มีผู้ยิงอาวุธปืนใส่บ้านพัก บก.โพสต์ทูเดย์ พร้อมแขวนระเบิดขู่

คนร้ายใช้ปืนยิงบ้านบรรณาธิการบริหารโพสต์ทูเดย์ โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านนายกสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการคุกคามจากการทำหน้าที่สื่อมวลชน และสมาคมจะออกแถลงการณ์เพื่อประฌามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานวันนี้ (17 ส.ค.) ว่า เมื่อเวลา 5.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณใกล้บ้านพักของนายภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการบริหาร นสพ.โพสต์ทูเดย์ อ.เมือง จ.นนทบุรี  โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้นายสราวุฒิ  พูลเกิด เจ้าของบ้านที่อยู่ติดกัน ระบุว่า ได้ยินเสียงดัง ในช่วงเวลาราว 3.00 - 5.00 น. แต่ไม่ได้คิดอะไร มาตื่นอีกครั้งเวลา หกโมงเช้า  พบว่ารถยนต์ของตนถูกยิง โดยรอยกระสุนทะลุจากประตูบ้านที่เป็นสแตนเลสเข้ามายังประตูท้ายรถ ทำให้หน้ารถ กระจกแตกเสียหาย จึงได้แจ้งตำรวจ

เมื่อตำรวจได้มาตรวจสอบ ยังพบว่าได้มีผู้แขวนระเบิดลูกเกลี้ยงแบบ V40 ไว้ที่หน้าบ้าน หน่วยเก็บกู้ระเบิดตรวจสอบพบระเบิดนี้มีแต่โลหะห่อหุ้ม ไม่มีสารระเบิด โดยเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบว่าที่มาของระเบิดมาจากแหล่งใด แต่เชื่อว่าเป็นการข่มขู่ เพราะไม่สามารถระเบิดได้

ทั้งนี้นายสราวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นวิศวกรที่บริษัทยูไอเอช ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งใคร แต่ในพื้นที่บ้านหลังนี้ มีบ้านสามหลังเรียงติดกันอยู่ภายในรั้วเดียวกัน  ติดกับบ้านของเขาก็เป็นบ้านของนายภัทระ ส่วนอีกหลังเป็นของญาติตน อย่างไรก็ตาม ที่บ้านตนจะใช้รับส่งนสพ.โพสต์ทูเดย์ทุกวัน

พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ได้สอบถามนายภัทระเชื่อว่า สาเหตุการยิงครั้งนี้ มาจากการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนที่ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล กลุ่มการเมือง

โพสต์ทูเดย์รายงานด้วยว่า นายภัทระระบุว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจัดสายตรวจมาเป็นพิเศษและติดตู้สายตรวจไว้ที่หน้าบ้านให้ นอกจากนี้นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายภัทระที่บ้านพักด้วย โดยเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการคุกคามจากการทำหน้าที่สื่อมวลชน และสมาคมนักข่าวจะไปออกแถลงการณ์เพื่อประฌามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องการให้ตำรวจนำคนร้ายมาดำเนินคดี

 

00000

วันเดียวกัน สมาคมนักข่าวหนังหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ร่วมประณามกรณีดังกล่าว ให้รัฐบาลมีมาตรการปกป้องคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน  ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว พร้อมระบุหากผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเห็นว่าใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมายหรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรสื่อวิชาชีพสื่อ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

รายละเอียดแถลงการณ์ มีดังนี้

 

จากกรณีมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนกระทำการอุกอาจใช้อาวุธปืนยิงถล่ม และผูกวัตถุลักษณะคล้ายระเบิดลูกเกลี้ยง มีโลหะห่อหุ้ม ไม่มีสารระเบิด ไว้ที่รั้วหน้าบ้านบ้านเลขที่ 38 ซอยทานสัมฤทธิ์ 32/5 9 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี บ้านของ นายภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และ กรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเช้ามืดวันที่ 17 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา

สมาคมนักข่าวหนังหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นว่า เป็นการกระทำที่มุ่งข่มขู่ คุกคามโดยตรงต่อ นายภัทระ คำพิทักษ์. ในฐานะบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และเป็นผู้ร่วมจัดรายการคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม101 ซึ่งได้ทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ตามสิทธิเสรีภาพตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อนำข้อมูล ข้อเท็จจริงและความจริงเสนอต่อสาธารณะชน

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำก็ตาม เป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้ความรุนแรงเป็นการข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนโดยรวมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ดังนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอประณามการกระทำทีใช้ความรุนแรงในครั้งนี้

1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการปกป้องคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน เพราะการคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชนเท่ากับเป็นการคุกคามเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงของประชาชน และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ

2.ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน และเมื่อคดีมีความคืบหน้าขอให้แถลงผลความคืบหน้าในคดีให้สาธารณชนทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อความปลอดภัยแก่ประชาชน

3.หากผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กรณีเห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมายหรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรสื่อวิชาชีพสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารโดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างมั่นคงต่อไป

สมาคมนักข่าวหนังหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
17 สิงหาคม 2556

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท