Skip to main content
sharethis

'จิม เซวิลล์' อดีตผู้ดำเนินรายการชื่อดังของบีบีซีผู้เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างความสั่นสะเทือนในสังคมอังกฤษ เมื่อพบหลักฐานเร็วๆ นี้ว่าเขาอาจล่วงละเมิดเด็กทางเพศกว่า 300 คนตลอดการทำงาน 40 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดวิกฤติความเชื่อมั่นต่อบีบีซีที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี 


เซอร์ เจมส์ วิลสัน วินเซนท์ เซวิลล์ หรือ "จิม เซวิลล์"

"จิม เซวิลล์" เป็นที่รู้จักในฐานะนักจัดรายการวิทยุชื่อดังของสถานีข่าวบีบีซี เขาเป็นผู้ดำเนินรายการจัดชาร์ตเพลงอังกฤษ "Top of the Pops" คนแรกและคนสุดท้าย และยังทำรายการ "Jim'll Fix It" มาต่อเนื่องกว่า 40 ปี รายการดังกล่าวคล้ายกับรายการ "ฝันที่เป็นจริง" บ้านเรา คือ ให้เด็กๆ (และคนทั่วไป) เขียนขอพรมายังรายการ และ "ลุงจิม" ก็จะเดินทางไปทำคำขอดังกล่าวให้เป็นจริง 

จิม เซวิลล์ ผู้เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยังได้รับมอบตำแหน่ง "ขุนนาง" จากกษัตริย์อังกฤษในปี 1990 จากการทำงานเพื่อมูลนิธิสำหรับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ เขายังใกล้ชิดเป็นอย่างดีกับอดีตนายกรัฐมนตรี มากาเร็ต เเธ็ตเชอร์ และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อีกด้วย 
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเสียชีวิตของเซวิลล์ต่อมา 1 ปี สก็อตแลนด์ยาร์ด องค์กรตำรวจของอังกฤษออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาได้เริ่มทำการสอบสวนกรณีล่วงละเมิดทางเพศเด็กของเซวิลล์ โดยมีผู้เสียหายแล้วอย่างน้อย 10 ราย และมีเบาะแสว่าเขาได้ทำเช่นเดียวกันกับเหยื่ออีกราว 300 คน ตลอดชีวิตการทำงาน 40 กว่าปีที่ผ่านมาของเขา โดยเหยื่ออายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 10 ขวบ เด็กที่ป่วยและพิการ ไปจนถึงผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิง
 
มีรายงานว่า จิม เซวิลล์ ได้ใช้การเข้าถึงตัวเด็กๆ ผ่านทางรายการโทรทัศน์ มูลนิธิ การเข้าเยี่ยมผู้ป่วยเยาวชนในโรงพยาบาล เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ ผู้ที่เคยถูกเซวิลล์ล่วงเกิน เริ่มออกมาให้ปากคำถึงการกระทำของเขา อาทิ เควิน คุก ซึ่งอายุ 9 ขวบในปี 1976 และได้ไปออกรายการ Jim'll Fix It และถูกเซวิลล์ลวนลามในขณะที่อยู่ในห้องแต่งตัว หรือ นาง แคริน วาร์ด ซึ่งกล่าวว่าตนถูกเซวิลล์ล่วงละเมิดในขณะที่อยู่ในโรงเรียนหญิงล้วนในเมืองเซอร์เรย์เมื่อเธอยังเป็นเด็ก เช่นเดียวกับนายสตีเวน จอร์จ ซึ่งพักรักษาตัวจากการผ่าตัดแปลงเพศที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอังกฤษ กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษ 1970 เป็นช่วงที่เซวิลล์เริ่มเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล ตนเองถูกเซวิลล์เข้ามาคุมคามทางเพศในห้องพัก เขาชี้ว่า เขาให้การกับตำรวจหลังออกจากโรงพยาบาล แต่ตำรวจกลับไม่เชื่อ และไม่ได้ลงบันทึกการฟ้องดังกล่าวไว้ 
 
สถานีข่าวบีบีซี ในฐานะที่เป็นต้นสังกัดจิม เซวิลล์ ถูกสาธารณชนตั้งคำถามทันทีถึงความรับผิดชอบและการมีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าวของเขา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 ต.ค.) ผู้อำนวยการใหญ่ของสถานีบีบีซี จอร์จ เอ็นท์วิสเซิล ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เพียงเดือนกว่าๆ ได้เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาด้านวัฒนธรรม สื่อมวลชนและกีฬาของอังกฤษ ถึงแม้เขาจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการตัดสินใจระงับการฉายรายการที่สืบสวนพฤติกรรมจิม เซวิลล์ ของบีบีซี แต่เขาก็ถูกกล่าวหาว่า "ขาดความสงสัยใคร่รู้อย่างน่าแปลกใจ" ต่อการสืบสวนพฤติกรรมเซวิลล์ของรายการ "นิวส์ไนท์" 
 
บีบีซี ได้เผชิญข้อครหาอย่างหนัก หลังจากสถานีโทรทัศน์ไอทีวี คู่แข่งของบีบีซี ได้เผยแพร่รายการสารคดีที่สืบสวน "ด้านมืด" ของจิม เซวิลล์ โดยได้สัมภาษณ์ผู้ที่เป็นเหยื่อต่อการละเมิดทางเพศของเซวิลล์หลายราย ในขณะที่ผู้สื่อข่าวของรายการ "นิวส์ไนท์" ของบีบีซี ซึ่งทำรายการตอนหนึ่งเจาะลึกพฤติกรรมของจิม เซวิลล์ ได้ออกมากล่าวว่า หัวหน้าบรรณาธิการของรายการถูกกดดันจากฝ่ายบริหารมิให้ออกอากาศตอนดังกล่าว เพราะอาจส่งผลสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของสถานีโทรทัศน์อันเป็นศูนย์กลางชีวิตของชาวอังกฤษ
 
อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ ริพปอน บรรณาธิการ "นิวส์ไนท์" ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตัดสินใจไม่ออกอากาศรายการตอนดังกล่าว เป็นเพราะมีเนื้อหาที่ไม่รัดกุมและถูกต้อง แต่หลังจากนั้น "พาโนรามา"  รายการคู่แข่งของ นิวส์ไนท์ ที่สังกัดบีบีซีเช่นเดียวกัน ก็ได้ถ่ายทอดความขัดเแย้งภายในและความตึงเครียดของกองผลิต "นิวสไนท์" ในตอนดังกล่าวออกมา ทำให้ "บีบีซี" ในฐานะองค์กรข่าวที่ได้รับการอุดหนุนจากสาธารณะ และนับเป็นสื่อที่ประชาชนชาวอังกฤษยังรับชมถึงร้อยละ 70 ต้องถูกสั่นสะเทือนจากวิกฤติในครั้งนี้ จากทางศีลธรรม และความเชื่อถืออย่างหนัก
 
บีบีซีได้แก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าว 2 คณะ เพื่อสอบสวนและค้นหาความจริงที่เกิดขึ้น ในขณะที่ประชาชนชาวอังกฤษ ยังคงตั้งคำถามว่า เหตุใด บุคคลที่ได้รับความเคารพจากสาธารณะ ผู้ทุ่มเทตนเองแก่องค์กรการกุศลและเด็กๆ ที่เจ็บป่วย สามารถหลอกลวงสังคมได้อย่างแนบเนียนและยาวนาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net