Skip to main content
sharethis

นายกฯ จีนเดินทางเข้าหารือกับนายกฯ ไทยร่วมลงนามข้อตกลง 4 ฉบับอาทิ ความร่วมมือการค้าข้าว การศึกษา-ส่งออกสินค้าการเกษตร ด้านไทยได้เชิญชวนภาคเอกชนจีนลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ หวังขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 15 รองอธิบดีกรมสารนิเทศระบุว่าไม่ได้ถกกันเรื่องความขัดแย้งทะเลจีนใต้

21 พ.ย. 55 - เมื่อเวลา 10.15 น. นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เวิน เจีย เป่า ได้เดินทางมาเข้าพบนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องในวาระการมาเยือนอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยได้หารือทวิภาคี และลงนามความตกลงและเอกสารความร่วมมือไทย-จีน 4 ฉบับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา การค้าข้าว การกระชับความสัมพันธ์ และการโอนตัวผู้ต้องโทษผู้พิพากษา ในขณะที่จีนสนใจเรื่องการลงทุนในไทยด้านโครงสร้างขั้นพื้นฐาน อาทิ รถไฟความเร็วสูง เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

ก่อนจะมีการแถลงข่าวร่วมระหว่างทั้งสองฝ่าย ยิ่งลักษณ์ได้นำเวิน เจีย เป่า เดินตรวจแถวกองทหารกองเกียรติผสม 3 เหล่าทัพ ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะหารือทวิภาคีเรื่องข้อตกลงร่วม และเป็นสักขีพยานการลงนามข้อตกลง 4 ฉบับ ได้แก่ 1. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือ 2. การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสานสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษผู้พิพากษา 3. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทย และ 4. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวสองฝ่าย 

ในการแถลงข่าวร่วม ยิ่งลักษณ์กล่าวแสดงความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับเวิน เจีย เป่า ในการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และในฐานะที่เป็นการเดินทางมาก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเวิน เจีย เป่า ก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง และยังกล่าวถึงการหารือทวิภาคีว่า ประเทศไทยมีแผนที่จะขยายความร่วมมือกับจีนอีกในหลายๆ ด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และการลงทุน 

 

เหวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน แถลงข่าวร่วมกับ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
 
ทางด้านวัฒนธรรม นายกฯ ไทยกล่าวว่า ในเช้าวันนี้ ได้เดินทางไปร่วมเปิดศูนย์วัฒนธรรมจีนในประเทศไทย และไทยเองก็จะมีเแผนเปิดศูนย์วัฒนธรรมไทยในประเทศจีน นอกจากนี้ ยังได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างรัฐบาลไทยและจีน นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวของจีนที่เดินทางมาไทย มีจำนวนราว 1.9 ล้านคน จึงได้มีข้อตกลงที่จะขยายความร่วมมือในด้านการเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เป็นต้น 

ส่วนด้านการค้าและการลงทุน ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ไทยแสดงความสนใจในการร่วมมือด้านการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังจีน อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และผลไม้ และอยากให้รัฐบาลจีนช่วยดูแลเรื่องข้อติดขัดต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังสนใจเรื่องการส่งออกเอทานอลไปยังจีน ซึ่งจีนได้เสนอเป็นเจ้าภาพในการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ครั้งที่ 3 โดยในวานนี้ ภาคเอกชนก็ได้ลงนามในสัญญาการซื้อขายข้าวด้วย และยังกล่าวเชิญชวนให้นักลงทุนจากจีนมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อให้การลงทุนจากจีนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15 จากอุตสาหกรรมอาทิ การแปรรูปยางธรรมชาติ พลาสติก ชีวภาพ และยานยนต์ รวมถึงการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ อาทิ โครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รถไฟฟ้าความเร็วสูง ระบบป้องกันน้ำท่วมในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการที่จีนได้แสดงความสนใจลงทุนอยู่แล้ว 

นายเวิน กล่าวแสดงความยินดีที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการขจัดปัญหา และรับมือกับความท้าทายกับปัญหาภัยพิบัติ และวิกฤติการณ์ทางการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นายกฯ จีน ยังกล่าวว่า จีนยินดีที่จะได้ร่วมมือกับไทยในระดับทวิภาคีและในระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมุ่งหวังว่าจะส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคนี้ และเป็นการดำเนินตามแผนการพัฒนา 5 ปี ของจีน โดยมุ่งเน้นการกระชับความร่วมมือด้านสิ่งก่อสร้างพื้นฐาน เช่น การคมนาคม ชลประทาน การเกษตร และการลงทุน  

ด้านนายดำรง ใคร่ครวญ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า จีนได้แสดงความสนใจในการลงทุนสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงอย่างมาก โดยสายนำร่องคาดว่าน่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หนองคาย และขยายต่อเข้าไปในประเทศลาวและจีน ส่วนในประเด็นเรื่องความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ นายดำรงกล่าวว่า มิได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

หลังจากการหารือและแถลงข่าวร่วมกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ จีน มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ทำเนียบองคมนตรีในเวลา 17.00 น. จากนั้นเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ รพ. ศิริราช และจะเดินทางกลับไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในค่ำวันเดียวกัน 

อนึ่ง การมาเยือนครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการในรูปแบบของทวิภาคีของเวิน เจีย เป่า โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางมาไทย นายกฯ จีนได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-จีน (10+1) ครั้งที่ 15, การประชุมกรอบความร่วมมืออาเซียนบวกจีน เกาหลี ญี่ปุ่น (10+3) สมัยพิเศษ และการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 18-21 พ.ย. และได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย. หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐบารัค โอบามา เดินทางเยือนประเทศไทยก่อนหน้านี้ 3 วัน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net