2 ธ.ค.55 ที่บริเวณบาทวิถี หน้าศาลอาญา รัชดา กลุ่มปฏิญญาหน้าศาลได้จัดกิจกรรมบาทวิถีเสวนาเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ในประเด็นเรื่องนักโทษการเมืองนั้น ในอาทิตย์นี้นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) ผู้ต้องโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 ได้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมทั้งรณรงค์ล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายสุรชัยและผู้ต้องโทษในคดีเดียวกันที่คดีเด็ดขาดแล้ว โดยยืนยันว่าการกระทำความผิดของคนเหล่านี้เกิดจากความสับสนทางความคิดที่เป็นผลมาจากสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันมีการแบ่งฝ่ายแตกแยกอย่างรุนแรง และผู้กระทำผิดได้รู้สึกสำนึกเสียใจต่อการกระทำแล้ว
โดยนายสุรชัยเป็นผู้ต้องโทษเด็ดขาดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมโทษจำคุก 12 ปี 6 เดือน (5 คดี คดีละ 2 ปี 6 เดือน) และได้รับการลดโทษจาก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษพ.ศ.2555 จึงเหลือโทษจำคุก 10 ปี 9 เดือน
นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์
นางปราณี เปิดเผยถึงการรณรงค์ล่ารายชื่อว่า กิจกรรมนี้เป็นความต้องการของนักโทษคดี ม.112 และคุณสุรชัยด้วย โดยตนได้เริ่มล่ารายชื่อมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตอนนี้ยังได้รายชื่อมาเพียงร้อยกว่าชื่อ เพราะได้ส่งแบบฟอร์มล่ารายชื่อไปหลายที่แล้ว แต่ยังไม่ได้กลับคืน โดยตั้งเป้าไว้ประมาณ 500 ชื่อ แล้วจึงส่งไปยังสำนักพระราชวังในครั้งแรกก่อนประมาณต้นปีหน้า จากนั้นจะดำเนินการล่ารายชื่อเพื่อส่งไปเป็นระยะๆ
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมลงชื่อนั้น นางปราณี กล่าวว่าสามารถร่วมลงชื่อได้โดยการถ่ายแบบฟอร์มล่ารายชื่อ(ดูล้อมกรอบด้านล่าง) พร้อมลงชื้อแล้วส่งมาตามที่อยู่ “คุณปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ 57/107 ม.2 ซ.จุฬาเกษม 12 ถ.งามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000” หรือมาเจอกับตนที่กิจกรรมของปฏิญญาหน้าศาลทุกบ่ายวันอาทิตย์
ฎีการ้องทุกข์ดังกล่าว :
เรื่อง ถวายฎีการ้องทุกข์ขอพระราชทานอภัยโทษ แก่ผู้ต้องโทษในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพระพุทธเจ้า นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของ น.ช.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ พร้อมรายชื่อผู้ร่วมร้องทุกข์ท้ายหนังสือฎีการ้องทุกข์ฉบับนี้ กราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทดังต่อไปนี้ การที่ น.ช.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และผู้ต้องโทษในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทุกคนได้กระทำผิดนั้น เกิดจากสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันมีการแบ่งฝ่ายแตกแยกอย่างรุนแรง จึงทำให้ผู้ที่กระทำผิดในคดีนี้มีความสับสนทางความคิดจนกระทำในเรื่องที่มิบังควร ก่อความผิดทางกฎหมายขึ้น เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกสำนึกเสียใจอยู่ในปัจจุบัน อย่างกรณี น.ช.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ได้ยอมรับผิดไม่ขอต่อสู้คดีทุกคดี รวม 5 คดี เพื่อรับการลงโทษอย่างสำนึกผิด เวลานี้คดีถึงที่สุดแล้วจึงทำหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ตามคำแนะนำขอบรัฐบาลที่ต้องการเยียวยาผู้ต้องโทษในคดีความผิดตามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกด้วยแนวทางการขอพระราชทานอภัยโทษพิเศษให้ตามกฎหมาย ข้าพระพุทธเจ้าและผู้ร่วมร้องทุกข์หวังในพระมหากรุณาธิคุณจากใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้มีเมตตาไม่ถือโทษโกรธเคืองพสกนิกรผู้พลั้งพลาดขาดสติเหล่านี้ เมื่อพวกเขาได้รับพระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณจนได้อิสรภาพแล้วจะต้องสำนึกตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ จะไม่มีวันที่จะกระทำในสิ่งที่ระคายเคืองต่อเบื้องยุคลบาทอีกต่อไป จึงกราบบังคมทูลมาเพื่อทรงทราบ ขอพระองค์ทรงพระเจริญมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ลงชื่อ ....................................................
|
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)