Skip to main content
sharethis

ศาลปกครองเชียงใหม่ ชี้ใกล้มีคำพิพากษาแล้ว ปัจจุบันขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงใกล้สิ้นสุดในเร็วๆนี้ หลังชาวบ้านชีวมวล เชียงราย 200คน ยื่นเอกสารเพิ่มเติมในคดี

ศาลปกครองเชียงใหม่ ชี้แจงกับชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่นจังหวัดเชียงรายที่เดินทางมายื่นเอกสารพยานหลักฐานต่อศาลจำนวนกว่า200 คน ว่ากระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีใกล้จะเสร็จสิ้น โดยศาลได้เรียกข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้ข้อมูลใกล้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว คาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีคำพิพากษาในคดีได้ว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไฟฟ้าชีวมวลที่ชาวบ้านมีคำขอต่อศาลหรือไม่

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2555  เวลา 10.30 น. ชาวบ้าน อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เดินทางมาจากเชียงรายจำนวนกว่า 200 คน  โดยทันทีที่มาถึงก็ได้ตั้งขบวนเดินรณรงค์ที่หน้าศาล จากนั้นก็ได้ส่งตัวแทนผู้ฟ้องคดีเข้าไปยื่นเอกสารคัดค้านคำให้การกรณีฟ้องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน( ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ออกให้แก่บริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ในพื้นที่บ้านไตรแก้ว  ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ต่อศาลปกครองเชียงใหม่  ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าพนักงานคดีปกครองได้ชี้แจงต่อชาวบ้านว่า ขณะนี้ขั้นตอนของคดีอยู่ในกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้ครบถ้วน  โดยคดีนี้ศาลได้เรียกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดชี้แจงข้อเท็จจริงเกือบจะครบถ้วนแล้ว ส่วนเอกสารที่ชาวบ้านมายื่นในวันนี้ศาลมีหน้าที่ต้องนำไปพิจารณาในคดีต่อไป  ในทางคดีคาดว่าศาลจะได้สั่งกำหนดวันสิ้นสุดแสวงหาข้อเท็จจริงในเร็วๆนี้ และจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และกำนดวันพิพากษาคดีต่อไป ทั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่เดินทางมาจากเชียงรายได้สอบถามถึงกรณีที่สงสัยในกระบวนการของศาล โดยเจ้าพนักงานคดีปกครองก็ได้ตอบข้อสงสัยของชาวบ้านจนกกระทั่งเวลา12.00 น. ชาวบ้านก็แยกย้ายเดินทางกลับจังหวัดเชียงราย

โดยประเด็นที่กลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่นจังหวัดเชียงรายได้ยื่นต่อศาลนั้นมีประเด็นที่สำคัญคือ มีการถมดินบริเวณสถานที่ก่อสร้างโรงงานทับลำเหมืองสาธารณะโดยไม่แจ้งขออนุญาตกับองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงเหนือ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ อ้างว่าไม่ทราบมาก่อนว่าสภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นลำเหมืองสาธารณะ โดยผู้ฟ้องคดีได้ชี้แจงกับศาลว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินซึ่งมีโฉนดและในรูปแผนที่ในโฉนดปรากฎชัดเจนว่ามีลำเหมืองสาธารณะปรากฎอยู่ การที่ผู้ถูกฟ้องคดี ๒ (บริษัทฯ)เป็นเจ้าของโฉนดจะกล่าวอ้างว่าไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวไม่ได้  ประเด็นต่อมาคือผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองอ้างว่าบริเวณสถานที่ก่อสร้างโรงงานนั้นไม่มีโบราณสถานหรือสถานที่สำคัญทางศาสนาและชุมชน ภายในรัศมี 2 กิโลเมตร แต่จากข้อเท็จจริงพบว่าในระยะ 1.4 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของพุทธสถานพระเจ้ากือนา ซึ่งเป็นศาสนสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานบุญใหญ่ในที่ดังกล่าว โดยมีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานฝ่ายฆราวาส เจ้าคณะจังหวัดเชียงรายเป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นอกจากนี้มีการแสดงธรรมจากพระมหา ว.วชิรเมธี  โดยภาคราชการเอกชนและชุมชนต่างให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมให้พุทธสถานพระเจ้ากือนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญประจำจังหวัดเชียงรายต่อไป และพื้นที่โดยรอบล้วนแล้วเป็นที่นาของชาวบ้านที่เป็นแหล่งผลิตข้าวอันดับต้นๆของจังหวัด และประเด็นสุดท้ายกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง (กกพ.และบริษัท)อ้างว่าโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในประเทศไทยไม่เคยเกิดปัญหาร้องเรียนจากประชาชน และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ปัจุบันปรากฎว่ามีการร้องเรียนให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ตรวจสอบการละเมิดสิทธิชุมชนที่เกิดจากโรงไฟฟ้าชีวมวลในหลายจังหวัดของประเทศ และพบว่ามีข้อมูลจากรายงานประเมินผลกระทบด้านสุขภาพจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) ชี้ชัดว่าโรงงานไฟฟ้าชีวมวลสร้างผลกระทบด้านสุขภาพต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งในจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้คดีดังกล่าวได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 โดยกลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่น เป็นผู้ฟ้องคดีจำนวน 100 ราย มีประชาชนผู้สนับสนุนกว่า 1,000 รายชื่อจาก 3 ตำบล และมีเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือด้านคดี โดยมุ่งหวังให้คดีดังกล่าวเป็นบรรทัดฐานในการปฎิบัติงานของราชการที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาต ให้มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างครบถ้วนและคำนึงถึงสิทธิชุมชนของประชาชนในการกำหนดวิถีชีวิตของตนเองร่วมกับภาครัฐต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net