ชุมนุมส่ง ส.ส.ประชาธิปัตย์เข้าสภา 'สุเทพ' บอก - ขอให้รอ "วาระ 3"

รวมตัวส่ง 'ชวน - สุเทพ - อภิสิทธิ์' เข้าสภา ด้าน ส.ส.ประชาธิปัตย์ขอผู้สนับสนุนกลับไปรอที่บ้าน ไม่ต้องรวมตัวรอจนประชุมสภาเสร็จ ด้าน "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ขอให้รอ "วาระ 3" ส่วน "ผู้กองปูเค็ม" ถูกส่งไปควบคุมตัวที่ ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี หลังผลักดันกับตำรวจปราบจลาจล โดยโพสต์ส่งท้ายเรียกร้องนักรบนิรนาม "โค่นล้มระบอบทักษิณให้จงได้"

ที่มาของภาพ: เพจ Abhisit Vejjajiva

ที่แยกราชวิถีเช้าวันนี้ (7 ส.ค.) ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งปักหลักชุมนุมที่ใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ มาตั้งแต่เมื่อคืนวานนั้น ได้เคลื่อนขบวนมาส่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เพื่อร่วมประชุมคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยแกนนำ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายชวน หลีกภัย รวมทั้งคณะ ส.ส. ได้ทยอยเดินทางเข้ามาบนถนนราชวิถี เพื่อเข้าประชุมสภา

ทั้งนี้ทาง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอบคุณผู้ชุมนุมที่มาส่ง และประกาศให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้าน โดยไม่ต้องรวมตัวรอจนประชุมสภาเสร็จ ขณะที่นายสุเทพ ได้ปราศรัยว่า "นี่ไม่ใช่นัดตัดเชือก รอผ่านวาระ 3 ก่อน" โดยขอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านไปรอฟังข่าว

อย่างไรก็ตาม ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ "ผู้กองปูเค็ม" อดีตนายทหารนอกราชการ ได้นำมวลชนผลักดันแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำมวลชนฝ่าเข้าไป ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ร.อ.ทรงกลด กับการ์ดผู้ชุมนุมอีก 4 คน ไปควบคุมไว้ที่ ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี

โดย ร.อ.ทรงกลด ได้โพสต์สเตตัส ก่อนที่จะมอบเครื่องโทรศัพท์ให้ตำรวจว่า "นักรบนิรนามจงฟัง.. พี่น้องเสื้อแดงคือเพื่อนร่วมชาติของเรา..จงมอบความรัก ความเข้าใจให้กับพวกเขา.. แต่..จงปฏิบัติการ "รุก" ต่อสมุนทักษิณ ได้แก่ สส.พรรคเพื่อไทย โฆษกรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และแกนนำแดง.. นับแต่บัดนี้..เป็นต้นไป..จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง.."

และส่งท้ายยังโพสต์ด้วยว่า "ต้องฝากโทรศัพท์ให้กับตำรวจแล้ว.. เราจะขาดการติดต่อสื่อสาร.. ขอให้นักรบนิรนามจงดำรงความมุ่งหมาย..จนกว่าจะถึงเป้าหมายของเรา..โค่นล้มระบอบทักษิณให้จงได้.."

ส่วนเวทีการชุมนุมของ "กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ" ที่สวนลุมพินีนั้น เมื่อเวลา 19.23 น. วอยซ์ทีวี รายงานว่า คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนฯ ได้กล่าวกับผู้ชุมนุม ขอให้มวลชนทุกคนอดทนรอคอยเวลาในการเคลื่อนออกจากพื้นที่ โดยระบุว่าเป็นการคำนึงถึงยุทธวิธีในการเคลื่อนไหว เพื่อให้บรรลุชัยชนะในที่สุด โดยมั่นใจว่าจะมีกำลังมวลชนมาเสริมสมทบอย่างแน่นอน

 

คุมเข้มรอบทำเนียบรัฐบาล ติดป้าย "ผู้กองปูเค็ม" บุคคลต้องห้าม

ขณะที่สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานด้วยว่า การรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลช่วงค่ำวันนี้ (7 ส.ค.) เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยรอบพื้นที่อย่างเข้มงวดขั้นสูงสุด เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการสำคัญ และในสภามีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่รัฐสภา จำเป็นต้องตรึงกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นพื้นที่หวงห้าม โดยเน้นตรวจสอบบุคคลและรถยนต์ที่เข้า-ออกทำเนียบรัฐบาลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเปิดให้บุคคลหรือเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลเดินทางเข้า-ออก ได้ 2 ทาง คือ ประตู 1 บริเวณสะพานอรทัย และประตู 5 , ประตูบริเวณน้ำพุ ขณะที่รถยนต์จะให้เข้า-ออกได้เพียงประตูเดียว คือประตู 1 บริเวณสะพานอรทัยเท่านั้น ยกเว้นบุคคลและรถยนต์ที่ไม่มีบัตร หรือสติ๊กเกอร์ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด ต้องได้รับการตรวจตราและแลกบัตรเข้าพื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนทุกครั้ง ส่วนบริเวณรอบนอกทำเนียบรัฐบาลที่มีการปิดถนน ตำรวจ ได้นำแท่งคอนกรีต และรั้วลวดหนามมาวางไว้ และติดป้ายประกาศ "ทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด"

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานด้วยว่า ทุกวันจะมีการสับเปลี่ยนกำลังตำรวจที่รักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่อยู่ตลอดเวลา กรณีมีเหตุฉุกเฉินที่จุดใดตำรวจทุกนายที่สับเปลี่ยนกำลังต้องกลับมาประจำการตามจุดได้ทันทีภายในเวลา 30 นาที ซึ่งภาพรวมพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลมีตำรวจจากหน่วยต่าง ๆ มาปฏิบัติหน้าที่ 12 กองร้อย หรือประมาณ 1,800 นาย โดยกรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ติดตามการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ไม่พอใจการลงมติรับหลักการร่างฉบับดังกล่าว อาจมีการเคลื่อนขบวนมวลชนเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามได้ เช่น รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล กำลังสำรองทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร เช่น นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี เมื่อมีการเรียกกำลังเสริมสามารถเสริมกำลังได้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดรูป "ผู้กองปูเค็ม" เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าพื้นที่หวงห้ามตามที่รัฐบาลประกาศใช้อยู่ในขณะนี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท