Skip to main content
sharethis

สุเทพ เทือกสุบรรณ ชี้กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นผลไม้พิษของต้นไม้พิษ 'ระบอบทักษิณ' จึงขอกำจัดต้นตอความเลวร้ายอย่างถอนรากถอนโคน โดยใช้ 4 มาตรการ ถอดถอน 310 ส.ส. - ไม่เสวนาแต่เป่านกหวีดใส่บริวารทักษิณ - ไม่ซื้อขายสินค้าเครือทักษิณ - ข้าราชการทั่วประเทศหยุดงาน

การปราศรัยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. โดยสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการชุมนุมที่ ถ.ราชดำเนิน (ที่มา: Blue Sky TV)

15 พ.ย. 2556 - ตามที่เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศชุมนุมต่อจนกว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะหายไปจากสารบบ มีการนำ 9 ส.ส.ประชาธิปัตย์เพื่อมานำการต่อสู้ และมีการประกาศ 4 มาตรการอารยะขัดขืน ได้แก่ หนึ่ง หยุดงาน หยุดเรียน ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. สอง หยุดชำระภาษี สาม ปักธงชาติ ตามบ้านเรือนหรือพาหนะ และให้พกนกหวีด สี่ ถ้าพบเห็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องไม่ต้องพูดด้วย แต่ให้เป่านกหวีดใส่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) และเมื่อวันที่ 13 พ.ย. สุเทพได้นัดหมายให้ผู้ชุมนุมมาร่วมฟังมาตรการในเวลา 18.00 น. วันที่ 15 พ.ย. นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

 

ผู้ชุมนุมเริ่มสมทบ รอฟังมาตรการจากสุเทพ

ล่าสุดที่ ถ.ราชดำเนิน ตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันนี้ (15 พ.ย.) ตั้งแต่ช่วงเย็นเริ่มมีผู้ชุมนุมมาสมทบมากขึ้น มีการสลับปราศรัยโดยผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ โดยในเวลา 17.14 น. อาจารย์และนักศึกษากลุ่มหนึ่งจาก ม.เกษมบัณฑิต ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวว่านักศึกษาที่มาร่วมชุมนุมวันนี้ถือเป็นการแสดงอารยขัดขืน ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นอกจากนี้มีขบวนกลองยาวจากเขตบางบอน และชุมชนต่างๆ ในกรุงเทพฯ มาร่วมสมทบการชุมนุมด้วย ทำให้มีบรรยากาศคึกคัก

 

ส.ว.สรรหาปราศรัยคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ต่อมาเวลา 18.05 น. ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ปราศรัยคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยระบุว่าจะทำให้การเจรจากับต่างชาติไม่ต้องผ่านสภา และขอให้ประชาชนให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องรักษาประเทศไทย ขจัดสิ่งเลวร้ายออกจากแผ่นดินไทย และขอให้ช่วยกันต่อสู้ไม่ว่าจะกี่วัน กี่คืน จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน

 

'แก้วสรร' ระบุประเทศถูกผีสิง ต้องไล่ผีสิงออกไป

เวลา 18.28 น. แก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว. ขึ้นปราศรัยกล่าวว่า พวกเราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่หายใจแล้วเสียภาษี แต่เรามาสู้เพื่อลูกหลาน ไม่ให้ผลประโยชน์ถูกเหี้ยเอาไปกิน ซึ่งเราไม่ยอม ทั้งนี้มีการยึดการปกครองประเทศด้วยระบอบทักษิณ เอาเงินสร้างอำนาจ ได้อำนาจเอามาสร้างเงิน สร้างประชานิยม แล้วก็สร้างพวก เมื่อได้พวกก็เอาไปสร้างอำนาจ ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยเจอแบบนี้ วงจรทั้งหมดนี้ทำให้เขาเติบโตขึ้นทุกขณะ มีคนเสื้อแดงเป็นทาสรับใช้

แก้วสรรปราศรัยต่อไปว่า เราไม่ได้สู้กับยิ่งลักษณ์ เราสู้กับระบอบทักษิณ สู้กับความนึกคิดที่ครอบงำประเทศนี้อยู่ "ประเทศนี้ถูกผีสิงเราต้องไล่ผีสิงนี้ออกไป" ทั้งนี้ ยิ่งลักษณ์ เสื้อแดง และ ส.ส. เป็นขี้ข้าทักษิณทั้งนั้นแบบไม่มีการแบ่งแยก และเรากำลังอยู่ใต้เผด็จการ

ตอนหนึ่ง แก้วสรร ปราศรัยว่าในช่วงที่น้ำท่วม กทม. นั้น พื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิน้ำไม่ท่วมเป็นเพราะมีคอนเนคชั่นกับระบอบทักษิณ และตำหนิยิ่งลักษณ์ว่าไม่มีบทบาททางการเมืองอะไร มีการฉายภาพนายกรัฐมนตรีไปเยือนต่างประเทศและใส่ชุดประจำชาติของประเทศต่างๆ และได้กล่าวว่า "ไปเกาหลีใส่ชุดฮันบก ไปจีนใส่ชุดกี่เพ้า ลองไปแอฟริกาแล้วแก้ผ้าหน่อยสิวะ" และกล่าวด้วยว่า วันๆ ให้พี่ชายใช้อำนาจ แล้วก็ดีแต่ไปต่างประเทศ "นี่หรือนายกรัฐมนตรี ปัทโธ่เอ้ย" โดยแก้วสรร ได้ทิ้งท้ายกับผู้ชุมนุมด้วยว่า เกิดเป็นคนอย่ากินหญ้า อย่าให้เขาหลอก

 

สุเทพขึ้นปราศรัย "จะร่วมกันติดสินใจครั้งสำคัญ"

ต่อมาเมื่อเวลา 18.50 น. วันนี้สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมได้ขึ้นปราศรัย หลังจากประกาศใช้มาตรการอารยะขัดขืนครบ 3 วัน โดยสุเทพปราศรัยว่า "เรามากันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวันนี้ เพราะเป็นวันที่พวกเราได้นัดหมายกันมาตัดสินใจครั้งสำคัญ เพื่อบ้านเมืองให้รอดพ้นจากการใช้อำนาจฉ้อฉลคุกคามสุจริตชนที่รักบ้านเมือง รอดพ้นจากการทำลายชาติจากคนทุจริต โคตรโกง โกงทั้งโคตร"

"การต่อสู้นับตั้งแต่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งเห็นพลังของคนหนุ่มสาว นักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน เคียงบ่าเคียงไหล่กับเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา พ่อค้า แม่ขาย นักธุรกิจ ผู้ใช้แรงงาน ครูอาจารย์ และพี่น้องประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินทั่วไป คนทั้งหมดนี้ได้ร่วมต่อสู้อย่างเข้มแข็งจนรัฐบาลโคลนนิ่งยิ่งลักษณ์ สภาทาส ต้องถอยต่อพลังอำนาจของมหาประชาชน"

 

แท้จริงแล้วระบอบทักษิณคือต้นตอความเลวร้ายทั้งหมด

"พลังชั่วร้ายของพวกเขา ไม่อาจต้านทานพลังมหาประชาชนได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การชุมนุมที่ยาวนาน 16 วัน บนเวทีมหาประชาชนที่เรามาฟังปราศรัยนั้น แท้ที่จริงแล้วกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง ภูเขาของความชั่วร้าย เป็นส่วนยอดของต้นไม้พิษที่เรียกว่าระบอบทักษิณ แท้จริงแล้วระบอบทักษิณคือต้นตอของความเลวร้ายทั้งหมด ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย ระบอบทักษิณทำลายคุณธรรม ความดีงาม คุกคามคนสุจริต สนับสนุนคนชั่วช้าให้มีอำนาจ เอาอำนาจประชาชนไปทุจริต โกงบ้านกินเมือง กดขี่คนยากไร้ เอาคนยากจนเป็นเครื่องมือ เพื่อแสวงอำนาจ คุกคามกระบวนยุติธรรม ศาลสถิตยุติธรรม"

"ระบอบทักษิณ ทำให้รัฐสภาเป็นตรายางของนายทุน ที่เข้ามามีอำนาจโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้งที่ซื้อสิทธิ ขายเสียง ทุจริตการเลือกตั้ง โกงการเลือกตั้ง ทำให้สภา กลายเป็นเครื่องมือให้คนไม่ดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง ครอบงำมหาประชาชน โดยอ้างความชอบธรรมจากการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต ในที่สุด เสียงข้างมากลากไปทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภา ทำให้เกิดสภาทาส และเป็นศูนย์รวมอำนาจระบอบทักษิณ"

 

อัด ส.ส.เสียงข้างมาก ทำตัวเหมือนรัฐสภาเยอรมัน

สุเทพ ปราศรัยว่า "พฤติกรรม ส.ส.ข้างมาก ที่ทำตัวเป็นทาส บริวารนายทุนระบอบทักษิณ เหมือนรัฐสภาเยอรมันที่สนับสนุฮิตเลอร์ นำเยอรมันเข้าสู่สงครามโลก ชาวโลกตายนับร้อยล้านคน ก็เหมือนระบอบทักษิณใช้สภาเครื่องมือชั่วร้าย สมุนและบริวารหาประโยชน์ส่วนตน โกงชาติอย่างต่อเนื่องตลอดมา"

