‘ปัญญา’ขอโทษกรณีเอมเมอรัล แจงรู้ไม่เท่าทัน-กสทช.ลั่นต้องเยียวยาทางสังคม

อนุฯ กำกับกันเอง เชิญ ‘ปัญญา–ช่อง 3–สภาวิชาชีพฯ’ ถกกรณีรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ออนแอร์เอมเมอรัล กสทช.ชี้ ผลกระทบแล้ว 3 ระดับ ลั่นต้องมีมาตรการเยียวยาทางสังคม ด้าน ‘ปัญญา’ ขอโทษแจงรู้ไม่เท่าทัน ไม่มีเจตนาดูหมิ่น

 
เชิญ ‘ปัญญา – ช่อง 3 –สภาวิชาชีพฯ’ ที่หารือมาตรการเยียวยาสังคม
 
วันที่ 11 มิ.ย.56 คณะอนุกรรมการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง กสทช.ประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนรายการ Thailand’s Got Talent Season 3 (TGT3) กรณี “สิทธัตถะ เอมเมอรัล” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานกรรมการบริษัทเวิร์คพ้อยท์ เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตรายการ นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย นางนิมะ ราชิดี ผู้แทนสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในฐานะเจ้าของช่องผู้ที่เผยแพร่รายการ และ รศ.อรุณีประภา หอมเศรษฐี ประธานสภาวิชาชีพกิจการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) ในฐานะองค์กรวิชาชีพที่มีสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 และ บ.เวิร์คพ้อยท์เป็นสมาชิก เข้าร่วมชี้แจง
 
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการชุดนี้ เปิดเผยว่า จากเหตุร้องเรียนการออกอากาศรายการดังกล่าวที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 2 ประเด็น ได้แก่ รายการดังกล่าวออกอากาศขัดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 37 หรือไม่ ซึ่งขั้นตอนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกำกับเนื้อหาและผังรายการ ซึ่งพลโทพีระพงษ์ มานะกิจเป็นประธาน
 
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่จัดให้มีการชี้แจงทั้ง 3 ฝ่ายในครั้งนี้ เพราะต้องการหาทางออกในด้านจริยธรรม จรรยาบรรณสื่อ และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อผลักดันให้มีการกำกับดูแลกันเองของวิชาชีพสื่อ จากการพูดคุยเห็นได้ชัดว่าในตอนแรกทางเวิร์คพ้อยท์ และช่อง 3 ยังไม่รู้ว่ากรณีนี้จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสื่อโทรทัศน์ยังขาดความรู้ความเข้าใจน้อยมากในเรื่องจรรยาบรรณ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ในระยะยาวจะต้องมีกระบวนการศึกษาและสร้างความเข้าใจเรื่องนี้
 
‘สุภิญญา’ เผยรอฟังผลสภาวิชาชีพฯ สอบจริยธรรม-จี้ต้องเยียวยาทางสังคม
 
น.ส.สุภิญญา กล่าวด้วยว่า ผลที่ได้จากการประชุมได้ส่งเรื่องร้องเรียนนี้ไปยังสภาวิชาชีพกิจการแพร่ภาพและการกระจายเสียงฯ เพื่อไปกลั่นกรองพิจารณาว่ารายการฯ ขัดต่อหลักจริยธรรม หรือจรรยาบรรณตามข้อบังคับขององค์กรวิชาชีพหรือไม่อย่างไร ตามมาตรา 39 และ 40 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการฯ กสทช.ต้องส่งเสริมองค์กรวิชาชีพวินิจฉัยข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น โดยจะรอฟังผลประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
 
