Skip to main content
sharethis

เมื่อพูดถึงคาวบอย เราอาจจะคุ้นภาพมือปืนควบม้าที่เป็นคนผิวขาวมากกว่าคาวบอยที่เป็นคนผิวดำ แต่ในความเป็นจริงแล้วคาวบอยผิวดำไม่ได้แค่ในภาพยนตร์ 'จังโก้ ยอดคนแดนเถื่อน' เท่านั้น ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ คาวบอยคนผิวดำก็มีบทบาทสำคัญ ทั้งในบทผู้พิทักษ์กฏหมายและคนงานที่ทำงานหนักกว่าคาวบอยผิวขาว

ภาพจากhttp://www.flickr.com/photos/wolfgangkuhnle/8438866481/

เรื่อง 'จังโก้ ยอดคนแดนเถื่อน' หรือ Django Unchained ภาพยนตร์แนวคาวบอยตะวันตกผลงานกำกับของเควนติน ทารันติโน เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องของภาพยนตร์ฮอลลิวูดที่มีคนผิวดำรับบทคาวบอย ซึ่งแม้ว่าส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นคนผิวขาวรับบทคาวบอยมากกว่า แต่ในรายงานล่าสุดของสำนักข่าว BBC ก็เปิดเผยว่า ในความเป็นจริงแล้วมีคาวบอยหลายคนที่เป็นคนผิวดำ และมีบางคนที่เอาถูกนำเรื่องราวมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โดยให้คนผิวขาวแสดงอีกด้วย

เมื่อพูดถึงคาวบอย หลายคนคงนึกถึงภาพของคนพกปืน สวมบูธ และเป็นชายผิวขาวอย่าง จอห์น เวย์น หรือคลิน อีสท์วู้ด แต่จริงๆ แล้วดินแดนดาวบอยในภาพยนตร์ฮอลลิวูดเป็นสิ่งที่ถูกดัดแปลงให้ต่างจากความเป็นจริงในแบบฉบับของคนผิวขาว แต่มีความเป็นไปได้ว่ามีคาวบอยที่เป็นคนผิวดำอยู่มากถึงหนึ่งในสี่

จิม ออสติน นักธุรกิจวัย 45 ปี ก็เหมือนหลายๆ คนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องของคนผิวดำในแดนคาวบอยมาก่อน แต่หลังจากเขาค้นพบเรื่องนี้ ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขากับภรรยา กลอเรีย ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกพหุวัฒนธรรมตะวันตก (National Multicultural Western Heritage Museum) ขึ้นที่ ฟอร์ดเวิร์ธ รัฐเท็กซัส โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวมีการแสดงความเคารพต่อคาวบอยอย่างบิลล์ พิกเกทท์ แชมป์เปี้ยนนักแสดงขี่ม้าต้อนปศุสัตว์ผู้ที่คิดค้นเทคนิคที่เรียกว่า 'บูลด็อกกิ้ง' คือเทคนิคที่ผู้ขี่ม้าต้อนปศุสัตว์จะกระโดดลงจากม้าเพื่อควบคุมให้สัตว์ที่ต้อนล้มลงกับพื้น

"เด็กๆ ที่เรียนประวัติศาสตร์จากในโรงเรียนไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่แท้จริงเกี่ยวกับแดนตะวันตก" จิม ออสติน กล่าว "พนันเลยว่า 9 ใน 10 ของคนในประเทศ (สหรัฐฯ) คิดว่าคาวบอยเป็นคนขาวทั้งหมด เช่นเดียวกับที่ผมเคยคิด"

 

เบส รีฟฟ์ คาวบอยผิวดำผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเรื่อง 'หน้ากากพิฆาตอธรรม'  (The Lone Ranger) ภาพจาก Wikipedia

ไมค์ เซียเลส ศาตราจารย์เกษียณอายุด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกุสต้าสเตท เปิดเผยว่าคาวบอยที่เป็นคนผิวดำมักจะได้งานเป็นคนฝึกม้าที่ไม่ได้ถูกนำมาขี่บ่อยนัก นอกจากนี้แล้วยังเป็นคนทำอาหารให้รถเสบียงเกวียน (chuck wagon) และมีความสามารถด้านดนตรี เป็นคนคอยทำให้ปศุสัตว์อยู่ในความสงบ

นักศึกษาของ ไมค์ เซียเลส มักจะเรียกเขาว่าคาวบอยไมค์ เพราะเขาชอบแต่งตัวสวมหมวกแบบคาวบอยมาสอนหนังสือ ไมค์เคยทำการวิจัยเรื่องคาวบอยโดยได้สัมภาษณ์อดีตทาสในยุค 1930s ที่ได้กล่าวว่า คาวบอยที่เป็นคนผิวดำได้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่า 'ความเท่าเทียมในทุ่งปศุสัตว์'

"ในฐานะที่คุณเป็นคาวบอย คุณจะมีอิสระในระดับหนึ่ง" ไมค์กล่าว "บางครั้งก็ไม่ค่อยมีหัวหน้างานคอยควบคุม เพราะพวกเขาต้องคอยอยู่บนหลังม้าและบางครั้งก็หายไปหลายวัน"

แต่อย่างไรก็ตามชีวิตความเป็นอยู่ของคาวบอยคนผิวดำก็ลำบากกว่าคนผิวขาว

วินเซนต์ จาคอบ อายุ 80 ปี อดีตโคบาลนักแสดงขี่ม้าจับปศุสัตว์แถวฮุสตัน รัฐเท็กซัส เล่าว่าก่อนหน้านี้เขาก็ประสบกับเรื่องการเหยียดผิวมาก่อน โดยมีการแบ่งแยกนักแสดงขี่ม้าเป็นคนผิวขาวกับผิวดำ และจะยอมให้คนผิวดำออกแสดงก็ต่อเมื่อให้คนผิวขาวออกไปในสนามทั้งหมดแล้วเท่านั้น

ทางด้าน คลีฟแลนด์ วอลเตอร์ส คาวบอยผิวดำอายุ 88 ปี ที่เมืองลิเบอร์ตี้ รัฐเท็กซัส บอกว่าการเป็นคาวบอยผิวดำถือเป็นงานหนัก

"ผมไม่ชอบเลยเวลานึกถึงการเหยียดผิวที่ผมได้พบเจอมา พอถึงเวลาต้องตีตราปศุสัตว์ พวกเขาจะต้องเอาวัว 20 ตัวเข้าคอก แล้วผมต้องเป็นคนไปจับพวกมัน ยื้อพวกมันไว้ คนตีตราเป็นคนผิวขาว พูดอีกอย่างหนึ่งคือ คนผิวดำจะเป็นคนทำงานหนักๆ สกปรกๆ ทั้งหมด" คลิฟแลนด์กล่าว

ทั้งคลีฟแลนด์และวินเซนต์เติบโตมาในยุค 1940s พวกเขาดูภาพยนตร์แนวเวสเทิร์นมาหลายเรื่องแต่ก็ไม่เคยเห็นนักแสดงหลักที่เป็นคนผิวดำ

BBC เปิดเผยอีกว่าภาพยนตร์บางเรื่องยังได้นำเรื่องจริงของคาวบอยผิวดำไปเป็นวัตถุดิบสร้างภาพยนตร์ที่มีคนแสดงเป็นคาวบอยผิวขาว เช่นเรื่อง 'หน้ากากพิฆาตอธรรม' (The Lone Ranger) เรื่องราวของพระเอกสวมหน้ากากมีผู้ช่วยเป็นชาวพื้นเมืองอเมริกัน ซึ่งน่าจะอ้างอิงมาจากเรื่องจริงของ เบส รีฟฟ์ ผู้พิทักษ์กฏหมายผิวดำ

ในภาพยนตร์ปี 1956 เรื่อง The Searchers ซึ่งสร้างจากนิยายของ อลัน เลอ เมย์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ บริท จอห์นสัน คาวบอยผิวดำที่ลูกเมียของเขาถูกจับโดยกลุ่มคอมานเช่ในปี 1865 ในภาพยนตร์พระเอกจอห์น เวย์น รับบทเป็นทหารผ่านศึกสงครามกลางเมืองผู้ที่ออกตามหาหลานสาวที่ถูกคอมานเช่จับตัวไป

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีตัวละครผิวดำปรากฏตัวมากขึ้นในภาพยนตร์คาวบอยเช่นเรื่อง Posse ปี 1993, ไถ่บาปด้วยบุญปืน (Unforgiven) ปี 1992 และ จังโก้ ยอดคนแดนเถื่อน ปี 2012

ดูเหมือนว่าฮอลลิวูดจะเริ่มให้ความสำคัญกับคาวบอยผิวดำมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสมาชิกสมาคมขี่ม้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทั้ง 200 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคาวบอยและคาวเกิร์ลในยุคสมัยใหม่ ก็ได้ให้การยกย่องวีรกรรมของคาวบอยผิวดำด้วยการจัดการเดินทางขี่ม้า 100 ไมล์ ในแบบลากเกวียนตะวันตกเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งมักจะมีการย้อนรอยไปตามเส้นทางที่อดีตทาสผิวดำเคยฝากรอยไว้

"ถ้าอะไรบางอย่างไม่ได้อยู่ในจินตนาการของคนทั่วไป มันก็จะไม่มีอยู่จริง" ไมค์ เซียเลสกล่าว

มีคำถามว่าเหตุใดฮอลลิวูดถึงเลือกนำเสนอเรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติในแดนตะวันตกบิดเบือนไปจากความเป็นจริง

ไมค์ตอบว่า แดนตะวันตกมักจะถูกมองว่าเป็นจุดกำเนิดของอเมริกา ซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากฝั่งยุโรป

"แดนตะวันตกเป็นถิ่นที่คนผิวขาวสามารถแสดงความกล้าหาญออกมาได้ แต่ถ้าหากคนผิวดำสามารถเป็นวีรบุรุษและมีคุณสมบัติที่คุณมองว่าเป็นคุณสมบัติของมนุษย์ที่ยอดเยี่ยมได้ แล้วคุณจะสามารถทำให้คนดำเป็นเหมือนทาสหรือคนที่ไม่ใช่มนุษย์ได้อย่างไร" ไมค์กล่าว


เรียบเรียงจาก

America's forgotten black cowboys, BBC, 22-03-2013
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net