Skip to main content
sharethis

9 ต.ค.56 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเล็ก ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมได้เห็นชอบให้ประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 9 -18 ต.ค. ใน 3 เขตพื้นที่ คือ พระนคร ดุสิต ป้อมปราม และแต่งตั้งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ทำหน้าที่ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยศูนย์บัญชาการอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หลังการเจรจาระหว่าง พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกับแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. เพื่อขอคืนพื้นที่ี่บริเวณถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ

ขณะที่แผนปฏิบัติการจะเริ่มจากเบาไปหาหนัก โดยขั้นแรกจะมีการติดประกาศให้ผู้ชุมนุมได้ทราบ สกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาเพิ่มเติม และจะมีการกำหนดเส้นตายให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่หน้าทำเนียบฯ รวมทั้งจะมีการตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงฯประเมินว่าอย่างน้อยวันที่ 10 ต.ค.กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางออกจากพื้นที่

อนึ่งระหว่างวันที่ 11 - 13 ต.ค.นี้ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือข้อราชการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบฯ ว่า เรื่องข้อกฎหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติ ความชอบธรรมที่สังคมรับได้ เมื่อถามว่า มีการรายงานให้นายกฯ รับทราบ หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า มีการประเมินสถานการณ์ให้นายกฯ รับทราบเป็นระยะอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เราจะมีแขกต่างประเทศ มีการย้ายที่ชุมนุมจากสวนลุมพินี มายังทำเนียบฯ ทำให้เกิด อุปสรรคในการปฏิบัติราชการ เมื่อถามว่าเหตุผลรวม ๆ เพราะนายกฯ จีน มาเยือน หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นสถานการณ์โดยรวม เพียงแต่ว่า นายกฯ จีนเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลผู้นำระดับประเทศ เราต้องสร้างความมั่นใจ ให้ทีมรักษาความปลอดภัยของจีน และต้องยืนยันให้ชัดเจน

 

หมอชูชัยเตือนตำรวจละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้ชุมนุม

นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่บริเวณทำเนียบว่า ยังไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงใดๆ จึงถือเป็นการชุมนุโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมอาจเป็นเหตุให้เกิดความไม่สะดวกในการสัญจรแก่ประชาชนทั่วไปอยู่บ้าง แต่ประชาชนก็ยังสามารถเดินทางได้โดยเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ซึ่งความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่พอยอมรับได้ในสังคมประชาธิปไตยทั่วไป หากเปรียบเทียบกับการชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองที่ผ่านมา

นายแพทย์ชุูชัยกล่าวเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ต้องระมัดระวังการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ชุมนุม ตำรวจมีหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยของสถานที่ราชการและความสงบเรียบร้อยโดยทั่วไป รวมถึงจัดการการจนาจรเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาในบริเวณนั้นได้ แต่ตำรวจไม่อาจห้ามบุคคลเข้าร่วมการชุมนุม การตรวจค้นผู้ชุมนุมต้องมีเหตุผล หากเป็นการตรวจค้นเพื่อป้องกันการนำอาวุธเข้ามาในบริเวณที่ชุมนุมก็อาจทำได้ แต่หากเป็นการตรวจค้นมากเกินกว่าความจำเป็ฯในการรักษาความสงบเรียบร้อยและมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างอุปสรรคในการเข้าร่วมชุมนุม อาจถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตและเป็นการกีดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบของประชาชนตามาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ 50นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่า ไทยมีพันธะกรณีระหว่างประเทศที่จะต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบในฐานะรัฐภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองหรือกติกา ICCPR (International Convenant on Civil and Political Rights)

 

ศอ.รส. เผยยึดหลักเจรจา โปร่งใส เมตตาธรรมภายใต้กรอบกฎหมาย

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ระบุ ครม. มีความจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมและประชาชน โดยมอบหมายผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้บังคับการกองกำลัง ยึดหลักการเจรจา โดยให้ใช้ความอดทนอดกลั้นในการปฏิบัติหน้าที่ จากข้อมูลขณะนี้พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะยึดพื้นที่บริเวณทำเนียบฯ และจะชุมนุมยืดเยื้อ รวมทั้งการข่าวพบว่าจะมีการระดมผู้ชุมนุมเข้ามากดดันเจ้าหน้าที่ และปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง หากไม่มีมาตรการป้องกันอาจเกิดความรุนแรงและยืดเยื้อ โดย ศอ.รส. จะปฏิบัติหน้าที่เน้นยึดหลักเมตตาธรรมภายใต้กรอบกฎหมาย จะใช้กำลังเท่าที่จำเป็น และโปร่งใสทุกขั้นตอน ยึดการเจรจามุ่งเน้นคลี่ลคลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุด เช่น การเจรจาเปิดถนน
 
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องคัดกรองผู้เข้าไปในพื้นที่ชุมนุม เพื่อป้องกันบุคคลที่สามที่หวังสร้างสถานการณ์ โดยตั้งแต่วันนี้เจ้าหน้าที่จะอยู่ในขั้นตอนของแผนเผชิญเหตุในพื้นที่ที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ 30 กองร้อยอยู่ในที่ตั้ง และพร้อมเสริมกำลังเป็น 50 กองร้อย หากเกิดสถานการณ์รุนแรง ยืนยันทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะมีการแจ้งเตือนผู้ชุมนุมและยึดเจรจา เบื้องต้นยังไม่มีประกาศปิดถนน ต้องประเมินตามสถานการณ์แต่ละวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net