Skip to main content
sharethis

 

(14 ก.พ.56)  กลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศหลายสิบคน เดินทางไปยังอาคารบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานจดทะเบียนสมรสหมู่ ภายใต้ชื่องาน “รัก ณ บางรัก เคียงคู่ สู่ฝัน ในวันใหม่"  ที่สำนักงานเขตบางรัก ร่วมกับหลายหน่วยงานจัดขึ้น เพื่อรณรงค์การจดทะเบียนสมรสของคนทุกเพศ และร่วมแสดงความยินดีกับคู่หญิงชายที่ได้จดทะเบียนในวันนี้

อัญชนา สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการมูลนิธิอัญจารี กล่าวว่า อยากมีส่วนในการเข้าร่วมการจดทะเบียนหมู่ของเขตบางรัก เพราะยังมีคู่อีกมากมายที่อาจจะยังไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมายไทย ซึ่งกำหนดไว้แค่ว่าเฉพาะชายกับหญิงเท่านั้นจึงจะสมรสได้ แต่จริงๆ แล้วคู่ในประเทศไทยมีมากมายไม่ว่าจะอัตลักษณ์แบบไหน ไม่ว่าคนที่รักเพศเดียวกัน คนข้ามเพศ คู่เหล่านี้ตอนนี้ยังไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ทำให้ขาดการคุ้มครองจากกฎหมายที่จะกำหนดให้ต่างมีหน้าที่ในการดูแลกันและกัน หรือในเวลามีเหตุวิกฤตในชีวิต อย่างอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยหนัก โชคร้ายกว่านั้นถึงกับมีการตาย เราไม่สามารถไปจัดการคู่ของเราในฐานะคู่สมรสได้ เราจะเป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งทำให้หลายคู่ทุกข์ใจอย่างมาก สอง การได้รับสวัสดิการต่างๆ ในฐานะคู่สมรส ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน สะดวกและมั่นคงมากขึ้น ไม่ว่าประกันสังคม การทำประกันชีวิต การขอกู้เงินร่วม

"คู่สมรสคู่ชายหญิงได้อะไรเราก็อยากได้อย่างนั้นเช่นกัน เราก็ไม่ได้ต่างกันในเนื้อหาของความรัก การเอาใจใส่" อัญชนากล่าว

นพวรรณ พุ่มเงินพวง กลุ่มอัญจารี กล่าวเสริมว่า หวังว่าวันหนึ่ง จะได้สิทธิเท่ากับหญิงชายทั่วไป เราไม่ได้ขอมากกว่า ขอแค่เท่าเทียมกับคนอื่น ทะเบียนสมรสเป็นอันหนึ่งที่พวกเราอยากได้ เพราะทุกคนเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน เวลาที่เราอยู่กับใครสักคนหนึ่ง ถ้าเขาเห็นเราตายหรือเขาตายต่อหน้าเรา เป็นอะไรที่หดหู่  ชายหญิงถึงไม่ได้แต่งงานกัน แต่มีสิทธิในการจัดการศพที่พึงมี เราก็อยากได้เหมือนกัน ไม่ได้ขออะไรที่เกินเลย พ.ร.บ.คู่ชีวิต จะเป็นการแสดงออกว่าเรามีครอบครัว มีคนที่เราอยากดูแล  มีคนที่เขาอยากดูแลเรา และมีผลทางกฎหมายด้วย

นอกจากนี้ ในการรณรงค์ ยังมีรุ่งทิวา ตังคโนภาส และ ภัลลวี จงตั้งสัจธรรม คู่รักเพศเดียวกัน สวมชุดแต่งงานเดินทางมาขอจดทะเบียนด้วย แต่ไม่สามารถจดได้ เนื่องจากตามกฎหมาย บุคคลที่จะจดทะเบียนสมรสต้องเป็นชายกับหญิงเท่านั้น

รุ่งทิวา ตังคโนภาส กล่าวว่า คบกับคนรักมาเก้าปีย่างปีที่สิบ ใช้ชีวิตคู่กันมานานแล้ว หากได้จดทะเบียน จะทำให้สบายใจด้านทรัพย์สินที่ร่วมกันสร้างมา เพราะจะทำประกันชีวิต ก็ไม่สามารถยกทรัพย์สินให้กันได้ เวลาอีกฝ่ายเจ็บป่วยหรือผ่าตัด หมอก็ไม่ยอมให้ตนเองเซ็น ต้องให้ญาติเป็นคนเซ็นเหมือนเขากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง นอกจากนี้ หากได้จดทะเบียนก็อยากจะไปทำกิ๊ฟท์ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net