ยืนยง โอภากุล หรือ 'แอ๊ด คาราบาว' ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเกรงจะพูดผิด และยืนยันว่าจะไม่ออกไปร่วมคัดค้านแน่นอนเพราะติดงานเพลง ส่วนที่มีนักแสดงออกไปชุมนุมกันนั้นถือเป็นสิทธิทางประชาธิปไตย แต่ "อย่าให้มันรุนแรงก็แล้วกัน"
7 พ.ย. 2556 - ยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ด คาราบาว" หนึ่งในผู้ก่อตั้งวงคาราบาว ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้งนี้จากรายงานของ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ เมื่อ 6 พ.ย. ระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม "สวัสดีประเทศไทย"
โดยแอ๊ด คาราบาว กล่าวว่า ติดตามสถานการณ์อยู่ แต่คงออกความเห็นไม่ได้เพราะไม่รู้ในรายละเอียดของทั้งฝ่ายทั้งที่สนับสนุนและฝ่ายไม่สนับสนุน เกรงว่าพูดไปแล้วจะผิด ทั้งนี้ แอ๊ด คาราบาว ยังยืนยันด้วยว่าจะไม่ออกไปร่วมคัดค้านแน่นอนเพราะติดทำงานเพลงอยู่
ส่วนกรณีที่คนในวงการบันเทิงออกตัวไปร่วมชุมนุมกันหลายต่อหลายคนนั้น เขากล่าวด้วยว่า "ก็อย่าให้มันรุนแรงแล้วกัน เพราะเราก็ใช้สิทธิในการเป็นประชาธิปไตย เพราะบ้านเมืองมันก็ต้องเปลี่ยนไปสิ่งใหม่ต้องมาแทนที่สิ่งเก่าอยู่แล้ว ก็ต้องให้ปรับไปพร้อมๆ กันเพราะอะไรที่เร่งรัดไปมันก็ไม่ถูก"
ทั้งนี้เขากล่าวด้วยว่าการที่มีคนในวงการบันเทิงออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น จะไม่มีผลใดๆ ที่จะทำให้คนอื่นทำตาม เพราะเรื่องนี้เป็นสิทธิของแต่ละคน "ไม่หรอกเพราะประชาธิปไตยใครอยากออกก็ออก แสดงความคิดเห็นได้ แต่ผมไม่รู้เส้นลึกหนาบางไม่อยากพูดอะไรมากเดี๋ยวมันจะผิด ผมกลับไปดูก่อนว่าเนื้อหามันเป็นยังไงเพราะเดี๋ยวตอบไปแล้วมันพลาด" "ผมก็พูดอะไรไม่ได้เพราะเป็นสิทธิของเขา ผมไม่อยากพูดอะไรมากครับ" ผู้ก่อตั้งวงคาราบาวกล่าว
ก่อนหน้านี้ วงดนตรีคาราบาว ได้แสดงคอนเสิร์ตที่ลานกลางแจ้ง ศูนย์การค้า Junction Square ถนนแปร นครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อระดมทุนจากผู้สนับสนุน เพื่อช่วยเหลือพม่าในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่กรุงเนปิดอว์ ระหว่างวันที่ 11-22 ธ.ค. นี้ โดยการแสดงคอนเสิร์ตดังกล่าวไม่มีการเก็บค่าบัตรผ่านประตู (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
แอ๊ด คาราบาว ให้สัมภาษณ์เผยแพร่ในไทยรัฐออนไลน์ว่า เป็นการแสดงดนตรีเพื่อสนับสนุนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ กีฬานั้นช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และทราบมาก่อนว่าชาวพม่าให้ความสนใจในงานเพลงและก็รู้สึกยินดีที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่พม่าเป็นครั้งแรก และยืนยันว่าจะไม่ร้องเพลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการเมืองของพม่า เพราะการเมืองภายในประเทศพม่ากำลังไปได้ด้วยดี และไม่ต้องการให้ผู้คนรู้สึกเกิดความขัดแย้งใดๆ