Submitted on Sat, 2013-03-16 07:31
14 มีนาคม 2556 เอียง สารี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชาประชาธิปไตย(ชื่อทางการของกัมพูชาภายใต้การปกครองของเขมรแดง) ซึ่งปัจจุบันตกเป็นจำเลยในคดีอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติและอยู่ระหว่างการไต่สวนโดยศาลพิเศษเขมร(The Extra Ordinary Chambers in the Courts of Cambodia)ได้เสียชีวิตด้วยวัย87ปี ความตายของซารีก่อให้เกิดความกังวลในหมู่เหยื่อของเขมรแดงรวมทั้งญาติของพวกเขาว่าสุดท้ายและความยุติธรรมที่พวกเขารอมานานอาจจะโบยบินไปต่อหน้าต่อตา
ระยะเวลาที่เขมรแดงปกครองกัมพูชานับว่าสั้นมากเพราะกินเวลาเพียงสี่ปี แต่ระยะเวลาเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดโศกนาฎกรรมซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปนับล้านคน หลังเขมรแดงพ้นจากอำนาจก็ไม่ได้มีความพยายามที่จะสถาปนาคืนความยุติธรรมแก่เหยื่อแต่อย่างใดทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ในปี1979อันเป็นปีที่เขมรแดงหมดอำนาจ ไฟแห่งสงครามเย็นที่ลดความรุนแรงลงตลอดทศวรรษ1970กลับมาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
เขมรแดงแม้จะหมดอำนาจแต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนบ้านอย่างรัฐไทยรวมทั้งมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาให้เป็นผู้ต่อสู้ป้องกันการขยายอิทธิพลของเวียดนามและสหภาพโซเวียตซึ่งหนุนหลังรัฐบาลใหม่ กัมพูชาจึงตกอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมืองอีกครา
หลังเขมรแดงสิ้นอำนาจรัฐบาลใหม่ได้จัดตั้งศาลพิเศษมาเพื่อดำเนินคดีกับพอลพตและเอียงสารี ผู้นำคนสำคัญของเขมรแดง ศาลที่ตั้งขึ้นมาถูกมองว่าเป็นแค่ปาหี่เพราะไม่ได้มีการนำตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการอย่างเป็นธรรมแต่อย่างใด ศาลเพียงแต่พิจารณาคดีลับหลังและพิพากษาประหารชีวิตทว่าจำเลยทั้งสองซึ่งหลบหนีไปไปเมื่อพนมเปญแตกก็ไม่ได้ถูกนำตัวมาลงโทษตามคำพิพากษาแต่อย่างใดส่วนเหยื่ออธรรมชาวกัมพูชาก็ต้องรอคอยความยุติธรรมกันต่อไป
หลังการเจรจาอันยาวนานในที่สุดรัฐบาลกัมพูชาสามารถบรรลุข้อตกลงในการตั้งศาลพิเศษเขมรเมื่อปี2003แต่กว่าศาลจะทำงานเต็มตัวก็ล่วงมาถึงปี2006 ศาลพิเศษเขมรแดงมีกำหนดจะพิจารณาคดีทั้งสิ้น4คดี คดี001ศาลพิจารณาและพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตสหายดุช อดีตผู้บัญชาการคุกตวลเสล็งอันลือลั่นไปแล้วเมื่อปี2012
คดี002ที่นายเอียง สารีตกเป็นจำเลยกำลังอยู่ในช่วงการสืบพยาน โดยคดีนี้เริ่มเข้าสู่กระบวนการในปี2011 นอกจากนายเอียงสารีแล้วยังมีผู้ตกเป็นจำเลยอีกสองคนได้แก่นายนวลเจียอดีตผู้นำหมายเลขสองและนายเขียว สัมพันธ์ อดีตประมุขของรัฐสมัยเขมรแดง(นางเอียง ทิริธ ภริยาของนายเอียงสารีก็ตกเป็นจำเลยในคดีนี้แต่เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ศาลจึงได้มีคำสั่งในปี2012ให้เธอพ้นไปจากการพิจารณาคดี) การตายของนายเอียงสารีได้ทำให้ประเด็นเกี่ยวกับความยุติธรรมถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยอีกครั้ง
ผู้นำที่เหลืออีกสองคนได้แก่นายนวล เจียและนายเขียวสัมพันธ์ต่างก็มีอายุมากและมีโรคภัยแทรกซ้อน หากการพิจารณาคดียังคงดำเนินไปอย่างล่าช้าก็มีความเป็นไปได้สูงว่าบุคคลทั้งสองอาจเสียชีวิตไปก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาว่าทั้งสองมีความผิดจริงหรือไม่ ซึ่งหากเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นก็น่าเป็นห่วงว่าความหวังของเหยื่ออธรรมที่จะได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาจะต้องมลายหายไป
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยว่าครั้งหนึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นเคยกล่าวไว้ว่าเพื่อประโยชน์แห่งการปรองดองคดี002ควรจะเป็นคดีสุดท้ายของศาลพิเศษเขมรแดง หากจำเลยอีกสองคนที่เหลือมาเสียชีวิตลงระหว่างกระบวนการพิจารณา คดี001จะเป็นคดีเดียวที่มีการตัดสิน เท่าการรอคอยความยุติธรรมของเหยื่ออธรรมกลายเป็นการรอคอยที่ศูนย์เปล่า
อู วิรัค ประธานศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา(Cambodian Center for Human Right)กล่าวในแถลงการณ์ขององค์กรว่า การตายของนายสารีน่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้ศาลและประชาคมโลกโดยเฉพาะชาติบริจาคเงินจำนวนมหาศาลเป็นค่าดำเนินการของศาลเร่งรัดการทำงานของศาลให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้ศาลสามารถพิพากษาและสถาปนาคืนความยุติธรรมแก่เหยื่อได้ทันเวลา
การตายของนายสารีจึงเป็นเสมือนสัญญาณเตือนว่ากระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่านของกัมพูชากำลังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงต่อความล้มเหลว ก่อนหน้านี้การประกาศของนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นก็แทบจะปิดทางการทำงานของศาลหลังพิจารณา002แล้วเสร็จ หากจำเลยในคดี002ทั้ง3คนต้องมาด่วนจากไปด้วยเหตุผลทางสุขภาพ ความยุติธรรมที่เห็นแต่เพียงรางๆดังแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ดูจะดับวูบไปทันที หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงกระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่านที่พิกลพิการนี้ก็อาจจะกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่ทำให้ความขัดแย้งในสังคมกัมพูชาขยายเป็นวงกว้างและรอวันปะทุ