ไต่สวนการตาย 2 ศพใต้ทางด่วนพระราม 4 - DSI แจงฟ้อง ‘อภิสิทธิ์-สุเทพ’ เพิ่ม

รองอธิบดีดีเอสไอ เผยแจ้งข้อหาเพิ่ม “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าและฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ไต่สวนการตาย 2 ศพใต้ทางด่วนพระราม 4 เหยื่อกระสุน 16 พ.ค.53  จนท.ตรวจกระสุนระบุกระสุนของกลางตำหนิไม่ตรงกับปืนที่ส่งตรวจ แพทย์ชันสูตรพลิกศพชี้ 2 ศพบาดแผลกระสุน 0.5 ซม.

 27 พ.ค.56 ข่าวสดออนไลน์  รายงาน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 99 ศพ ในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดสำนวนคดีที่ส่งมาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นคดีที่ศาลได้มีคำสั่งออกมาแล้วว่าเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ประกอบด้วย คดีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ นายชาญณรงค์ พลศรีลา นายชาติชาย ซาเหลา ทั้งนี้สำหรับคดี นายพัน และด.ช.คุณากรฯ และนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้นั้นเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และผอ.ศอฉ. เพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลในคดีของนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนราชปรารภ และข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลในคดีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา  ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมหลักฐานพอสมควร หลังจากหลักฐานมีความชัดเจนก็จะเสนอต่อไปยัง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาประชุมคณะพนักงานสอบสวน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการทันที เพื่อพิจารณาส่งสำนวนต่อไปยังอัยการและศาลตามลำดับ

ภาพขณะที่นายเกียรติคุณ ถูกยิง ดูภาพเคลื่อนไหวได้ที่วิดีโอคลิปของ afpbbnews

ซึ่งในวิดีโอคลิปจะเห็นร่างนายประจวบที่ถูกหามขึ้นรถกู้ชีพด้วย

ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรศพ คดีที่พนักงานอัยการ สำนักอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญาใต้ ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของนายเกียรติคุณ ฉัตร์วีระสกุล อายุ 25 ปี อาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ตายที่ 1  และนายประจวบ ประจวบสุข ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จ การแห่งชาติ (นปช.) ผู้ตายที่ 2 ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณใต้ทางด่วน  ถ.พระราม 4 เมื่อวันที่ 16 พ.ค.53 ช่วงกระชับพื้นที่การชุมนุมของ นปช. โดย ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

โดยพนักงานอัยการนำพยานเข้าเบิกความ 3 ปาก ประกอบด้วย ร.ต.อ.หญิงสุพัตรา ถนอมวงศ์  นักวิทยาศาสตร์ สบ.2 กลุ่มงานตรวจอาวุธและเครื่องกระสุนปืน กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นพ.สุนทร ศรมยุรา แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช  และ นพ.นนทวิช สัจจาธรรม โรงพยาบาลภูมิพล

ซึ่งจากบันทึกการไต่สวนการตายโดย ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) สรุปได้ว่า ร.ต.อ.หญิงสุพัตรา ถนอมวงศ์ เบิกความว่า 19 เม.ย.54 กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้ส่งอาวุธปืนเล็กกล M16 ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 5 กระบอก มาให้ตรวจพิสูจน์ว่าลูกกระสุนปืนของกลางถูกยิงมาจากอาวุธปืนทั้งหมดนี้หรือไม่ จากการตรวจไม่พบว่าลูกกระสุนปืนของกลางถูกยิงมาจากอาวุธปืนของกลางทั้ง 5 กระบอก เนื่องจากในลำกล้องของอาวุธปืนแต่ละกระบอกจะมีรอยลายเส้นและตำหนิพิเศษที่ร่องเกลียวและสันเกลียว หากลูกกระสุนปืนถูกยิงมาจากอาวุธปืนของกลางทั้ง 5 กระบอก จะต้องมีรอยลายเส้นและตำหนิพิเศษตรงกัน

โดยกระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) เป็นลูกกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีไว้ครอบครองได้ ซึ่งสามารถใช้ได้กับอาวุธปืนยาว 3 ประเภท ได้แก่ ปืนเล็กกล M16 HK 33 และปืนทาวอร์ ซึ่งมีระยะหวังผลตั้งแต่ 400-600 เมตร แต่สามารถยิงในระยะไกลสุดได้ไม่เกิน 2 กม. โดยอาวุธปืนทั้ง 3 ชนิดนี้สามารถถอดเปลี่ยนลำกล้องและชุดเครื่องลั่นไกได้ แต่หากมีการเปลี่ยนจะไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้

จากนั้นอัยการถามพยานว่า สำหรับกระสุนปืนขนาด .22 สามารถใช้กับอาวุธใดได้บ้าง พยานเบิกความว่า กระสุนปืนขนาด .22 แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ กระสุนปืนที่นายทะเบียนอนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีไว้ครอบครองได้ คือ กระสุนปืนลูกกรดขนาด .22 ที่ใช้ได้กับปืนสั้นออโตเมติก ปืนไรเฟิล ปืนแมกนั่ม เป็นต้น ส่วนขนาด .223 เป็นประเภทที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีไว้ครอบครองได้ เนื่องจากใช้กับอาวุธปืนสงคราม

รศ.นพ.สุนทร ศรมยุรา เบิกความว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.53 สน.วัดพระยาไกรส่งศพนายเกียรติคุณ ฉัตร์วีระสกุล มาให้ตรวจพิสูจน์ จากการตรวจสภาพศพพบบาดแผลกระสุนปืนทางเข้าที่ใต้สะบักซ้ายด้านหลัง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซม. แต่ไม่มีบาดแผลทางออก คาดว่าเกิดจากกระสุนปืนขนาด .22 หรือ .223 เนื่องจากมีขนาดใกล้เคียงกัน โดยรอบบาดแผลไม่พบคราบเขม่าดินปืน สันนิษฐานว่าถูกยิงจากระยะไกล ประกอบกับถูกยิงผ่านเสื้อที่สวมใส่ ซึ่งในทางการแพทย์หากระยะเกิน 1 ม.  ถือว่าเป็นระยะไกล

จากการตรวจศพภายในพบว่ากระสุนผ่านช่องปอดซ้าย ผ่านหัวใจ และผ่านเส้นเลือดแดงที่ออกจากหัวใจ แต่ไม่พบหัวกระสุน เนื่องจากผู้ตายถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ก่อน โดยพบว่าในขั้นตอนการบำบัดรักษามีการดูดเลือดออกจากปอดทั้งสองข้าง เขาสันนิษฐานว่าหัวกระสุนอาจถูกดูดออกไปด้วย 

รศ.นพ.สุนทรว่า เบิกความอีกว่าถ้าเป็นกระสุนขนาด .22 บาดแผลจะไม่รุนแรงมาก ส่วนขนาด .223 จะมีการทำลายล้างมากกว่า หากยิงในระยะใกล้กระสุนปืนจะทะลุ แต่ถ้าระยะไกลเกินกว่า 100 เมตร ขึ้นไป อานุภาพการทำลายล้างจะอ่อนแรง บาดแผลจึงไม่รุนแรงมาก แต่กระสุนปืนที่อ่อนแรงจะมีการเหวี่ยงซึ่งจะทำให้บาดแผลมีขนาดใหญ่กว่าบาดแผลที่ตรวจพบ

นพ.นนทวิช สัจจาธรรม  เบิกความว่า  เขาเป็นผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพนายเกียรติคุณ ฉัตร์วีระสกุลและนายประจวบ ประจวบสุข  โดยเข้าร่วมการตรวจศพในวันที่ 16 พ.ค.53 โดยไปถึงโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เวลา 16.30 น. แต่ได้เริ่มการตรวจศพจริงตอนเวลา 19.00 น. ในการตรวจมีพนักงานสอบสวน ฝ่ายปกครอง และอัยการร่วมชันสูตรด้วย

สภาพศพนายเกียรติคุณ ฉัตร์วีระสกุล เป็นชายรูปร่างผอม ผมยาว ผิวดำแดง มีหนวดเครา สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล ศพยังไม่แข็งตัว บาดแผลใกล้กลางลำตัว การตกของเลือดลงสู่เบื้องต่ำ เปลือกตาซีด เล็บมือเท้าซีด ใส่ท่อช่วยหายใจมุมปากบริเวณ หน้าอกมีบาดแผลใกล้กลางตัวซ้ายตรงตำแหน่งราวนมคล้ายรอยกระสุนปืนขนาด 0.5 ซม.  ท่อระบายลมและเลือดฝั่งขวา มีเลือดคาปลายสาย  ปอดฝั่งซ้ายเจาะเลือดออกได้ 800 cc หน้าอกกดยุบ มีร่องรอยการช่วยชีวิต  เบื้องต้นพบรอยแผลถลอกบริเวณหน้าผาก ฝั่งซ้าย บริเวณแขนและขาไม่พบบาดแผล  ระบุเหตุที่ตายไม่ได้จึงส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช

สภาพศพของนายประจวบ ประจวบสุข  ชายไทย วัยฉกรรจ์  ศพไม่แข็งตัว ศพไม่แข็งตัว  เล็บมือเท้าซีด ที่หน้าอกมีบาดแผลฉีกขาดขอบไม่เรียบ มองเห็นหัวใจและปอด  บริเวณหน้าอกด้านซ้าย  เหนือตำแหน่งบาดแผลใต้ไหปลาร้าข้างซ้ายมี สันนิษฐานเป็นรอยกระสุนปืนขนาดประมาณ 0.5 ซม. เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปเหตุการณ์ตายได้จึงส่งต่อให้โรงพยาบาลศิริราช

ศาลนัดไต่สวนต่อวันที่ 10 มิ.ย.นี้

 

แผนที่จุดเกิดเหตุใต้ทางด่วนพระราม 4 :

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท