หลังรัฐบาลประกาศยอมรับข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในช่วงวันอีดซึ่งเสนอโดยสหประชาชาติ แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายก็กลับมาปะทะกันโดยต่างอ้างว่าอีกฝ่ายเริ่มต้นใช้ความรุนแรงก่อน ผู้นำศาสนาในพิธีฮัจญ์เทศนาให้ชาวอาหรับและชาวมุสลิมช่วยเหลือผู้ถูกกดขี่
28 ต.ค. 2012 - สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในซีเรียยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศสงบศึกชั่วคราวเนื่องในวันอีดอัฎฮาแล้วก็ตาม
กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเปิดเผยว่ารัฐบาลได้ระดมยิงอาวุธหนักใส่ในหลายพื้นที่ของเมืองใหญ่ นักกิจกรรมในเมืองดิแอร์ อัล-ซอร์, เขตของชานเมืองของดามาสกัสและในอเล็ปโป ที่กลุ่มกบฏครอบครองพื้นที่โดยมากได้อยู่ บอกว่ามีการยิงปืนครกใส่เขตที่อยู่อาศัยของประชาชนเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์
การยิงวัตถุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 2 ของการประกาศสงบศึกโดยผู้แทนพิเศษ ลัคห์ดาร์ บราฮิมี ที่หวังว่าการหยุดยิงชั่วคราวในครั้งนี้จะช่วยปูแนวทางไปสู่การหยุดยั้งความขัดแย้งที่ดำเนินมาตลอด 19 เดือน ที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลให้ข้อมูลว่ามีคนเสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด 32,000 คน
รายงานข่าวระบุว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ละเมิดสัญญาหยุดยิงหลังจากที่ประเทศซีเรียอยู่ในความสงบช่วงวันอีดวันแรก
"กองกำลังรัฐบาลเริ่มยิงปืนครกเมื่อช่วง 7 นาฬิกาตอนเช้า มีการระเบิดเกิดขึ้นนับได้ 15 ครั้ง และเราก็ทราบว่ามีประชาชน 2 รายเสียชีวิต" โมฮัมเม็ด โดวมานี นักกิจกรรมจากเขตชานเมืองโดวมาของกรุงดามาสกัสกล่าว เขตโดวมาเป็นเขตที่มีฐานทัพของฝ่ายกบฏอยู่
"ในตอนนี้ผมไม่เห็นความแตกต่างระหว่างก่อนประกาศหยุดยิงและหลังประกาศหยุดยิงเลย" โดวมานีกล่าว
ข้ออ้างจากทั้งสองฝ่าย
ทางด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า 'กลุ่มก่อการร้าย' ได้วางระเบิดรถยนต์บนถนนหลักของดิแอร์ อัล-ซอร์
ผู้ประกาศข่าวช่องรัฐบาลซีเรียรายงานว่า "กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งโดยการวางระเบิดรถยนต์หน้าโบสท์ซีแรค ในดิแอร์ อัล-ซอร์ สร้างความเสียหายต่อด้านหน้าของโบสท์"
นักกิจกรรมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกล่าวหาว่าฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้ก่อเหตุ ขณะที่แหล่งข่าวของกองกำลังกบฏ FSA บอกว่าสมาชิกของตน 4 รายเสียชีวิตจากเหตุระเบิดดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ทั้งฝ่ายรัฐบาลซีเรียและฝ่ายกบฏต่างก็ยอมรับข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวในช่วงวันอีด 4 วัน แต่ก็ยังขอใช้สิทธิในการตอบโต้การโจมตีจากฝ่ายตกข้าม
กองทัพรัฐบาลซีเรียอ้างว่าพวกเขาตอบโต้การโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยผู้นำเหล่าทัพบอกว่า 'ผู้ก่อการร้าย' ได้ละเมิดการหยุดยิงโดยการยิงมาที่จุดตรวจ และใช้อาวุธระเบิดกับสารวัตรทหารที่ตรวจการอยู่ในอเล็ปโป
แต่ทางด้านผู้บัญชาการฝ่ายกบฏก็บอกว่าตนไม่ได้เป็นผู้ละเมิดสัญญาหลุดยิง แต่กระทำการไปเพื่อเป็นการป้องกันตัว
"ผมอยู่ในแนวหน้าหลายที่เมื่อวานนี้ กองทัพรัฐบาลไม่ยอมหยุดใช้อาวุธหนักยิงถล่ม" อับเดล แจบบาร์ อัล-โอคาดี ผู้นำกองกำลังฝ่ายกบฏในเมืองอเล็ปโปกล่าว "ภารกิจของพวกเราคือการปกป้องผู้คน ไม่ใช่ฝ่ายเราที่เป็นฝ่ายโจมตี"
นอกจากนี้สื่อฝ่ายรัฐบาลยังได้รายงานเรื่องเหตุระเบิดรถยนต์เมื่อวันศุกร์ (26) ที่ผ่านมา แรงระเบิดส่งผลกระทบกับย่านที่พักอาศัยโดยรอบที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวอาศัยอยู่ เป็นเหตุให้มีอย่างน้อย 8 คนเสียชีวิต
อิหม่ามในพิธีฮัจญ์เรียกร้องให้ชาวอาหรับและชาวมุสลิมช่วยเหลือผู้ถูกกดขี่
อิหม่ามประจำมหามัสยิดกรุงเมกกะที่มีผู้คนหลายล้านคนได้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์ได้เรียกร้องให้ชาวอาหรับและชาวมุสลิมดำเนินการโดยด่วนตามแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อยับยั้งการนองเลือดในซีเรีย
"โลกควรมีส่วนรับผิดชอบต่อหายนะที่สาหัสและยาวนานในซีเรีย และความรับผิดชอบที่ว่านั้นควรจะมีมากกว่าในหมู่ชาวอาหรับและชาวมุสลิม ผู้ที่ควรเรียกร้องให้ทุกคนสนับสนุนให้ผู้ที่ถูกกดขี่ต่อต้านผู้กดขี่" ชีค ซาเลห์ โมฮัมเม็ด อัล-ทาเลบ กล่าวในช่วงเทศน์วันอีด
"การแก้ไขปัญหานี้ควรเป็นไปอย่างเร่งด่วยและทำตามแนวทางที่เป็นไปได้ เนื่องจากผู้กดขี่นับวันยิ่งจะโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ"
ที่มา:
Syria fighting rages despite truce deal, Aljazeera, 27-10-2012
http://www.aljazeera.com/news/middleeast/2012/10/201210278422871248.html