Skip to main content
sharethis

เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา โรแวน แอตคินสัน นักแสดงนำละครตลก "มิสเตอร์บีน" ของอังกฤษ ได้สร้างความสนใจจากสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในแคมเปญรณรงค์ของ "คณะแก้ไขมาตรา 5" ของกฎหมายความเรียบร้อยสาธารณะของอังกฤษ โดยพวกเขาเรียกร้องให้ยกเลิก "การดูหมิ่น" "การวิพากษ์วิจารณ์ และ "การเสียดสี" จากการเป็นอาชญากรรม  

กฎหมายความเรียบร้อยสาธารณะมาตรา 5 ในรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร ระบุให้การดูหมิ่นที่ทำให้เกิดความอับอาย ความตกใจ และความเครียดแก่ผู้อื่น ถือเป็นอาชญากรรม ที่ผ่านมา มีคดีที่ไม่น่าจะเป็นคดีตามกฎหมายนี้หลายตัวอย่าง เช่น คดีที่เด็กชายวัย 16 ปี ที่ถือป้ายประท้วงอย่างสันติว่า "ไซเอนโทโลจี้ไม่ใช่ศาสนา แต่มันเป็นลัทธิที่อันตราย" และตำรวจได้จับกุมเขาเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าข้อความดังกล่าวดูหมิ่นสำนักอัยการสูงสุด อย่างไรก็ตาม หลังจากการคัดค้านจากกลุ่มรณรงค์สิทธิพลเมือง คดีดังกล่าวก็ถูกยกฟ้อง 
 
หรือจะเป็นคดีของปีเตอร์ แทตเชลล์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศ กลุ่ม "Outrage!" ซึ่งถูกจับกุมเนื่องจากประท้วงคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มมุสลิมหัวสุดโต่ง Hizb ut-Tahrir ที่เรียกร้องให้ทำการสังหารชาวรักเพศเดียวกัน ชาวยิว และผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์ โดยตำรวจมองว่า ป้ายประท้วงของกลุ่ม Outrage! มีข้อความที่ดูหมิ่น และสร้างความตึงเครียดต่อสาธารณะ ในขณะเดียวกัน นักเทศน์ศาสนาคริสต์ผู้หนึ่งซึ่งถือป้ายรณรงค์ในที่สาธารณะว่า การกระทำที่รักเพศเดียวกันถือว่าเป็นบาป ก็ถูกจับด้วยมาตรา 5 และถูกปรับเป็นเงิน 300 ปอนด์ (ราว 15,000 บาท) เนื่องจากศาลพิจารณาว่าข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ "ดูหมิ่น" ต่อชาวรักร่วมเพศ
 
คณะรณรงค์เพื่อปฏิรูปกฎหมายมาตรา 5 ซึ่งประกอบไปด้วยองค์กรพันธมิตรหลากหลายจากหลากขั้วทางการเมือง อย่างสถาบันคริสเตียน (The Christian Institute) สมาคมเพื่อโลกฆราวาสแห่งชาติ (The National Secular Society) กลุ่มจับตามองบิ๊ก บราเธอร์ (Bg Brother Watch) ซึ่งรณรงค์เรื่องเสรีภาพพลเมือง มูลนิธิปีเตอร์ แทตเชล (The Peter Tatchell Foundation) หรือกลุ่ม think-tank สายอนุรักษ์นิยม The Bow Group  ได้เรียกร้องให้ลบ "คำหรือพฤติกรรมที่มีลักษณะดูหมิ่น" ออกจากการเป็นอาชญากรรม เนื่องจากเป็นคำที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถตีความได้อย่างกว้างและคลุมเครือ และที่สำคัญได้ส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงออกในประเทศอย่างมาก
 
ในหน้าเว็บของคณะกรรมการรณรงค์ปฏิรูปมาตรา 5 ระบุถึงเหตุผลที่จะต้องรณรงค์กฎหมายดังกล่าวไว้ว่า "ไม่มีใครมีสิทธิที่จะไม่ถูกดูหมิ่นหรือทำให้เสียความรู้สึก ถึงแม้ว่านี่อาจจะดูรุนแรง แต่นี่เป็นเสรีภาพที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่เป็นใจกลางสำคัญของหลักการเพื่อเสรีภาพในการแสดงออก พหุนิยม และประชาธิปไตย" และถึงแม้อาจจะมีบางคนแย้งว่า เสรีภาพในการแสดงออก จำเป็นต้องมากับความรับผิดชอบ แต่คณะรณรงค์ก็แย้งว่า การรณรงค์นี้ ไม่ได้ทำให้การดูหมิ่นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แต่มันเป็นการพิทักษ์เสรีภาพของคนเราในการถกเถียงประเด็นที่สำคัญ การทำตามความเชื่อและความศรัทธา หรือการมีสิทธิที่ไม่เห็นด้วยกับการทำตามความเชื่อของผู้อื่น
 
ในสุนทรพจน์ดังกล่าว แอตคินสันกล่าวว่า ปัญหาของกฎหมายนี้ คือการตีความคำว่า "ดูหมิ่น" ที่กว้างเกินไป 
 
"คำวิพากษ์วิจารณ์ การล้อเลียน และการเสียดสี ที่เป็นเพียงการพูดจากมุมมองที่แตกต่างไปจากสิ่งดั้งเดิม กลับถูกตีความว่าเป็นการดูหมิ่น" เขากล่าว 
 
"การยกเลิกมาตรานี้ จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่ผมหวังว่ามันจะเป็นก้าวที่สำคัญของโครงการระยะยาวในการยุติและเพิกถอนวัฒนธรรมการเซ็นเซอร์" 
 
การรณรงค์การปฏิรูปกฎหมายนี้ เกิดขึ้นหลังจากในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ส.ส.เอ็ดวาร์ด เลยฮ์ จากพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ได้ยื่นวาระเสนอขอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวต่อสภา พร้อมกับรายชื่อผู้สนับสนุนจากส.ส.หลากหลายพรรคกว่า 60 คน ทำให้ต่อมารัฐบาลจำเป็นต้องจัดทำเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการตีพิมพ์รายงานดังกล่าวเพื่อพิจารณาการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวต่อไป 
 
 


การกล่าวสุนทรพจน์สนับสนุนการยกเลิกมาตรา 5 ของกฎหมายความเรียบร้อยสาธารณะ ของโรแวน แอตคินสัน
นักแสดงนำละครตลก 'มิสเตอร์บีน' ที่รัฐสภาอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net