Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านรอบสนามบินสุวรรณภูมิสุดทน ฟังเสียงดังจากเครื่องบินขึ้นลงสนามบินสุวรรณภูมิไม่ไหว รวมพลยื่นฟ้องระงับการบินในเวลากลางคืนเป็นรอบที่ 5 พร้อมค้านการขยายสนามบินเฟส 2

 
 
11 เม.ย.56 - นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย.56 เวลา 10.00 น.ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเสียงดังรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ได้เดินทางไปยื่นฟ้อง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต่อศาลปกครองกลางเป็นรอบที่ 5 เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
 
หลังจากที่ชาวบ้านต้องทนทุกข์จากมลพิษทางเสียงมากว่า 6 ปี นับแต่เปิดใช้สนามบินเมื่อวันที่ 28 ก.ย.49 โดยไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างจริงใจจาก ทอท. และรัฐบาล แต่กลับปล่อยให้มีสายการบินต่างๆ ทั่วโลกเข้ามาใช้สนามบินอย่างไม่หยุดยั้งจนเกินขีดความสามารถของสนามบินจะรองรับได้ และสร้างปัญหามลพิษทางเสียงและทางอากาศเพิ่มขึ้นทวีคูณ
 
นายศรีสุวรรณให้ข้อมูลด้วยว่า ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 มี.ค.48 ระบุไว้ชัดเจนว่า ทอท.จะต้องเจรจาจ่ายค่าชดเชยและรับซื้อที่ดินบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสนามบินให้แล้วเสร็จก่อนที่สนามบินจะเปิด 6 เดือน แต่ ณ วันนี้เวลาผ่านไปกว่า 6 ปีแล้ว ทอท. ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการจงใจละเมิดกฎหมายและเงื่อนไขของกฎหมายมาโดยตลอด
 
นอกจากนั้น อีไอเอดังกล่าวยังระบุไว้ชัดเจนว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะใช้รองรับจำนวนผู้โดยสารได้ไม่เกิน 45 ล้านคนต่อปีเท่านั้น แต่ ทอท.กลับปล่อยให้มีเที่ยวบินและผู้โดยสารมากถึง 52 ล้านคนต่อปีมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน อันเป็นการผิดกฎหมาย เพราะผิดเงื่อนไข ตามที่อีไอเอกำหนด แต่ ทอท. กระทรวงคมนาคม และรัฐบาลกลับนิ่งเฉย ไม่สนใจเลยว่าชาวบ้านโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิจะเดือดร้อนและเสียหายจากการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินที่เข้ามาใช้สนามบินทั้งกลางวัน-กลางคืนจนทนฟังเสียงและได้รับมลพิษจากละอองไอเสียแทบจะทนอยู่ไม่ได้แล้ว
 
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวชาวบ้านได้เรียกร้องให้ ทอท. กระทรวงคมนาคม และรัฐบาลเร่งรีบเจรจารับซื้อที่ดินและจ่ายค่าชดเชย เพื่อโยกย้ายชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบออกไปจากพื้นที่โดยรอบสนามบินดังกล่าวมาโดยตลอด แม้กระทั่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาหาข้อสรุป แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะ ทอท.ไม่ยอมปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการไตรภาคี อาจเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อราคาหุ้นของ ทอท.ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นได้ จึงไม่เร่งรีบที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมาย หรือตามมติของคณะกรรมการไตรภาคี
 
เมื่อเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านจำนวนมากจึงหาทางออกโดยการมาพึ่งศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ ทอท.ปฏิบัติตามเงื่อนไขในรายงานอีไอเอให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งห้าม ทอท.หรือกระทรวงคมนาคมหรือรัฐบาลขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยเด็ดขาด
 
อนึ่ง ชาวบ้านโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิได้เคยมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้วรวม 5 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 จำนวน 1,075 คน ครั้งที่ 2 จำนวน 379 คน ครั้งที่ 3 จำนวน 406 คน ครั้งที่ 4 จำนวน 204 คน ครั้งที่ 5 จำนวน 239 คน รวมแล้วกว่า 2,303 คน ซึ่งคดีทั้งหมดยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองกลาง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net