คดีเหยื่อนายจ้างทารุณ เส้นแบ่งระหว่าง 'ตีแผ่' กับ 'ซ้ำเติม'

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ข่าวเด็กหญิงกะเหรี่ยงวัย 12 ปี ถูกทารุณและเลี้ยงดูเยี่ยงทาสจากนายจ้างสองสามีภรรยานานถึง 5 ปี ได้สร้างความหดหู่ให้แก่ผู้คนทั้งสังคมไทย ภาพพังผืดและแผลเป็นทั่วตัวของเด็กน้อยจากการถูกน้ำร้อนราด ถูกส่งต่อผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับถ้อยคำประณาม สาปแช่งนายจ้าง จนสื่อมวลชนกระแสหลักทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ต่างให้ความสำคัญกับข่าวนี้ ให้เวลาและพื้นที่ข่าว นำเสนอภาพบาดแผลทั่วร่างของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายอย่างละเอียด เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของนายจ้าง

การนำเสนอเหตุการณ์นี้เป็นข่าวใหญ่ระดับชาติ ได้สร้างความตื่นตัวให้แก่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดกำแพงเพชร ออกมาให้ความสำคัญ ร่วมจัดการแก้ปัญหานี้ ตั้งแต่การผ่าตัดรักษาบาดแผลตามร่างกาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมทั้งคำสัญญาจากเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมที่จะดำเนินคดีกับนายจ้างสองสามีภรรยาด้วยข้อหาร้ายแรงจนถึงที่สุด

ทว่า ความพยายามของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ตั้งแต่ ตำรวจ หมอ หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และครอบครัว จ.กำแพงเพชร ในการตีแผ่ความโหดร้ายของนายจ้างผ่านการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน กลับสร้างความหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดสิทธิ ความเป็นส่วนตัว และเกียรติภูมิของเด็กคนนั้น  แม้มีความตั้งใจดีในการปกปิดชื่อ และใบหน้าของเด็กขณะนำตัวเด็กมาแถลงข่าว

การพาเด็กหญิงวัย 12 ปีที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงยาวนานถึง 5 ปี ออกมาถอดเสื้อผ้า จนเหลือแค่กางเกงชั้นใน โชว์บาดแผลให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพหลายต่อหลายครั้ง  แม้ตัวเด็กจะถูกปิดบังใบหน้าด้วยหมวกก็ตาม ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการปฏิบัติต่อเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ และผลกระทบทางจิตใจของเด็ก จนล่าสุดมีข่าวออกมาจากนักจิตวิทยาที่ดูแลเด็กคนนี้ว่า ตัวเด็กเริ่มเบื่อหน่ายกับการต้องเปิดแผลให้ผู้มาเยือนคณะต่างๆ ได้ชม

เขาทำอย่างไรในอารยะประเทศ
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ได้กำหนดหลักการสำคัญเกี่ยวกับการนำเสนอและรายงานข่าวที่เกี่ยวกับเด็กของสื่อมวลชนไว้ว่า เกียรติภูมิและสิทธิของเด็กต้องได้รับการปกป้องในทุกสถานการณ์ เด็กที่ตกเป็นข่าว มีสิทธิในความเป็นส่วนตัว และสิทธิที่จะปฏิเสธการสัมภาษณ์ใดๆ ของผู้สื่อข่าวที่เด็กไม่สมัครใจตอบ หรือ หลีกเลี่ยงคำถามที่อาจเป็นการซ้ำเติมทางจิตใจ

นอกจากนี้ ใน ข้อ 19 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก หรือ Convention on the Rights of the Child (CRC) แห่งสหประชาชาติ ที่ประเทศไทยได้ให้การรับรองทั้ง 42 ข้อ ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 2535 ได้ระบุว่า รัฐควรคุ้มครองเด็กให้มีความปลอดภัยจากความรุนแรง การล่วงละเมิดทุกประเภท และการถูกทอดทิ้ง ส่วน ข้อ 39 ของอนุสัญญาฯ ชี้ว่า เด็กที่ถูกทำร้าย หรือ ถูกทอดทิ้งควรมีสิทธิที่จะได้รับการฟื้นฟูจิตใจเพื่อให้เกิดการเคารพตนเอง และคืนสู่สังคมได้

สิ่งที่ควรจะเป็นในประเทศไทย
สิ่งที่ควรเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้ คือ การยุติการนำเด็กหญิงรายนี้ มาถอดเสื้อผ้าเปิดแผลในที่สาธารณะอีก ให้เด็กได้มีพื้นที่ส่วนตัว ได้รับการบำบัดทั้งทางกายและทางใจจากแพทย์และนักจิตวิทยา หลังจากนั้นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีหมิ่นเหม่นี้อีก รัฐบาลไทยโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องสร้างกลไกการสอบสวน ช่วยเหลือ เยียวยา และคุ้มครองสิทธิแก่เด็กที่ต้องตกเป็นเหยื่อของการทำร้ายและทารุณกรรมทุกรูปแบบ เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไม่ซ้ำเติมเด็กที่ตกเหยื่อ โดยนำออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอีก การถ่ายภาพนิ่ง หรือ ภาพเคลื่อนไหวของผู้เคราะห์ร้ายเพื่อเผยแพร่ข่าวแก่สื่อมวลชน  ควรทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ต้องเป็นสตรีในกรณีเหยื่อเป็นเด็กหญิง) และต้องได้รับความยินยอมจากเด็ก

ในส่วนของสื่อมวลชนนั้น การปิดบังหน้าตา และชื่อของเด็กที่ตกเป็นเหยื่อในการรายงานข่าวนั้น เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเด็ก แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงการดูแลผลกระทบทางจิตใจของเด็กที่ต้องอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่แปลกหน้ามากมาย องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน และองค์กรพัฒนาด้านเด็กในประเทศ และต่างประเทศ เช่น แพลน อินเตอร์เนชันแนล ควรหาร่วมมือกันพัฒนาแนวทางการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวกับเด็กที่เหมาะสมและสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท