Skip to main content
sharethis
"สุวัตร อภัยภักดิ์" อดีตทนายความของ "เอกยุทธ อัญชันบุตร" และทีมทนายความตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุผู้ต้องหาเคยทำงานกับคนสนิท “ทักษิณ” ส่งมาสอดแนมจับตาความเคลื่อนไหว “เอกยุทธ” ก่อนให้ทีมฆ่าลงมือสังหารโหด มีการอำนวยความสะดวกตลอดทางในการไปฝังศพที่พัทลุง แฉเพราะฉุนถูกเบี้ยวเงิน 3 ล้าน 
16 ส.ค. 56 - เว็บไซต์แนวหน้า รายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ซอยลาดพร้าว 23 นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร พร้อมด้วย น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทีมทนายความ ได้แถลงข่าว กรณีที่ออกมาเปิดเผยว่า นายสันติ เพ็งด้วง หรือบอล ผู้ต้องร่วมกันฆ่า นายเอกยุทธ ติดต่อมาไปพบ เพื่อเปิดเผยข้อมูลว่า ถูกว่าจ้างโดยกลุ่มคนมีสี ให้ฆ่านายเอกยุทธ แต่ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ก็ยืนยันว่า ไม่มีใครเข้าเยี่ยมนายบอล ที่เรือนจำ แต่อย่างใด
 
โดย นายสุวัตร เปิดเผยว่า ตนไม่อยากแถลงข่าว เนื่องจากเลิกทำคดีนี้แล้ว แต่ที่ พล.ต.ต.อนุชัย ออกมาให้ข่าวว่า ตนไม่ได้ส่งทีมงานไปพบนายบอลจริงนั้น ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง เหมือนตนเป็นคนโกหก และไม่ได้ตั้งใจคัดค้านพนักงานสอบสวน ยังคงแสวงหาความร่วมมือกันต่อไป โดยตนได้ส่ง น.ส.อัจฉรา ซึ่งเป็นคนจังหวัดพัทลุง และเป็นคนที่พูดกับนายบอล ที่บช.น.จน นายบอล ยอมบอกที่ฝังศพ นายเอกยุทธ นอกจากนั้น ตนยังทำหนังสือ เรื่อง ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงและเสนอประเด็นให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. มีใจความว่า ตามที่ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่ให้พนักงรานสอบสวน เข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อสอบปากคำนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล โดยมีการตอบเป็นข้อๆ โดยอ้างว่า ไม่เคยมีผู้แทน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ พบหรือพูดคุยกับนายบอล แต่อย่างใด และอ้างว่า ไม่เคยพูดว่ามีคนจ้าง ให้ฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร เป็นเงิน 3 ล้านบาท โดยปรากฏตามข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอ โดยมีการนำคำให้การที่อ้างว่า เป็นของนายบอลได้ให้การไว้มาแสดงต่อสื่อมวลชน ตนขอยืนยันว่า เมื่อประมาณ วันที่ 18 ก.ค. นายสันติภาพ ได้ให้คนติดต่อมาเพื่อจะบอกข้อมูลสำคัญ ต่อมาตนได้ส่งตัวแทน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมทนายความ คือ น.ส.อัจฉรา แสงขาว เข้าพบนายสันติภาพ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.โดยแสดงบัตรทนายความ เข้าเยี่ยม เวลา 13.00 น.และได้พบนายบอล เวลา 14.10 น.ซึ่งได้พูดคุยกันประมาณ 10–15 นาที
 
ด้าน น.ส.อัจฉรา เปิดเผยว่า ตนขอยืนยันว่า วันที่ 26 ก.ค. ตนได้เข้าไปพบกับ นายบอล จริง โดยสามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เรือนจำได้ เพราะถ้าจะเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องหาต้องยื่นบัตรประจำตัวทนายความ และต้องกรอกเอกสารว่าจะเข้าเยี่ยมใคร จากนั้นยังจะต้องนำเอกสารไปให้หัวหน้าเซ็นอีกที ก่อนจะมานั่งรออยู่กว่า 30 นาที จนเจ้าหน้าที่มาบอกว่ารอนานหน่อนนะ เพราะนายบอล เป็นนักโทษคดีสำคัญ ต้องมีผู้คุมเดินมาด้วย ซึ่งที่ตนจำวันที่ได้ เพราะตอนยื่นบัตรทนาย ในบัตรระบุวันหมดอายุวันที่ 26 ก.ค. เจ้าหน้าที่ยงถามว่า บัตรหมดอายุวันนี้แล้ว อย่าลืมไปต่อนะ ตนยังบอกว่าถ้าอย่างนั้น ก็เร็วหน่อย จะได้รับกลับไปต่อบัตรทนาย ก่อนจะพบนายบอล ซึ่งวันนั้นเขาสวมเสื้อนักโทษสีน้ำตาล โดยเราพูดคุยกันเป็นภาษาใต้ เพราะเป็นคนพัทลุง ด้วยกัน โดยนายบอล บอกกับตนว่า ผลจะเล่าความจริงให้พี่ปุยฟังทุกอย่าง ซึ่งชื่อปุย เป็นชื่อเล่นของตน และอยากให้พี่บอกนายสุวัตร ช่วยตนด้วย พี่สามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลที่ผมเล่าเป็นความจริงหรือไม่
 
น.ส.อัจฉรา กล่าวต่อว่า ตนยังถามบอลว่า ไม่กลัวอันตรายหรือหากเล่าให้พี่ฟัง เพราะไม่แน่ใจว่าจะถูกดักฟังหรือไม่ บอลยังตอบว่า ไม่กลัว เพราะกำลังลำบาก และเขาเบี้ยวค่าจ้างผม 3 ล้านบาท ผมรับมาเพียงหลักแสนในเบื้องต้น หากนายสุวัตร รับปากจะช่วยดูแลครอบครัวผม จากนั้นนายบอลได้ล่าให้ฟังว่า เคยทำงานที่บริษัท ซ๊ทีเอ็ม มาก่อนโดยตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นทรีวิว ตั้งอยู่สี่แยกอโศกเลี้ยวขวาไปทางคลองเตย อยู่ชั้น 22 หรือชั้น 23 อยู่ในตึก ซีทีไอทาวเวอร์ โดยมีเจ้านายเก่า ตนชื่อนายสมชาย เป็นเจ้าของบริษัท จำนามสกุลไม่ได้ มีภรรยาเชื่อ เกียว อยู่หมู่บ้านชิชา พระราม 2 และมีคอนโดเดอะเลค อยู่สี่แยกอโศกที่เดียวกับายเอกยุทธ และนายสมชาย ยังมีบ้านพักอยู่ประเทศอังกฤษ นอกจากนั้น นายสมชาย ยังอ้างว่า เป็นลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) และเคยพาตนเข้าออกพรรเพื่อไทยเป็นประจำ เมื่อตนลาออกมาอยู่กับ นายเอกยุทธ นายสมชาย ได้ติดต่อมาว่า สนใจรับงานไหม จากนั้น ก็ให้ตนติดต่อทีมอุ้มซึ่งเป็นคนมีสี โดยก่อนหน้านี้มีการวางแผนกัน 2 ครั้งแต่ไม่สบโอกาส จนวันเกิดเหตุ นายเอกยุทธ ลืมปืนไว้ในรถตนจึงตัดสินใจทำวันนั้น โดยติดต่อทีมอุ้ม พี่ปุยคิดดูว่า จะเอาศพไปพัทลุงได้อย่างไร โดยไม่เจอด่านตำรวจ ตลอดเวลาที่ขับรถจะขับชิดขวาตลอด และมีรถนำขบวนตลอดทาง รวม 3 ช่วง นอกจากนั้น การทำงานคร้งนี้มีเบอร์พิเศษ และฮาร์ดดิสก์ ตนก็ไม่ได้ทุบทำลาย ตามที่ให้การกับตำรวจ แต่นำไปฝังดิน ดังนั้น หลักฐานทุกอย่างยังอยู่ สามารถสาวไปถึงผู้บงการได้ หากนายสุวัตร รับปากจะดูแลพ่อแม่ตน ตนก็ยินดีจะบอกทุกอย่าง
 
น.ส.อัจฉรา กล่าวต่อว่า หลังจากพบนายบอล แล้วตนก็ให้ทีมงานเช็คว่า นายสมชาย มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ โดยคัดหนังสือรับรองบริษัท ทรีวิว จำกัด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พบว่า บริษัททีซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด มี นายสมชาย (สงวนนามสกุล) เคยเป็นกรรมการ ส่วนคอนโดเดอะเลควิว ก็ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับที่นายบอล เล่าให้ฟัง  
 
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า เพื่อจะได้เกิดความยุติธรรม กับ นายเอกยุทธ และจำเลย ตนจึงขอให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนในประเด็นดังต่อไปนี้ 1.นายบอล หรือสันติภาพ เคยทำงานอยู่ที่ บริษัท ซีทีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด จริงหรือไม่ 2.นายสมชาย เกี่ยวกับอย่างไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย 3.นายบอล และ นายสมชาย เคยไปที่ทำการพรรคเพื่อไทย หรือไม่อย่างไร 4.ฮาร์สดิสก์ฝังอยู่ใต้ดิน อยู่ที่ไหน เพราะฮาร์ดิสก์จะนำไปสู้ทีมฆ่าตัวจริง ขอให้พนักงานรสอบสวนค้นหาฮาร์ดิสก์ ดังกล่าวมาให้ได้ 5.ที่อ้างว่ามีรถนำนายบอล นำศพเอกยุทธไป จังหวัดพัทลุง 3 ช่วง เพื่อเป็นใบเบิกทางมีอยู่จริงหรือไม่ และเป็นรถของผู้ใด
 
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า หากเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวนทั้ง 5 ประเด็นดังกล่าวแล้ว ก็จะเป็นการคลี่คลายปัญหาของคดีนี้ได้ อันจะไม่ทำให้พนักงานสอบสวนไม่หลงทาง เนื่องจากบาดแผล จากการชันสุตรศพของ นายเอกยุทธ ขัดกับคำให้การของนายบอล และข้อสรุปของพนักงานสอบสวน และจะขอแถลงข่าวครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และไม่ขอไปเยี่ยมนายบอลอีกแล้ว ขอยุติคดีของนายเอกยุทธ และส่งเอกสารที่ได้มาให้กับพนักงานสอบสวน และ กมส. ต่อไป แต่ถ้าญาติ นายเอกยุทธ เข้ามาขอให้ทำคดีอีก ก็ต้องคุยกันอีกที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net