นักวิทย์สหรัฐฯ แนะอย่าตื่นตระหนกงานวิจัย โอรีโอเสพติดมากเท่าโคเคน

หลังจากเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรายงานข่าวเรื่องผลการวิจัยของนักศึกษาวิทยาลัยคอนเนคติคัท โดยมีการพาดหัวข่าวแบบชวนตื่นตระหนกว่า "การบริโภคโอรีโออาจทำให้เสพติดได้มากเท่ากับโคเคน" (พาดหัวข่าวจาก TIME) หรือ "งานวิจัยจากวิทยาลัยพบว่าคุกกี้โอรีโออาจทำให้เสพติดได้มากเท่ายาเสพติด" (จาก Fox News) แต่นักข่าวเว็บไซต์ไลฟ์ไซเอนท์ และนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องสิ่งเสพติด มองว่างานวิจัยไม่อาจสรุปได้ถึงขั้นนั้น

งานวิจัยเรื่องโอรีโอดังกล่าวเป็นผลงานของนักศึกษาปริญญาตรีจากวิทยาลัยคอนเนคติคัท ซึ่งทำการทดลองโดยให้หนูวิ่งไปตามเขาวงกตซึ่งมีทางออกสองทาง ทางหนึ่งมีรางวัลเป็นขนมหวานโอรีโอ อีกทางหนึ่งมีขนมข้าวพองแบบตะวันตก (Rice cakes) และดูว่าหนูนิยมออกทางไหนมากกว่ากัน

ผลออกมาไม่น่าแปลกใจเลยว่าหนูเลือกที่จะออกมาทางที่ได้รับขนมหวานโอรีโอมากกว่าข้าวพอง โดยหลังจากนั้นนักศึกษาได้ทำการทดลองที่คล้ายคลึงกันแต่คราวนี้เปลี่ยนการให้รางวัลจากขนมกลายเป็นการฉีดสาร โดยทางออกหนึ่งมีการฉีดสารมอร์ฟีนหรือโคเคนเป็นรางวัล ขณะที่อีกทางหนึ่งฉีดน้ำเกลือธรรมดา

โดยผลการทดลองครั้งหลังออกมาว่าหนูที่ได้เลือกรางวัลเป็นขนมสองชนิด ใช้เวลาออกจากเขาวงกตในทางที่ได้โอรีโอ มากพอๆ กับหนูที่ได้เลือกรางวัลเป็นการฉีดสารจะเลือกทางออกเป็นทางที่ได้รับโคเคน แต่สเตฟานี ปัปปาส์ นักข่าววิทยาศาสตร์ในไลฟ์ไซเอนท์กล่าวว่า การทดลองนี้ "ไม่ได้หมายความว่าโอรีโอจะถูกจัดเป็นสารเสพติด"

อีดิธ ลอนดอน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส กล่าวในทำนองเดียวกันว่างานวิจัยชิ้นนี้ไม่สามารถตัดสินได้ว่าโอรีโอเสพติดได้มากเท่าโคเคน โดยอีดิธเป็นคนที่ใช้วิธีการฉายภาพสมองเพื่อศึกษาระบบประสาทของผู้ที่มีความอยากสิ่งเสพติด

กลุ่มนักศึกษาที่ทดลองเรื่องดังกล่าวยังได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนที่เรียกว่า c-Fos ซึ่งใช้วัดการทำงานเซลล์สมองของหนูที่ได้รับโอรีโอหรือโคเคน ในส่วนของสมองที่เรียกว่านิวเคลียส แอคคัมเบนส์ (Nucleus Accumbens) สำคัญต่อเรื่องความพึงพอใจและการได้รับแรงเสริมทางบวก รวมถึงการเสพติดจากการที่สารเสพติดสร้างความรู้สึกพึงพอใจ

ในงานวิจัยพบว่าสมองส่วนนิวเคลียส แอคคัมเบนส์ของหนูจะมีปฏิกิริยาจากสิ่งกระตุ้นเร้าคือโอรีโอมากกว่าสิ่งกระตุ้นเร้าที่เป็นโคเคน แต่อีดิธก็กล่าวว่างานวิจัยนี้ก็ไม่มีส่วนใดที่สามารถโยงได้ว่าขนมหวานโอรีโอมีฤทธิ์เป็นสารเสพติด

แม้ก่อนหน้านี้จะเคยมีงานวิจัยที่กล่าวถึงหนูที่ติดทานอาหารจังค์ฟู้ดที่รสหวานจัดหรือมีไขมันสูงแล้วหลังจากนั้นถูกป้อนด้วยอาหารสุขภาพจะมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงของสมองที่คล้ายกับผู้ที่พยายามเลิกสิ่งเสพติด แต่ก็ไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ว่าอาหารทำให้เกิดการเสพติดได้

"ในทางชีววิทยาแล้วคนเราจะตอบสนองต่อรสชาติ รสสัมผัส และสีสันต่างๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสารเสพติด" กาเบรียล แฮร์ริส เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เขาเป็นผู้ช่วยศาตราจารย์สาขาวิทยาศาสตร์การอาหารจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนา

นักวิจัยส่วนหนึ่งในสหรัฐฯ เคยบอกว่าปัจจัยที่ทำให้ชาวอเมริกันมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน น่าจะเป็นเพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้อาหารจังค์ฟู้ดมีราคาถูกมากกว่าการกล่าวหาว่าเป้นการเสพติดการกิน
 

เรียบเรียงจาก

Oreos As Addictive as Cocaine? Not So Fast, Livescience, 16-10-2013
http://www.livescience.com/40488-oreos-addictive-cocaine.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท