด ขณะนี้เป็นช่วงเวลาตรึงพื้นที่รักษาขบวนเพื่อรุกคืบในวันที่ 24 พ.ย. และแม้ว่าเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไม่พูดเรื่องปฏิรูปก็อย่าไปคาดคั้น ไม่จำเป็นต้องพูดเหมือนกัน แต่ทิศทางยังเชื่อว่าไปในทางเดียวกัน คือล้มระบอบทักษิณและเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ส่วนจะปฏิรูปด้านใดบ้างยังมีเวลาพูดคุยกันในโอกาสที่จะมาถึง

 

เสนออภิสิทธิ์และ ปชป. ต้องประกาศว่าหากล้มรัฐบาลได้ต้องไม่เข้าสู่อำนาจ

ประพันธ์ เสนอด้วยว่า ดังนั้น เพื่อเพิ่มพลังการชุมนุม อยากเสนอประชาธิปัตย์ว่า ต้องไม่เปิดช่องให้รัฐบาลและเสื้อแดงโจมตี ถ้าวันนี้นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าหากล้มรัฐบาลได้แล้วจะไม่ฉวยโอกาสเข้าสู่อำนาจ แต่จะเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ และเปลี่ยนแปลงประเทศในแต่ละด้านตามคำเรียกร้องของประชาชน จากนั้นค่อยลงสู่เกมการเลือกตั้ง ถ้าประกาศเช่นนี้จะสามารถแก้ข้อหาออกมาสู้เพื่อให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ปิดปากเพื่อไทยได้ทันที และคนที่ไม่ไว้ใจประชาธิปัตย์ ไม่ออกมาชุมนุมเพราะกลัวเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา จะเลิกสงสัยในพรรคทันที เป็นการเพิ่มน้ำหนักในการต่อสู้ ลดข้อกังขาของประชาชน ประชาชนจะได้เคลียร์ว่าครั้งนี้เอาบ้านเมืองเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าวันที่ 24 พ.ย.นี้จะต้องนำไปสู่การยกระดับ เพิ่มแรงกดดัน และเชื่อว่านำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net