Skip to main content
sharethis

ศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น สหกรณ์อันดับหนึ่งของไทย ฟ้อง สำนักข่าวออนไลน์ชื่อดัง ‘Thaipublica’ หลังเกาะติดซีรีส์ปมความผิดปกติการปล่อยกู้ของสหกรณ์กระทั่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง

8 ต.ค.56  เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ โดยไอลอว์ รายงานคดีที่สื่อโดนฟ้องหมิ่นประมาทรายล่าสุดกรณี สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า รายงานข่าวเกี่ยวกับปมปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น

วันที่ 13  ก.ย.ที่ผ่านมาศาลจังหวัดมีนบุรี รับเรื่องที่สหกรณ์เครดิตยูเนียนและนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ได้มอบอำนาจให้นายกฤษฏา มีบุญมาก ยื่นฟ้องนายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียน รวมกับพวกอีก 5 คน ได้แก่  นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง อดีตผู้จัดการสหกรณ์ , นางสาวบุญลาภ ภูสุวรรณ  บรรณาธิการบริหารสำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า และทีมข่าวไทยพับลิก้าอีก 3 คนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากที่เว็บไซต์ไทยพับลิก้านำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นซึ่งเป็นสหกรณ์ขนาดมหึมาของไทยมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นไปถอนเงินกันเป็นจำนวนมากแต่ไม่สามารถถอนได้เนื่องจากสหกรณ์ฯ ประสบปัญหาสภาพคล่อง และต่อมาสหกรณ์ฯ กำหนดให้ถอนได้ไม่เกินรายละ 20,000 บาท ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวมีปัญหาการเลือกตั้งประธานที่ขัดแย้งกัน 2 ขั้วและต้องเลือกกันหลายครั้งกว่าจะมีการรับรอง  

ทั้งนี้ปมปัญหาหลักของกรณีดังกล่าวมาจากความขัดแย้งภายในสหกรณ์ฯ ของผู้บริหาร 2 ฝ่าย ระหว่างนายมณฑล กันล้อม อดีตประธานฯ กับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคนปัจจุบัน โดยนายมณฑลได้เข้ารับตำแหน่งในปีที่ผ่านมาหลังจากที่ก่อนหน้านี้สมาชิกมอบหมายให้นายศุภชัยเป็นประธานมาอย่างยาวนาน และนายมณฑลได้ทำการตรวจสอบฐานะการเงินของสหกรณ์ พร้อมออกมาเปิดเผยรายงานหมายเหตุงบการเงินจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในประเด็นที่สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นให้เงินกู้แก่สมาชิกสมทบจำนวน 27 ราย มียอดหนี้รวม 11,846 ล้านบาท สหกรณ์ฯ ซึ่งขณะนั้นมีนายมณฑลเป็นประธานได้ยื่นฟ้องทั้งทางอาญาและแพ่งต่อนายศุภชัย ในข้อหายักยอกทรัพย์เป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท แต่ก็มีการถอนฟ้องไปหลังจากนายศุภชัยเข้าดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ฯ แทนในปัจจุบัน

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าได้นำเสนอกรณีนี้โดยอิงจากรายงานประจำปีของสหกรณ์ฯ ปี 2555 ระบุว่า ยอดเงินให้กู้ที่สหกรณ์ฯ ปล่อยกู้ให้แก่สมาชิกสมทบ 11,846 ล้านบาทนั้นคิดเป็น 80% ของยอดหนี้ที่ปล่อยกู้ให้สมาชิกทั้งหมด โดยปรากฏรายชื่อลูกหนี้ที่เป็นสมาชิกสมทบ 27 ราย พร้อมกันนี้ไทยพับลิก้ายังนำเสนอการตรวจสอบที่ตั้ง สถานะทางธุรกิจ งบการเงินของลูกหนี้ดังกล่าว และโดยเฉพาะสัญญาเงินกู้จำนวน 10 ฉบับพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหลายบริษัทมีนายศุภชัยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ผู้สื่อข่าวประชาไทติดต่อสัมภาษณ์นายศุภชัยเกี่ยวกับกรณีการฟ้องร้องดังกล่าว แต่นายศุภชัยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ระบุเพียงว่าถูกโจมตีจากสำนักข่าวไทยพับลิก้าอย่างหนัก

ด้านนางสาวบุญลาภ ภูสุวรรณ บรรณาธิการบริหารไทยพับลิก้า ระบุว่า เบื้องต้น มีนักข่าว 1 คนที่ได้รับหมายศาลแล้ว โดยสหกรณ์ฯ หยิบยกข่าว 2 ชิ้น เรื่อง เจาะสัญญาเงินกู้สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” กู้เอง-เซ็นอนุมัติเอง ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 มาดำเนินคดี โดยในรายงานดังกล่าวได้แนบไฟล์ PDF ของสัญญาเงินกู้ 27 ฉบับของสมาชิกสมทบด้วย ซึ่งตามกฎหมายแล้วสมาชิกสมทบไม่สามารถกู้ได้

บก.บห.ไทยพับลิก้ากล่าวต่อว่า ทางสหกรณ์ฯ ยื่นฟ้องว่า 1.เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารภายในสหกรณ์ฯ การนำมาเปิดเผยทำให้สหกรณ์ฯ เสียหาย ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจากสมาชิก ทำให้สมาชิกตื่นตระหนกและพากันมาถอนเงิน 2.ไทยพับลิก้านำเสนอเอกสารไม่ครบถ้วน เป็นการสมรู้ร่วมคิดกับนายมณฑล (อดีตประธาน) ปิดบังข้อมูลสัญญาเงินกู้รายที่ 28 เนื่องจากนายมณฑลเป็นผู้ลงนามในเอกสารนั้น

บก.บห.ไทยพับลิก้าระบุว่า ไม่ทราบข้อมูลมาก่อนว่า มีสมาชิกสมทบที่กู้ทั้งหมด 28 บริษัท โดยทีมข่าวได้สืบค้นข้อมูลจากรายงานประจำปีของสหกรณ์ฯ ผู้ตรวจสอบบัญชีหมายเหตุไว้เรื่องลูกหนี้ที่เป็นสมาชิกสมทบ จึงไปค้นหาข้อมูลต่อจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อค้นหางบดุลของแต่ละบริษัท และดูว่าแต่ละที่ยังประกอบกิจการอยู่หรือไม่

“นี่เป็นกรณีแรกที่ไทยพับลิก้าโดนฟ้องร้อง ในการทำงานข่าวก็ระมัดระวังอย่างที่สุดไม่ให้เป็นการกล่าวหา เราเพียงต้องการนำข้อมูลที่สืบค้นได้มานำเสนอให้อย่างน้อยก็ผู้ถือหุ้นได้รับรู้ ในช่วงแรกเราก็มีความกังวลว่าการนำเสนอข่าวอาจกระทบต่อการทำงานของสหกรณ์ซึ่งเป็น micro finance ที่มีความอ่อนไหวและอาจกระทบกับสมาชิกรายย่อย แต่ในที่สุดปัญหาของสหกรณ์ก็ลุกลามจนไม่สามารถให้สมาชิกถอนเงินได้ หรือถอนได้เป็นช่วงๆ จึงเห็นความจำเป็นว่าต้องนำเสนอข้อมูลออกมา” บุญลาภกล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ราวกลางเดือนกรกฎาคม นายศุภชัยได้แถลงข่าวชี้แจงสมาชิกยืนยันว่าสหกรณ์ยังมีความมั่นคง เพราะเงินส่วนใหญ่ของสหกรณ์ฯ หมุนเวียนอยู่ในมือสมาชิก ตั้งแต่เกิดเหตุสหกรณ์ก็ทยอยให้สมาชิกเริ่มถอนเงิน ทั้งเงินปันผล และเบิกใช้ตามความจำเป็น เพียงแต่ถ้าเป็นเงินก้อนใหญ่จะให้ทยอย เพราะจะทำให้สามารถเฉลี่ยเงินให้กับสมาชิกได้จำนวนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากทุกคนถอนพร้อมกันไม่มีทางที่สถาบันการเงินจะอยู่ได้

"ผมก็ไม่สบายใจสำหรับสหกรณ์คลองจั่นที่มีปัญหา เราก็ชี้แจงมาเป็นระยะ แต่คนที่ไม่ได้ชี้แจง และรู้สึกต้องถอนมีมากขึ้น ที่สะท้อนใจคือ เกิดผลกระทบไปทั่วประเทศ ซึ่งไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในสถาบันการเงิน ความจริงสถาบันการเงินเป็นของสมาชิก ถ้ามีความผิดจริงก็ว่ากันตามกระบวนการ แต่การประโคมข่าวทำให้คนตื่นตระหนก จะระงับกันลำบาก ฝากสื่อช่วยทำความเข้าใจด้วย" นายศุภชัยกล่าวในการแถลงข่าว

ล่าสุด กลางเดือนกรกฎาคม สื่อมวลชนรายงานข่าว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ (DSI) ได้เข้ายึดและอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา คือนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพวกรวม 4 คน ภายใต้ความผิดฐานผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกเงินของสหกรณ์ฯ ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น ทำให้สหกรณ์ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 12,402 ล้านบาท โดยอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 336 รายการ ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบแหล่งที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวต่อไป ต่อมามีการอายัดทรัพย์นายศุภชัยเพิ่มอีก 37 รายการ มูลค่าประมาณ 227 ล้านบาท

ทั้งนี้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนชุมชนคลองจั่น เกิดขึ้น ในวันที่ 4 ธันวาคม 2526 จากผู้นำ 3 คน คือ นายวิวัฒน์ พัฒนศักดิ์สุธี นายมณฑล กันล้อม และนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ข้อมูลทางการเงินประจำปี 2555 ของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นระบุว่า มีสมาชิกสามัญและสมทบ 52,683 คน สินทรัพย์ 21,790 ล้านบาท เงินรับฝาก 14,484 ล้านบาท เงินให้กู้ยืม 15,073 ล้านบาท รายได้ 2,011 ล้านบาท รายจ่าย 1,576 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 436 ล้านบาท โดยสหกรณ์มีสมาชิกและสินทรัพย์เป็นอันดับหนึ่งของสหกรณ์เครดิตยูเนียนทั้งหมดที่มีอยู่ 561 แห่ง

 

ข้อมูลบางส่วนจาก :
http://freedom.ilaw.or.th/case/489#detail
http://thaipublica.org/investigations/creditunion-khong-chan/page/2/
http://www.suthichaiyoon.com/home/details.php?NewsID=3850
http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-32/16693-g52.html
http://www.thairath.co.th/content/eco/371065

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net