ประธานคณะอนุกรรมการฯ ระบุว่า ไม่ว่าสุดท้ายแล้วลึกๆ ผู้ประกอบการสื่อจะรู้สึกว่าการกระทำครั้งนี้จะเกิดความผิดพลาดหรือไม่ แต่ได้เกิดผลกระทบแล้ว 3 ระดับ คือ 1.ผลกระทบต่อผู้เข้าประกวดและครอบครัว  2.ผลกระทบต่อผู้ปกครองที่มีลูกหลานญาติเป็นผู้ที่มีความต้องการพิเศษ หรือเป็นกลุ่มคนที่มีความแตกต่างในสังคม ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีอยู่กว่า 2 ล้านคนในประเทศไทยจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สื่อจะต้องทำความเข้าใจและนำเสนออย่างสร้างสรรค์ และ 3.ยังมีผลกระทบความรู้สึกต่อคนดูที่เป็นประชาชนทั่วไปที่มองว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแรง กระทบความรู้สึกสูงต่อการสร้างทัศนคติเชิงลบในสังคม
 
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า คณะอนุฯ ได้ให้การบ้านแก่ผู้ประกอบการสื่อไปว่า การขอโทษหรือแสดงความรู้สึกเสียใจอาจจะยังไม่พอ แต่จะต้องมีมาตรการเยียวยาทางสังคมด้วย เพื่อจะสร้างบรรทัดฐานต่อไปในการกำกับดูแลของ กสทช. เพราะหากเกิดวิกฤติศรัทธาต่อการกำกับดูแลกันเองของสื่อเกิดขึ้นและสังคมไม่เชื่อมั่น สังคมจะเรียกร้องรัฐให้เข้ามาใช้กฎหมายแรงและมากขึ้น หากสภาวิชาชีพฯ ช่อง 3 และเวิร์คพ้อยท์ แสดงให้เห็นว่าสามารถร่วมหาแนวทางการกำกับดูแลกันเองได้จะเรียกความเชื่อมั่นต่อสังคมได้ว่าสื่อสามารถกำกับดูแลคนเองได้ระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้นสังคมจะเรียกร้องรัฐให้ใช้อำนาจควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคมในระยะยาวเลย
 
‘ปัญญา’ ขอโทษออนแอร์เอมเมอรัล แจงรู้ไม่เท่าทัน
 
ด้าน นายปัญญา ผู้บริหารเวิร์กพอยต์ฯ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางบริษัทรู้ไม่เท่าทัน การออกอากาศทำไปโดยไม่รู้จริงๆ และไม่มีเจตนาดูหมิ่นศักดิ์ศรีใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งระบุว่า ผู้ที่รู้ควรออกมาให้ความรู้ก่อนออกอากาศ เพราะหากเป็นกรณีแบบนี้ ทางรายการจะให้โอกาสอย่างเต็มที่  ตนเพิ่งได้รับรู้ข้อมูลจาก นางสาวพิรงรอง รามสูต ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าเด็กอาการลักษณะนี้เป็นอย่างไร นอกจากนี้ ยังรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษ รวมทั้งจะระมัดระวังและทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป และไม่อยากให้เอาไปโยงกับเรื่องการเรียกเรตติ้ง เพราะรายการมีวิธีและการนำเสนอที่ดีอยู่แล้ว
 
“รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษ จะระมัดระวัง และจะทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป เราดูและชื่นชมในตัวเขาด้วย แต่รายการไม่ทราบ ทำไมแม่ไม่บอกก่อน เพราะถ้าเป็นเคสปกติก็สามารถนำมาออกอากาศได้เลย” นายปัญญา กล่าว
 
ส่วนนายสมรักษ์ กล่าวว่า หลังจากหารือในวันนี้แล้ว ยอมรับว่าต้องใช้วิจารณญาณของช่องในการพิจารณา ทั้งนี้ หลังจากเกิดกรณีนี้ กลับมาดูพบว่าเด็กเป็นวัยรุ่นและสมัยนี้เด็กเป็นตัวของตัวเอง จึงไม่ทันรู้ว่าเป็นอาการแบบนี้ และไม่ใช่แพทย์ จึงไม่ได้สังเกตตรงนั้น ส่วนกระบวนการในการออกอากาศรายการในครั้งต่อไปจะตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้น

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท