จับหนุ่มยะหาขู่ให้หยุดวันศุกร์ แนะทหารถอยให้ชาวบ้านคุมกันเอง

รวบ 2 วัยรุ่น ต้องสงสัยข่มขู่ห้ามขายวันศุกร์ ผู้นำศาสนาแนะให้ทหารต้องเปิดช่องผู้นำชุมชนให้ชาวบ้านดูแลกันเอง สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ย้ำทำงานวันศุกร์ไม่ผิดหลักศาสนา ผู้ประกอบการทำป้ายโปสเตอร์โองการอัล-กุรอานให้ขายวันศุกร์ ผู้ว่าฯ สงขลา ซักซ้อมแนวปฏิบัติแก้ทางห้ามค้าขายวันศุกร์ ถ่ายรูปเป็นเรื่อง คุมหนุ่มนราฯ ไปบันทึกประวัติ

รวบ 2 วัยรุ่น ต้องสงสัยข่มขู่ห้ามขายวันศุกร์

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2555  ที่สถานีตำรวจภูธรยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายศุภณัฐ หิรัณธวิเนติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พ.ต.อ.สันติ เหล่าประทาย ผู้กำกับการ สภ.ยะหา  นายปรีชา ธนกิจกำจร นายอำเภอยะหา จ.ยะลา ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม ผู้ต้องสงสัยข่มขู่ผู้ประกอบการร้านค้าในย่านชุมชนตลาดเก่า อ.เมือง จ.ยะลา และปั๊มน้ำมัน อ.ยะหา จ.ยะลา หลังจากชาวบ้านผู้ประกอบการแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องสงสัยโดยแจ้งหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุ จากการสอบสวนทราบชื่อคือ นายฮาซัน ปานาวา อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาของโรงเรียนเชคดาวุดอัลฟานอ และนายอับดุลรอเซะ ยูโซ๊ะ อายุ 25 ปี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายฮาซันได้ขับรถจักรยานยนต์เข้าไปสอบถามผู้ประกอบการร้านค้าย่านธุรกิจแถวตลาดเก่าว่าปิดร้านวันไหน ทำไมไม่ปิดร้านวันศุกร์ แล้วขับรถจักรยานยนต์ออกไป สร้างความหวาดกลัวต่อชาวบ้านผู้ประกอบการ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ทางด้านนายอับดุลรอเซะได้ขับรถจักรยานยนต์ทำทีขอกินน้ำที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งตัว อ.ยะหา และพูดจาข่มขู่พนักงานปั๊มน้ำมันว่าให้ปิดร้านวันศุกร์หากไม่กระทำตามจะไม่รับรองความปลอดภัยของพนักงานปั๊ม

โดยเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้กระทำการจริง แต่ที่ทำลงไปเพราะความคึกคะนองไม่คาดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ทางด้านนายอับดุลรอเซะนั้นเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสารเสพติดในร่างกายเพราะอยู่ในอาการมึนเมา และทำการสอบสวนในขั้นต่อไปว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มกระบวนการก่อเหตุรุนแรงที่ข่มขู่ประชาชนไม่ให้ออกมาประกอบอาชีพในวันศุกร์หรือไม่

นายเดชรัฐกล่าวว่าอยากให้ผู้ประกอบการร้านค้ามีความมั่นใจ ส่วนการค้าขายในวันศุกร์นั้น ศอ.บต.ได้ทำหนังสือถึงจุฬาราชมนตรีเพื่อสอบถามว่าผิดหลักศาสนาหรือไม่ ทางด้านสำนักจุฬาราชมนตรีได้ออกประกาศชี้แจงแล้วว่าการประกอบอาชีพหรือการทำงานในวันศุกร์ไม่ได้ผิดหลักศาสนาแต่อย่างใด ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ ทั้งนี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกันสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยการเดินให้กำลังใจบริเวณย่านธุรกิจการค้า พร้อมกับกองกำลัง 3 ฝ่ายและผู้นำศาสนาในพื้นที่อีกด้วย

จับวัยรุ่นยะหา ขู่ปั้มน้ำมันห้ามเปิดวันศุกร์

ส่วนปฏิบัติการและรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ศูนย์ปฏิบัติการร่วมทางยุทธวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานว่าเนายอับดุลรอเซะขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในปั้มน้้ามัน ในพื้นที่บ้านพงกูแว หมู่ที่ 3 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา พูดจาข่มขู่ น.ส.อุไรวรรณ จินทพันธ์ พนักงานปั้มไม่ให้เปิดขายในวันศุกร์

ทั้งนี้ เขาใช้ข้อความว่า “เปิดมั้ยวันศุกร์ ไม่กลัวเหรอ ถ้าไม่ปิดระวังจะโดน ไม่ดูข่าวทีวีบ้างเหรอ ถ้าไม่ปิดได้ลงข่าวออกทีวีว่า ปั้มน้้ามันกับเด็กปั้มโดนระเบิด ที่อื่นเค้าปิดกันหมด” และก่อนจะขับรถจยย. ออกไปก็พูดอีกครั้งพร้อมกับชี้หน้าว่า “ถ้าไม่ปิด โดนแน่ ไม่ศุกร์นี้ก็ศุกร์หน้า”

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2555 หน่วยเฉพาะกิจ 48 ร่วมกับตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรยะหาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันควบคุมตัวนายอับดุลรอเซะโดยใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกเพื่อมาดำเนินกรรมวิธีซักถามขยายผลต่อไป 

ผู้นำศาสนาแนะทหารถอยเปิดทางชาวบ้านคุมกันเอง

นายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ รองประธานกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาสกล่าวกับ DSJ ถึงเรื่องข่าวลือให้หยุดงานวันศุกร์ว่า การที่ประชาชนเชื่อข่าวลือดังกล่าวไม่ใช่เพราะเห็นว่าผิดหลักการศาสนา เนื่องจากศาสนาอิสลามไม่ได้ห้ามตามคำขู่ดังกล่าว แต่เป็นเพราะประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะอำนาจรัฐอ่อนแอ ซึ่งในเรื่องนี้เคยมีข้อเสนอที่เป็นไปได้คือการให้อำนาจผู้นำชุมชนมาดูแลชุมชนเอง

“กองกำลังของรัฐอาจถอยไปก้าวหนึ่งแล้วให้อำนาจกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาดูแลชาวบ้านกันเอง จึงจะแก้ปัญหาเรื่องหยุดวันศุกร์ได้ เมื่อกำนันบอกว่าขายได้เขาจะดูแล ทุกคนก็กล้าขาย ปัญหาคือวันนี้เจ้าหน้าที่ไม่ยอมถอย เคยมีข้อเสนอให้กำนันหาชาวบ้านมาดูแลชุมชนให้มีสวัสดิการ มีค่าตอบแทนก็ไม่มีใครรับ ซึ่งถ้าชาวบ้านดูแลกันเอง เขาจะรู้ว่าใครเป็นใคร แต่ตอนนี้มีคนจากสุดชายแดนอีสานมาอยู่ แล้วเขาจะดูแลใคร” นายอับดุลอาซิซ กล่าว

“วันนี้แค่ข่าวลืออำนาจรัฐสยบไม่ได้ ถ้าให้อำนาจให้ภาระงานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ถ้ากำนันผู้ใหญ่บ้านประกาศว่าวันศุกร์นี้ผมจะดูแลเอง ทุกคนก็กล้าขาย” รองประธานกรรมอิสลามจังหวัดนราธิวาสกล่าว

ด้านผู้ประกอบการร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี ได้พิมพ์โปสเตอร์ที่มีเนื้อหาโองการจากคัมภีร์อัล-กุรอานที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการค้าขายในวันศุกร์จากบทอัลยุมอัต โองการที่ 9 และ 10 ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเมื่อมีเสียงอาซานเพื่อทำการละหมาดวันศุกร์ พวกท่านจงรีบเร่งไปสู่การรำลึกถึงอัลลอฮฺ และจงละทิ้งการค้าขายเสียก่อน”

“เมื่อการละหมาดวันศุกร์เสร็จสิ้นแล้วก็จงแยกย้ายกันไปในแผ่นดิน และจงแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮฺ”  ซึ่งป้ายดังกล่าวถูกติดไว้ที่หน้าร้านพร้อมแผ่นกระดาษปิดประกาศว่า วันศุกร์ปิดละหมาดเวลา  11.30 น. ถึง 13.30 น. ในขณะที่ชาวบ้านที่มุงดูต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหลักการที่ถูกต้องของศาสนาอิสลาม

ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านในตัวเมืองปัตตานีรายหนึ่งกล่าวว่า วันศุกร์นี้เจ้าของร้านค้าต่างๆ บอกว่าจะหยุดขาย เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยชาวบ้านกล่าวอย่างมีอารมณ์ขันว่าก่อนถึงวันศุกร์คงต้องซื้อของกักตุนไว้ก่อนเมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ลำบาก

ชายแดนใต้ยังเงียบ ร้านตลาดโหรงเหรง

ตลาดยี่งอ จ.นราธิวาส

แม้แต่ปั้มน้ำมันในเขต อ.เมืองปัตตานีก็ยังปิด

ตลาดสดในเขตเทศบางเมืองปัตตานี ปิดเงียบ

 

เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมกับนายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองลงพื้นที่เดินแจกสารของจุฬาราชมนตรี เกี่ยวกับรายละเอียดหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ที่ชี้แจงว่าการประกอบกิจการใดๆ ในวันศุกร์ไม่ผิดหลักคำสอน พร้อมกับเดินตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบรรดาร้านค้า ร้านขายอาหารยามเช้าในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี

ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้กำลัง 3 ฝ่าย จัดกำลังคุมเข้ม ป้องกันเหตุความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ร่วมไปกับการขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวสิ่งผิดปกติที่อาจนำไปสู่การก่อเหตุความรุนแรง ตลอดจนแจ้งข่าวหากพบเห็นกลุ่มคนที่ยังคงออกข่มขู่ชาวบ้านห้ามไม่ให้ขายของและทำงานในวันศุกร์

สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา และอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะในเขตเทศบาลและตามพื้นที่ชุมชน ส่วนใหญ่ยังปิดทำการมากกว่าร้อยละ 70 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดได้ลงสำรวจพื้นที่ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีการรณรงค์ให้พ่อค้าแม่ค้าออกมาขายของตามปกติ

ทั้งชาวบ้านบางส่วนในเขตอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ได้ออกมาซื้อสินค้าและกับข้าวกักตุนไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีร้านค้าร้านอาหารเปิดทำการ

 สงขลาสั่งสู้ ให้หน่วยงานซื้อของวันศุกร์

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2555 นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ อำเภอสะบ้าย้อย เพื่อซักซ้อมมาตรการที่จะรักษาความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ให้สามารถทำมาหากินได้อย่างเป็นปกติ ไม่หวาดกลัวต่อคำขู่ที่ห้ามค้าขายในวันศุกร์ของผู้ก่อความไม่สงบ โดยสั่งให้นายอำเภอจัดกำลังตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ออกดูแลความปลอดภัยบริเวณตลาดนัดชุมชน อำเภอ หรือ เทศบาล พร้อมดำเนินมาตรการให้เกิดการค้าการขายตามปกติในวันศุกร์และทุก ๆ วัน เช่น ให้ส่วนราชการที่ต้องซื้อสินค้าไว้ใช้ในแต่ละหน่วย สั่งซื้อในวันพฤหัสบดี และนัดรับสิ่งของหรืออาหารที่สั่งในวันศุกร์

 ถ่ายรูปเป็นเรื่อง คุมหนุ่มนราฯบันทึกประวัติ

ในขณะที่ร้านค้าต่างๆ ปิดทำการจนทำให้บรรยากาศในตัวเมืองหลายแห่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และบางส่วนของจังหวัดสงขลาเงียบเหงา ทำให้ประชาชนบางส่วนที่มีกล้องถ่ายรูปได้ออกมาถ่ายภาพบรรยากาศดังกล่าวเก็บไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกมาห้ามโดยให้เหตุผลว่าทำให้ผู้ประกอบการหวาดกลัว และเกรงว่าจะนำรูปถ่ายไม่ทำมิดีมิร้าย

ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มสื่ออิสระในพื้นที่ได้ออกมาถ่ายรูปบรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกถาม พร้อมแจ้งว่าการถ่ายรูปดังกล่าวทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว จากนั้นตำรวจพักเชิญไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส เพื่อถ่ายรูปและบันทึกประวัติ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท