Skip to main content
sharethis
จับกระแสสื่อต่างชาติ เกาะติดแถลงการณ์ ‘หยุดยิงรอมฎอน’ ระหว่างรัฐไทยกับขบวนการ BRN สำนักข่าว BBC ชี้ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ เป็นเพียงการลั่นวาจา ยังไม่ลงนามข้อตกลง ‘ศรีสมภพ’ ชี้เป็นสัญญาสุภาพบุรุษ และความก้าวหน้าของกระบวนการสันติภาพ วงในโต้เหตุบึ้มรามัน ฝ่ายทหารทำผิดเงื่อนไข
 
 
สื่อต่างประเทศรายงานข่าว แถลงการณ์ ‘หยุดยิงรอมฎอน’ ระหว่างรัฐไทยกับขบวนการ BRN
 
13 ก.ค. 56 - คำแถลงการณ์ “ความเข้าใจรวมกันเพื่อการริเริ่มเดือนรอมฎอนแห่งสันติสุข” หรือเรียกให้ง่ายว่า แถลงการณ์“หยุดยิงรอมฎอน” ต่อการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างตัวผู้แทนฝ่ายรัฐไทย นำโดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับตัวแทนฝ่ายขบวนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพปาตานี นำโดยแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติปาตานี หรือ BRN เป็นประเด็นหนึ่งที่ดึงความสนใจให้สื่อต่างประเทศมาร่วมรายงานข่าวนี้
 
แถลงการณ์นี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ.2013 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยดาโต๊ะ สรี ซัมซามิน บินฮาซิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติมาเลเซีย ในฐานะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในพูดคุยเพื่อสันติภาพดังกล่าว
 
สำนักข่าว BBC 
 
รายงานว่า ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ เป็นเพียงการลั่นวาจา ยังไม่ลงนามข้อตกลง
 
เวลา 14.32 น.รายงานข่าวของสำนักข่าว BBC พาดหัวว่า “ประเทศไทยตกลงหยุดยิงเดือนรอมาฎอน ของกบฏมุสลิม” “Thailand agrees Muslim rebel Ramadan ceasefire”
 
ผู้สื่อข่าวชื่อ Jennifer Pak รายงานจากกัวลาลัมเปอร์ว่า มันเป็นกระบวนการสันติภาพที่สั่นคลอน และเป็นการตกลงด้วยวาจา ยังไม่มีการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร 
 
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ข้อกังวลในครั้งนี้คือ ตัวแทนฝ่ายขบวนกบฏ ไม่ได้มีอำนาจเต็มทางการทหารแต่อย่างใด แต่กระบวนการพูดคุยสันติภาพครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาคือ เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายรัฐไทยยอมรับฝ่ายขบวนการ และยังเปิดทางให้ข้อเรียกร้องของพวกเขาได้รับการได้ยินและถกเถียง
 
ที่มา: http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-23288378
 
Straits times สิงคโปร์
 
สำนักข่าวออนไลน์ Straits times ของสิงคโปร์ รายงานเป็นข่าวสั้นเมื่อเวลา 16.55 วันเดียวกันว่า ดาโต๊ะ ซัมซามิน แถลง ขบวนการต่อต้านรัฐไทยรับจะหยุดก่อเหตุช่วงเดือนรอมฎอน โดยพาดหัวข่าว ว่า “Militants seek weeks-long halt to Thai violence” การทหารแสวงหา ยุติก่อเหตุรุนแรงในไทย
 
ในเนื้อข่าวอ้างอิงคำกล่าวของดาโต๊ะซัมซามินว่า ขบวนการกบฏจะพยายามหยุดการโจมตีทางทหารทั้งหมดและการระเบิด จนถึงวันที่ 18 สิงหาคมนี้
 
ที่มา: http://www.straitstimes.com/breaking-news/se-asia/story/militants-seek-weeks-long-halt-thai-violence-20130712
 
Channel NewsAsia
 
กัวลาลัมเปอร์ : เวลา 20.38 น. (วันนี้) สำนักข่าว Channel NewsAsia รายงานข่าวผ่านเว็บไซต์โดยพาดหัวว่า ประเทศไทย, กบฏมุสลิมมุ่งหมายสู่สันติภาพเดือนรอมฎอน “Thailand, Muslim rebels aim for Ramadan peace”
 
รัฐบาลไทยและกบฏมุสลิมตกลงหยุดก่อเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอน เป็นเครื่องหมายแสดงถึงพัฒนาการใหม่ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งในรอบทศวรรษในเร็ววันนี้ มองว่าการพูดคุยระหว่างตัวแทนรัฐไทยและBRN จะนำความหวังแห่งสันติภาพขั้นเบื้องต้น 
 
แม้กระบวนการสันติภาพที่ดำเนินอยู่ โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย แต่การก่อเหตุในพื้นที่ก็ยังคงดำเนินอยู่เกือบทุกวัน นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา
ดาโต๊ะซัมซามิน ฮาซิม กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุความเข้าใจร่วมกันที่จะผลักดันให้เกิดการยุติเหตุรุนแรงเดือนรอมฎอน ซึ่งการริเริ่มสันติภาพในเดือนรอมฎอนนี้ ฝั่งรัฐไทยควรหลีกเหลี่ยงการใช้ปฏิบัติที่แข็งกร้าว ในขณะที่ BRN ไม่ควรโจมตีทางการทหาร ระเบิดและซุ่มโจมตีฝ่ายทหารฝั่งรัฐไทยและสาธารณะ 
 
“นี่เป็นการก้าวต่อไปสู่สิ่งที่เราต้องการในอนาคต ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เราจะไม่สามารถเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ จะกลายเป็นแบบอย่างในการก้าวต่อไป”ดาโต๊ะ ซัมซามิน กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
ดาโต๊ะซัมซามิน กล่าวว่า ข้อตกลงนี้ จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม ถึง 18 สิงหาคม และครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดในสามจังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานีและสงขลา 
ภายใต้แผนดังกล่าว รัฐจะถอนด่านตรวจบนถนนออกบางส่วน และทหารได้ถอนกำลังจากบางพื้นที่เพื่อลดความตึงเครียด
 
พลโทภราดร พัฒนถาบุตร ตัวแทนคณะพูดคุยสันติภาพฝ่ายรัฐไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับ APF ว่า ตนเชื่อมั่นที่ BRN จะสามารถยับยั้งเหตุรุนแรงได้ และที่ผ่านมาBRN ไม่เคยประกาศเป้าประสงค์ที่ชัดเจนของพวกเขา
ในเนื้อหาข่าวยังระบุถึง การพูดคุยใน 4 รอบที่ผ่านมา ที่การนองเลือดยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคำถามว่า ตกลงมีผู้นำการทหารหัวรุนแรงเท่าไหร่ ซึ่งเหตุการณ์ที่สะเทือนมากที่สุดคือ เหตุระเบิดรถทหารเสียชีวิตไป 8 นายเมื่อเดือนที่แล้ว 
 
ลงท้ายข่าว ด้วยความเห็นของผู้แทนพูดคุยรัฐไทย ได้เสนอว่า อาจจะมีการอนุมัติเลือกตั้งการบริหารส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ แต่ไม่ใช่การปกครองตัวเองแบบเต็มขั้นยังคงเป็นสิ่งต้องห้ามต่อรัฐธรรมนูญไทย ที่อาณาจักรรัฐไทยไม่สามารถแบ่งแยกได้ 
 
ที่มา : http://www.channelnewsasia.com/news/asiapacific/thailand-muslim-rebels/742596.html
 
‘ศรีสมภพ’ ชี้เป็นสัญญาสุภาพบุรุษ และความก้าวหน้าของสันติภาพ
 
ด้านผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSW) ระบุว่า การแถลงข้อตกลงดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์พิเศษ เนื่องจากการพุดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างรัฐไทยกับขบวนการ BRN พึ่งจะเริ่มขึ้นประมาณ 4 เดือน แต่สามารถมีข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวได้ ถือว่าเป็นความก้าวหน้าของกระบวนการสันติภาพเป็นอย่างมาก
 
ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้ 3 วันได้มีการเลื่อนการแถลงข่าวดังกล่าวมาแล้วเนื่องจากฝ่าย BRN ไม่มั่นใจในความจริงใจของรัฐไทย แต่ท้ายที่สุดได้มีความพยายามจนสามารถมีแถลงการณ์ครั้งนี้ได้ ซึ่งพูดกันว่าเป็น Gentleman Agreement หรือสัญญาสุภาพบุรุษ เพราะครั้งนี้เป็นการประกาศให้รู้ว่าฝ่ายตนต้องการทำอะไร โดยไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลงที่เป็นมาตรการด้านการปฏิบัติ หรือกลไกการติดตาม การมอนิเตอร์เหตุการณ์อย่างที่เป็นรูปแบบการมีข้อตกลงร่วมอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
 
“อันนี้เรียกได้ว่าเร็วมากที่สามารถมีข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวได้ แม้ไม่ได้มีข้อสัญญาแต่เป็นการตกลงด้วยใจ เพราะโดยทั่วไปข้อตกลงหยุดยิงจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาด้วย เช่น หยุดยิงบางพื้นที่ หรือบางเวลา มีกลไกการติดตามอย่างเป็นรูปธรรม มี Monitoring Team แต่อันนี้เป็นการหยุดยิงทั้งพื้นที่ 3 จังหวัดและ 5 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งถ้าทำได้จะเป็นการสร้างความมั่นใจขั้นต้นของกระบวนการเจรจา” ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าว
 
ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวถึงกระบวนการเจรจาสันติภาพที่กำลังดำเนินอยู่ว่า ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้เท่าที่ทราบไม่ได้เป็นการยอมรับข้อเรียกร้องและข้อเสนอของฝ่ายขบวนการที่มีมาก่อนหน้านี้ และไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด มีเพียงเท่าที่พูดถึงในแถลงการณ์เท่านั้น ซึ่งผลของข้อตกลงหยุดยิงในเดือนรอมฎอนครั้งนี้จะเป็นข้อพิสูจน์ความจริงใจและพิสูจน์ตัวตนของขบวนการอย่างสำคัญ
 
“เมื่อพิสูจน์กันได้ในข้อตกลงหยุดยิงในเดือนรอมฎอนได้ ข้อเรียกร้อง 5 ข้อ 7 ข้อตามที่ได้มีก่อนหน้านี้คงสามารถคุยกันได้อย่างก้าวหน้ามากขึ้น”
 
วงในโต้เหตุบึ้มรามัน ฝ่ายทหารทำผิดเงื่อนไข
 
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารถูกลอบวางระเบิดรถยีเอ็มซีที่บ้านบาลอ อ.รามัน จ.ยะลาเมือวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของเดือนรอมฎอนนั้น ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวว่าจากแหล่งข่าววงในได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารทำผิดเงื่อนไข โดยมีการเคลื่อนกำลังพลในเดือนรอมฎอน ทำให้ฝ่ายขบวนการปฏิบัติการตอบโต้
 
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำผิดข้อตกลงโดยเคลื่อนกำลังพลออก แม้จะกล่าวว่าเป็นการคุ้มครองครู แต่ก็เลยเวลารับส่งครู เป็นการเครื่องกำลังพลออกนอกเส้นทางและมีกำลังพลเป็นจำนวนมากเกินกว่าภารกิจคุ้มครองครูด้วย ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า ข้อตกลงนั้นการคุ้มครองครูจะเป็นการรับและส่งตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการปฏิบัติที่ผิดข้อตกลงของเจ้าหน้าที่ทหาร
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net