Skip to main content
sharethis

 

12 .. 56 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ กลุ่มเด็กและเยาวชนแรงงานนอกระบบ นำโดยศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งชาติราว 100 คนประกอบด้วยเด็กและเยาวชน คนขับรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้รับงานไปทำที่บ้าน หาบเร่แผงลอยฯลฯ ที่มีอายุตั้งแต่ 8 - 70 ปี ได้ร่วมกันเดินรณรงค์ตั้งแต่หน้ากระทรวงศึกษาธิการไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หวังให้รัฐบาลเร่งเดินหน้ารับสมัครสมาชิกการออม ตามพ..กองทุนการออมแห่งชาติทันที

ทิพวรรณ อ้ายสุรินทร์ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อายุ 18 ปี กล่าวว่า ได้รอคอยที่จะเข้าสู่ระบบกองทุนการออมแห่งชาติเมื่อได้ยินว่ารัฐได้ประกาศเป็นพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติแล้วเมื่อปี 2554 ด้วยหวังที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงอายุ 60 ปีหรือในวัยสูงอายุ

ทิพวรรณ กล่าวว่า ปัญหาที่พบเห็นในชีวิตประจำวันคือภาพผู้สูงอายุในชุมชนที่ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ทั้งที่ควรได้รับการดูแลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ หากมีการออมเงินตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการบังคับให้มีการออมและรัฐต้องมีการสนับสนุนให้มีการออมเพื่อชีวิตที่ดีของประชาชนทุกคน ในวัยเกษียณอายุการทำงาน ทุกวันนี้แนวการสงเคราะห์จ่ายเบี้ยยังชีพเพียงเดือนละ 500 บาทไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ ทำให้ภาพที่ได้เห็นจากสื่อเกี่ยวกับชีวิตที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายถูกทอดทิ้ง

ทิพวรรณ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ที่มาร่วมเพราะต้องการให้นายกรัฐมนตรีบังคับใช้กฎหมายกองทุนการออมฯ เสียที เพื่อเป็นของขวัญวันเด็ก เพราะจะได้เข้าสู่ระบบการออมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

อุบล ร่มโพธิ์ทอง ตัวแทนศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งชาติกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2548 ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เนื่องจากสัดส่วนประชากรสูงอายุมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด ปัจจุบันประเทศไทยผู้สูงอายุร้อยละ 10.7 ของประชากร หรือประมาณ ล้านคน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและคาดว่าในปี 2558 สัดส่วนประชากรสูงอายุจะเพิ่มเป็นร้อยละ 14 และเป็นร้อยละ 19.8 ในปี 2568 คิดเป็นสัดส่วน ใน ของประชากรทั้งหมด

การเปลี่ยนโครงสร้างประชากรของประเทศ พบว่าอัตราส่วนการเกื้อกูลผู้สูงอายุของประชากรวัยทำงานต่อประชากรสูงอายุ คน ค่อยๆ ลดลง ในปี 2551 เท่ากับ6.07 คน จะลดลงเป็น 2.52 คนในปี 2573 และระบบบำนาญในปัจจุบัน คือ 500 บาทต่อผู้สูงอายุ คนต่อเดือน ซึ่งจะเป็นภาระของประชาชนรุ่นหลังในรูปแบบของภาษีจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การออกพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.. 2554 นับว่าเป็นการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ประชาชนยามชราภาพถ้วนหน้า อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีในการเป็นพลเมืองของประเทศ ในขณะเดียวกันการส่งเสริมการออมของประชาชนเป็นแนวทางหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ปัจจุบัน กระทรวงการคลังในฐานะผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ประชาชนเป็นสมาชิกการออม ทั้งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม 2555รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีการเสนอให้แก้ไขกฎหมายกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ และให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยคาดว่าจะดำเนินการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวได้เสร็จภายในปี 2556

ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มผู้ขับแท็กซี่ กลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้าง ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กลุ่มซาเล้งและคุ้ยขยะ กลุ่มเกษตรกรพันธสัญญา เครือข่ายแรงงานชุมชน กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคี มูลนิธิเพื่อนหญิง กลุ่มเยาวชนพื้นที่สมุทรปราการ และเครือข่ายนักวิชาการด้านบำนาญชราภาพ ซึ่งเห็นความสำคัญและสนับสนุนให้เกิดระบบบำนาญถ้วนหน้าโดยเร็ว โดยมีข้อเสนอต่อรัฐบาลดังนี้

(1) รัฐบาลต้องเร่งเปิดรับสมัครสมาชิกกองทุน ตาม พ...กองทุนการออมแห่งชาติ พ.. 2554 เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยังไม่มีหลักประกันรายได้ใดๆ และเป็นการส่งเสริมการออมของประชาชนในวัยทำงาน

(2) ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งชาติและภาคี ขอเสนอให้หน่วยงาน/กระทรวงที่มีนโยบายเพื่อสร้างหลักประกันด้านรายได้ (บำนาญชราภาพอาทิ กองทุนการออมแห่งชาติ โดยกระทรวงการคลัง การขยายประกันสังคม มาตรา 40 เพื่อขยายสิทธิประโยชน์สำหรับแรงงานนอกระบบ โดยกระทรวงแรงงาน การส่งเสริมสวัสดิการชุมชน โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พิจารณาแนวทางการบูรณาการระบบหลักประกันทางสังคมและรายได้ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากทุกนโยบาย รวมถึงการลดภาระทางการเงินการคลังของประเทศ และให้มีระบบบำนาญระบบเดียวที่มีเสถียรภาพในระยะยาว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ส่ง สุพร อัตถาวงษ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองเป็นผู้แทนมารับหนังสือ

สุพร อัตถาวงษ์ กล่าวว่า หนังสือที่ได้รับวันนี้ต้องถึงมือนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาบังคับใช้กฎหมายกองทุนการออมแห่งชาติฉบับดังกล่าว การมาของเด็กและเยาวชน แรงงานนอกระบบเป็นการหวังดีที่ต้องการให้เกิดระบบที่ดีมารองรับเด็กๆ ที่จะต้องโตในอนาคต วันเด็กปีนี้ขอให้เด็กทุกคนมีความสุข และจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายกองทุนการออมฯ พร้อมกับเปิดรับสมาชิกเข้าสู่ระบบการออมเพื่ออนาคตที่จะเข้าสู่วัยสูงอายุ

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net