"ระบอบทักษิณ ได้พยายามล้มล้างหลักการถ่วงดุลอำนาจ ทำลายหลักการตรวจสอบอำนาจรัฐ เช่น แก้รัฐธรรมนูญให้ ส.ว. กลายมาเป็นเครื่องมือฟื้นฟูระบอบทักษิณ ระบอบทักษิณได้ทำเสมือนว่าเข้าหาประชาชน ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ ทำเสมือนว่าประชาชนเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยที่ไร้ค่าไม่มีราคา แต่ความเป็นจริงแล้วประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงที่ใครเอาไปไม่ได้"

 

บ้านเมืองมีปัญหาไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้เพราะระบอบทักษิณ

"ทุกวันนี้ การใช้อำนาจรัฐ ในลักษณะหุ่นเชิดทำให้บรรดาการใดๆ ขึ้นอยู่กับคนๆ เดียวเท่านั้น นี่มันเป็นเผด็จการทำลายระบบคุณธรรม และประชาธิปไตย ดังวาทกรรมที่่ว่า "มีวันนี้เพราะพี่ให้" สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่านักโทษชายกำลังวางแผนสั่งการทุกอย่าง พยายามใช้สภาทาสออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดให้ตัวหัวโจกระบอบทักษิณ ไม่สนใจใยดีเสียงทักท้วงประชาชน"

"ดังนั้น บ้านเมืองอันเป็นที่รักของเราจึงจมอยู่ในปัญหา ความขัดแย้ง การโกงกิน ที่ติดต่อยาวนาน ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่ดีกว่าได้ เพราะปัญหาเลวร้าย คือระบอบทักษิณ สมุนบริวาร ข้าทาสของมัน"

"และเวทีของมวลมหาประชาชนและคนไทยทั่วประเทศได้ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ จึงได้ร่วมมือกันยกระดับการต่อสู้ ยกระดับการเรียนรู้ของมวลชนจากเวทีสามเสน สู่ราชดำเนินและทั่วประเทศไทย และไปทั่วโลก"

 

ระบุกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเพียงผลไม้พิษจากต้นไม้พิษ

ตอนหนึ่งสุเทพปราศรัยว่า "ในวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ต่อหน้ามวลมหาประชาชนหลายแสนคนที่นี่ และเพื่อนร่วมชาติอีกนับล้าน เรายกระดับการต่อสู้สู่อารยะขัดขืนขั้นต้นสามวัน 13-14-15 พฤศจิกายน เพราะเราเห็นแล้วว่าการปกป้องรักษาชาติด้วยการทำให้กฎหมายนิรโทษกรรมสาบสูญถูกรัฐบาลนี้ใช้เล่ห์ชะลอยับยั้งไว้ และจะนำกลับมาอีกเมื่อเราหลงลืมไป แต่เราไม่ลืม เราจะต้องเดินหน้า กำจัดมันออกไปให้ได้"

"พี่น้องทั้งหลาย กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นผลไม้พิษ ของต้นไม้พิษคือระบอบทักษิณ"

"ดังนั้น การกำจัดความเลวร้ายต้องทำลายต้นตอความเลวร้าย ผมจึงขอมติมหาประชาชน ณ ที่นี้ ว่าเราได้ทำอารยะขัดขืนขั้นต้นร่วมกันมา 3 วันแล้วแม้จะไม่ปรากฏภาพชัดเจนเป็นกระแส แต่ผลการประเมินบอกเราว่าวันแรกๆ อาจมีคนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเป็นธรรมดา เพราะเป็นวิธีต่อสู้แบบใหม่ แต่เมื่อเราได้ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ชี้แจงให้ชัดเจนว่า มาตรการนี้เป็นความสมัครใจร่วมมือร่วมใจกัน เป็นแนวทางสันติ อหิงสา ไม่รุนแรง คนทั้งหลายจึงมีความเข้าใจทั่วกัน เราจึงได้เห็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา สถานศึกษาหยุดเรียนหยุดสอน คนลางาน คนชะลอการเสียภาษี คนติดธงชาติ คนติดนกหวีด บางคนทำด้วยใจอารยะขัดขืนแต่ไม่บอกใครก็มีเหมือนกัน"

"แม้รัฐบาลชั่วช้าของระบอบทักษิณจะหยามหยันว่ามาตรการนี้ของเราแป๊ก ไม่ได้ผล แต่ภาพวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของอารยะขัดขืนประจักษ์แก่สายตาคนทั้งประเทศทั้งโลกแล้วว่าคนที่มาที่นี่ จะมาที่นี่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้หยุดงานกันมา เพื่อที่จะบอกให้รัฐบาลระบอบทักษิณว่าอย่าได้ดูถูกพลังมวลมหาประชาชน"

 

ประกาศขจัด 'ต้นไม้พิษ' ยกระดับการต่อสู้ 'ขจัดระบอบทักษิณ'แบบถอนรากถอนโคน

"อารยะขัดขืนที่ผ่านมา นี่คือยุทธวิธีหนึ่ง ไม่ใช่เป้าหมาย เป้าหมายคือขจัดต้นไม้พิษคือระบอบทักษิณให้หมดไป"

จากนั้นสุเทพ ได้ประกาศว่า "มวลมหาประชาชนราชดำเนิน พี่น้องชาวไทยรักชาติรักแผ่นดิน ผมขอประกาศ ยกระดับการต่อสู้ ... ขอยกระดับการต่อสู้ของเรา เป็นการขจัดระบอบทักษิณแบบถอนรากถอนโคนให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ถ้าพี่น้องเห็นชอบด้วยส่งเสียงอีกครั้งครับ" โดยประชาชนที่มาร่วมชุมนุมได้โห่ร้องส่งเสียงกึกก้อง

"พี่น้องทั้งหลาย นั่นหมายความว่าเราคนไทยผู้รักชาติ รักแผ่นดินทั่วประเทศ ได้ทำสัญญาใจร่วมกันแล้ว ว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อขจัดระบอบทักษิณแบบถอนรากถอนโคน เราจะร่วมกัน ขจัดระบอบทักษิณแบบถอนรากถอนโคนให้หมดไปจากแผ่นดิน เพื่อที่จะได้เปลี่ยนแปลงนำประเทศไทยไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่สมบูรณ์แบบ"

"และเราจงสัญญาร่วมกันว่าเราจะต่อสู้ด้วยกันต่อไป จนกว่าระบอบทักษิณหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ไม่หมดไม่เลิก"

 

เผย 4 มาตรการถอนรากระบอบทักษิณ หนึ่ง ถอดถอน 310 ส.ส.

ต่อมาสุเทพได้ประกาศ 4 มาตรการเพื่อการ "ขจัดระบอบทักษิณแบบถอนรากถอนโคน" ระบุว่า "คือมาตรการที่เราจะร่วมมือกัน ระบอบทักษิณ เพื่อที่จะนำไปสู่การถอนรากถอนโคนขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย" โดยสุเทพกล่าวต่อว่า

"มาตรการที่ 1 จะร่วมกันจัดการบรรดา ส.ส. ทาสทั้งหลาย เราจะร่วมมือกันจัดการกับ ส.ส.ทาส สภาทาส ที่บังอาจลงมติให้ กม.ล้างผิดให้คนโกง จัดการกับ ส.ส. ทั้ง 310 คนนั้น เพราะ ส.ส.เหล่านั้นประพฤติตัวเป็นข้าทาสที่ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ รวมทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ใช้มายา เล่ห์เหลี่ยม เอาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาข่มขู่ประชาชน"

"วิธีการของเราคือจะเดินหน้าถอดถอน ส.ส. ทาสทั้ง 310 คน เราจะร่วมกันลงชื่อถอดถอน ส.ส. ทาสทั้ง 310 คน ให้พ้นจากตำแหน่ง ให้หลุดจากความเป็น ส.ส. โดยจะยกร่างคำร้อง และเราจะสนับสนุนให้ทุกเครือข่ายทุกเวทีดำเนินการเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป"

"จะมีการตั้งเต็นท์ลงชื่อ ให้ถ่ายบัตรประชาชนแนบมาด้วย เดี๋ยวมันจะหาว่าคนปลอม" สุเทพกล่าวติดตลก และกล่าวต่อไปว่า "จากนั้นจะส่งตัวแทนเดินสายรวบรวมรายชื่อของประชาชน ที่จะร่วมกันถอดถอน ส.ส.ทาสเหล่านั้นทุกหนทุกแห่งจะทำให้เสร็จภายใน 19 พ.ย. นี้"

"เพื่อทำให้สภาทาสเป็นอัมพาต รัฐบาลก็จะไม่มีสภาทาสมาเป็นเครื่องมือใช้งานอีกต่อไป"

 

สอง เป่านกหวีดใส่ 'สมุนระบอบทักษิณ'

สุเทพปราศรัยต่อว่า "มาตรการที่ 2 มาตรการนี้ เราจะมุ่งหน้าจัดการกับสมุนของทักษิณเป็นการเฉพาะ" และอธิบายว่า "พวกเราประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ต้องร่วมกันแสดงความรังเกียจ โดยการกระทำอารยะต่อต้านบรรดาสมุน บริวาร ข้าทาสระบอบทักษิณที่มันเหิมเกริมอำนาจ วิธีการที่เราจะทำ คือเรากระทำด้วยการประณามขึ้นมาประณามบนเวทีนี้ก็ได้ เจอหน้าพวกมันไม่ต้องยกมือไหว้มัน ไม่พูด ไม่คุยด้วย ไม่เสวนาด้วย ไม่สังฆกรรมด้วย พบที่ไหนเป่านกหวีดใส่อย่างเดียว"

"สมุนบริวารของทักษิณที่อยู่ในบัญชี เช่น ธาริต เพ็งดิษฐ์, สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์,  นิคม ไวยรัชพานิช และบรรดา ส.ส. ทาสทั้งหลาย เราต้องทำให้มันไม่กล้าเดินถนน ให้มันรู้สำนึกว่าที่ได้รับผลอย่างนี้เพราะมึงทำตัวเหนือประชาชนมานานแล้ว ทำอย่างนี้กันทั้งประเทศ ระบอบทักษิณมันจะได้อ่อนเปลี้ยลง"

 

สาม ไม่ซื้อสินค้าของเครือทักษิณทุกชนิด

"มาตรการที่ 3 เรื่องใหญ่มาก และจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นั่นคือ เราจะร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านสินค้าในเครือทักษิณ เราชาวไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินพร้อมใจกัน ไม่ซื้อ ไม่สนับสนุน ไม่ทำธุรกรรม ในบรรดาผู้ค้าในเครือระบอบทักษิณทั้งหมดทุกชนิด"

"เพราะบรรดาสินค้าเหล่านั้นมันเป็นท่อน้ำเลี้ยงที่สูบเลือดสูบเนื้อคนไทย ไปหล่อเลี้ยงระบอบทักษิณ เราจึงต้องจัดการกับท่อน้ำเลี้ยงระบอบทักษิณตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป"

"เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ปรึกษากัน ไปเสาะหา ไปดำเนินการให้มันเห็น ผมได้ข่าวว่า พรุ่งนี้จะมีคนทำเป็นตัวอย่างโปรดติดตามข่าวกันให้ดี" สุเทพเปรยล่วงหน้า

 

มาตราการที่สี่ บอกถ้าชุมนุมเป็นล้าน ข้าราชการทั่วประเทศหยุดงานแน่ 

ต่อมาสุเทพได้ปราศรัยว่า "มาตรการที่ 4 มาตรการนี้สำคัญมาก คือเราจะชวนพี่น้องข้าราชการทั้งประเทศหยุดงานพร้อมกันทั้งประเทศ สามมาตรการแรกตัดขาระบอบทักษิณให้ง่อยเปลี้ย รอวันประกาศอารยขัดขืนขั้นสูงสุด คือขอให้พี่น้องข้าราชการของเราหยุดงานทั้งประเทศร่วมกับพี่น้องประชาชน แต่มาตรการนี้จะเป็นไปได้ ต้องมีพี่น้องประชาชนทั้งหลายออกมาแสดงตัวร่วมการต่อสู้ ให้พี่น้องข้าราชการทั้งหลาย มั่นใจได้เสียก่อนว่าพี่น้องข้าราชการจะยืนอยู่ข้างฝ่ายชนะ คนที่จะออกมาร่วมต่อสู้กัน ต้องออกมาให้มากมายมหาศาลนับล้านคน"

"เมื่อ 11 พ.ย. ออกกันมาเป็นแสนๆ วันนี้ 15 พ.ย. มากกว่าวันที่ 11 พ.ย. อย่างน้อย 2 เท่าตัว แต่ยังไม่ถึงล้าน เราต้องทำให้ถึงล้านให้ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมมือกันพี่น้องประชาชนที่มาชุมนุมที่นี่ทุกคน ต้องไปชวนญาติชวนมิตรมาอีก 10 คน"

"วันที่มวลมหาประชาชนมีจำนวนถึงล้านที่กรุงเทพฯ และอีกหลายล้านทั่วประเทศ วันนั้นข้าราชการทุกคนเขาก็กล้าที่จะหยุดงานทั่วประเทศเพราะเขาเชื่อว่าเราชนะแน่นอน"

 

ย้ำเป็นโอกาสครั้งเดียวของประเทศไทยในการขจัดระบอบทักษิณ

"ผมขอยืนยันกับพี่น้องผู้รักชาติรักแผ่นดินทั้งหลาย ต้องสู้แนวทางนี้เท่านั้น เพราะเป็นการต่อสู้ที่สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธและไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ เราจึงต้องการหัวใจของคนนับล้าน ร่วมกันต่อสู้และผมกราบเรียนกับพี่้น้องทั้งหลายว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวของประเทศไทยที่จะขจัดระบอบทักษิณให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ผมขอย้ำว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดเพียงครั้งเดียว เป็นโอกาสเดียวที่จะร่วมมือกันกำจัดระบอบทักษิณและตระกูลโกงให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ครั้งนี้ ครั้งเดียวเท่านั้น"

"ดังนั้น อย่าไปกลัว เลิกกลัวได้แล้ว ไม่สู้ก็เป็นขี้ข้ามันทั้งชาติ อย่าให้ลูกหลานเป็นขี้ข้ามันต่อไป ออกมาสู้ด้วยกันวันนี้"

สุเทพได้ยกตัวอย่างประเทศอื่นที่เคยเป็นเช่นนี้มาแล้วด้วย โดยปราศรัยว่า "เคยมีประเทศอื่น เขาทำสำเร็จมาแล้ว ยกตัวอย่างประเทศอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีซูฮาร์โต ทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ในที่สุดประชาชนอินโดนีเซียก็ขับไล่ โค่นล้มสำเร็จมาแล้ว ที่ประเทศฟิลิปปินส์ประธานาธิบดีมาร์คอส ปกครองครอบงำมา 30 ปี เผด็จการคอร์รัปชั่นแบบทักษิณ ก็ถูกโค่นล้มมาแล้วเหมือนกัน"

"เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องทั้งหลาย ไม่ต้องการเห็นประเทศของเราวิบัติเสียหาย จนยากแก่การฟื้นฟูเหมือนที่เคยเกิดกับฟิลิปปินส์หรืออินโดนีเซียต้องลงมือต่อสู้วันนี้ ขจัดระบอบทักษิณร่วมกันจนถึงที่สุด"

 

ขอให้ออกมาชุมนุมมากๆ ตั้งแถวจากลานพระรูปถึงท่าพระจันทร์

"เราต้องช่วยกันจริงๆ แต่ละคนช่วยกันรับผิดชอบ พี่น้องหนึ่งคนต้องชวนญาติมิตร 10 คนเป็นอย่างน้อย ชวนคนอื่นได้ยิ่งดี ให้ขบวนประชาชนยาวจากลานพระบรมรูปทรงม้า จนถึงท่าพระจันทร์ ถ้าเรามารวมได้มากมายแน่นขนัดขนาดนั้น พี่น้องข้าราชการเขาจะมั่นใจทันที เราจะร่วมสร้างประวัติศาสตร์ที่ข้าราชการหยุดงานไม่เป็นเครื่องมือระบอบทักษิณต่อไป เพราะฉะนั้นตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ต้องชักชวนพี่น้องเราทั่วสารทิศมาเพิ่มขึ้นๆ ทุกวัน ครบล้านวันไหนใช้มาตรการเด็ดขาดสุดท้ายวันนั้น ออกมาให้เร็ว ออกมาทันที เราต้องจบเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว และขอให้พี่น้องคอยจับตาคนในตระกูลชินวัตร"

"พี่น้องทั้งหลาย วันนี้เปิดหัวใจพูดกัน ผมจะร่วมต่อสู้กับพี่น้องจนถึงที่สุดแต่ถ้าพี่น้องไม่ยอมออกมาให้เป็นล้าน ผมก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างอยู่ในมือพี่น้อง พวกผมทุกคนบนนี้เอาหัวใจวางไว้กับหัวใจพี่น้อง ขอให้เรารวมใจเป็นหนึ่งเดียว และดำเนินการด้วยสุดแรงของทุกคน ภายในเดือนนี้ ระบอบทักษิณจะต้องถูกขจัดออกจากแผ่นดินไทย ชัยชนะต้องเป็นของประชาชน"

โดยสุเทพทิ้งท้ายไว้ก่อนเป่านกหวีดว่า "ขอเป่านกหวีดยกสำคัญ ขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย" โดยผู้ชุมนุมได้โห่ร้องกึกก้อง

หลังจากนั้น อัญชะลี ไพรีรัก ได้ปราศรัยด้วยว่า ถ้าเจอนายกรัฐมนตรีขอให้เป่านกหวีดใส่ "ปีนี้ ถ้าไม่เรียกว่าปีแสบXXX แล้วจะเรียกว่าปีอะไร" อัญชะลีกล่าว นอกจากนี้ยังปราศรัยอ้างว่าสมชาย และเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ได้เดินทางไปฮ่องกง และลูกของทักษิณก็หนีไปแล้ว และได้ประกาศว่าจะเอาตัวอย่างสินค้ามาแสดงในที่ชุมนุมเพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันบอยคอต โดยประกาศให้ผู้ชุมนุมไม่ดูวอยซ์ทีวี และไม่ใช้สินค้าที่โฆษณาในวอยซ์ทีวี ไม่ฟังเพลงของใบเตย อาร์สยาม

และมีการปราศรัยด้วยว่า บรรดารัฐมนตรีทั้งหลายใครมีการค้าอะไร พวกโรงแรมเครือคุณปลื้มเราจะไม่ไปพักไม่ไปซื้อ ไม่ไปใช้ และประกาศด้วยว่า "ถ้าเราใจเด็ดๆ แม่นๆ ไม่กินไม่ใช้ไม่สมาคม เจอที่ไหนเป่านกหวีดใส่ ระบอบทักษิณอยู่ไม่ได้แน่" นอกจากนี้มีการประกาศชื่อร้านแต่งเล็บแห่งหนึ่งในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และระบุว่าลูกสาวทักษิณไปใช้บริการที่นั่น และเชิญชวนไม่ให้ประชาชนไปแต่งเล็บที่ร้านแห่งนั้น

ขณะที่สถานการณ์ที่เวที ถ.ราชดำเนิน เมื่อเวลา 20.00 น. มีการร้องเพลงพระราชนิพนธ์ "แผ่นดินของเรา" โดยหลังจากนั้นมีการสลับขึ้นมาปราศรัยของแกนนำกลุ่มต่างๆ ด้วย

 

บรรยากาศชุมนุมในวันที่ 15 พ.ย. ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถ่ายทอดสด โดยจอใหญ่สุดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์เป็นการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จอเล็กด้านบนคือการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และจอเล็กด้านล่างคือการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน

 

กปท.จะไม่ร่วมกับกลุ่มไหน เพราะยกระดับ 'ปฏิวัติประชาชน' แล้ว

สำหรับความเคลื่อนไหวของการชุมนุมอื่นๆ นั้น "เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย" หรือ คปท. ซึ่งชุมนุมอยู่ที่ ถ.ราชดำเนิน เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์นั้น อุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. ได้นำผู้ชุมนุมขึ้นรถโดยสาร 4 คันไปให้กำลังใจคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งจะวินิจฉัยคดีแก้รัฐธรรมนูญในวันที่ 20 พ.ย. นี้ นอกจากนี้ได้เดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อติดตามหลังจากร้องเรียนว่ามีชายชุดดำ และกองกำลังชาวต่างชาติลักลอบเข้ามาในประเทศเพื่อก่อความรุนแรงในการชุมนุม

ส่วนการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ที่ ถ.ราชดำเนิน ด้านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ คณะเสนาธิการร่วม กปท. ระบุว่า จะไม่มีการเคลื่อนไหว หรือไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มใด เพราะที่ผ่านมาได้ยกระดับเป็นประชาชนปฏิวัติ ปฏิรูปประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ จะประกาศยกระดับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในวันนี้ กปท.ก็จะตั้งมั่นในพื้นที่ แต่ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะแม้ต่างมีวัตถุประสงค์กัน แต่มีเป้าหมายสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน

 

'พิภพ ธงชัย' ปราศรัยเวที คปท. แนะสุเทพเรื่องอารยะขัดขืน 4 ข้อ

ในเวลาประมาณ 23.20 น. พิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัยที่เวที คปท. กล่าวถึงมาตรการ 4 ข้อที่เสนอโดยสุเทพ เทือกสุบรรณว่า ในข้อเรียกร้อง 4 นั้น ข้อแรกเรื่องถอดถอน ส.ส. 310 คน เป็นกระบวนการของพรรคการเมือง ส่วนที่จะไม่สมาคมกับบริวารทักษิณนั้น ก็เป็นการแสดงความแอนตี้ เป็นวัฒนธรรมแบบใหม่ เพราะสังคมไทยไม่ค่อยมีการแสดงลักษณะแบบนั้น

ส่วนข้อสามที่จะไม่ซื้อขายสินค้าในเครือข่ายบริวารทักษิณนั้น น่าจะหมายถึงเครือข่ายบริษัทต่างๆ ของ ครม. ด้วย ถือว่าเป็นการเรียกร้องต่อผู้ชุมนุมว่าควรจะร่วมใจกันอย่างนี้ อย่าง ชาเขียวยี่ห้อหนึ่ง ก็มีการพูดกันในเฟสบุ๊คว่าจะไม่ซื้อ หรือบอยคอต  ทั้งนี้ในเชิงคุณภาพของชาเขียว ชาเขียวที่ใส่น้ำตาลหรือแช่เย็น คนญี่ปุ่นเขาไม่ทานกัน เขาถือว่ามันมีปัญหาคุณภาพ ชาควรกินร้อนๆ และเสนอด้วยว่าอยากให้สุเทพ มาชี้แจงด้วยว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่จะบอยคอต เพราะพี่น้องประชาชนคงไม่รู้ว่าบริษัทที่เกี่ยวกับรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์มีอะไรบ้าง เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์น่าจะออกมาบอก และน่าจะเอาจริงที่ว่า อย่างน้อยบริเวณพรรคประชาธิปัตย์ และในที่ชุมนุม ก็ควรมีการแสดงว่าจะต้องไม่มีสินค้าแบบนี้

 

แนะเรื่อง ขรก.หยุดงาน ต้องบอกล่วงหน้าและแจ้งให้ชัด หวังปลายทางควรเป็นการปฏิรูป

ส่วนข้อสี่ที่สุเทพ เสนอให้หยุดงานนั้น พิภพเสนอว่า ในต่างประเทศนั้น การนัดหยุดงานของหน่วยงานราชการจะต้องประกาศล่วงหน้าว่าจะหยุดวันไหน คนใช้บริการหน่วยงานรัฐจะได้รู้ จะได้วางแผนถูกว่าจะต้องรีบไปใช้บริการจากหน่วยงานวันไหน ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องแสดงรายละเอียด

ทั้งนี้หากรัฐบาลมีการยุบสภาและการเลือกตั้ง ในช่วงเวลานี้พรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีความได้เปรียบเพราะพรรครัฐบาลมีปัญหาเรื่องคะแนนนิยม แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าประชานิยมไม่ต่างจากเพื่อไทยก็อาจจะแพ้และได้ ส.ส. ไม่ถึง 160 เสียง ทั้งนี้พิภพเสนอด้วยว่าปลายทางของการต่อสู้ของประชาชนนั้น ควรเป็นการปฏิรูปประเทศไทยซึ่งไม่ใช่มีตัวเลือกแค่สองวิธีคิดของพรรคการเมือง

นอกจากนี้ในช่วงเวลาประมาณ 00.10 น. เข้าสู่วันใหม่ พิธีกรบนเวทีได้ประกาศซักซ้อมผู้ชุมนุมสำหรับการเดินขบวนในวันพรุ่งนี้ โดยขอให้ผู้ชุมนุมยึดแนวทางสันติวิธี ให้ฟังเสียงจากรถนำขบวนที่บัญชาการการชุมนุม และให้เตรียมน้ำดื่มใส่กระเป๋าเป้ และผ้าขนหนู มะนาวฝาน สำหรับป้องกันแก๊สน้ำตา

 

คปท. เตรียมเคลื่อนประชิดแนวป้องกันตำรวจเพื่อปักธงชาติ

อนึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงหัวค่ำ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า นิติธร ล้ำเหลือ แกนนำ คปท. ปราศรัยด้วยว่า พรุ่งนี้่ คปท.จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมทุกแนวเขต พ.ร.บ.ความมั่นคงทุกด่าน "แต่ไม่ต้องตกใจเราจะไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม สันติ อหิงสา เอาธงชาติไปติดทุกด่าน ให้รู้ว่านี่คือแผ่นดินไทย แล้วถ้ายังห้าม วันทำการเราจะเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วเอาธงชาติคืนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้จะเป็นกิจกรรมตื่นเต้น ซึ่งยังไม่บอก"

"เราจะไปปลุกจิตสำนึกของข้าราชการ จากนี้่จนอาทิตย์หน้าเราจะเอาธงชาติไปติดหน่วยราชการทุกหน่วย อันนี้แค่ยกระดับเท้า แล้วเราจะยกระดับกันไปเรื่อยๆ" นิติธรกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net