คาร์บอมบ์ขวางทางแก้ด้วยสันติวิธี ศูนย์ทนายความมุสลิมแถลงเหตุสายบุรี

 

ศูนย์ทนายความมุสลิมแถลงเหตุคาร์บอมบ์สายบุรี เป็นอุปสรรคขวางทางแก้ด้วยสันติวิธี กอ.รมน.ชี้เป็นการตอบโต้เหตุ 93 ผู้เห็นต่างกับเข้าแสดงตัวกับรัฐ เปิดรายชื่อคนเจ็บ-ตาย
 
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2555 มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมออกแถลงการณ์ต่อกรณีการก่อความไม่สงบในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี โดยเรียกร้องให้มีการแสวงหาทางออกร่วมกันของรัฐ องค์กรภาคประชาสังคม และประชาชน เพื่อยุติวงจรแห่งความรุนแรงด้วยแนวทางสันติวิธี
 
แถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 มีเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงร้านทองในย่านตลาด ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จากนั้นได้กดชนวนระเบิดที่บรรจุในรถยนต์ ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก รวมทั้งทรัพย์สินเสียหาย เหตุดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของภูมิภาค ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่น หวาดกลัวในความปลอดภัยที่จะดำรงชีวิตอย่างปกติ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบและเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาวิธีการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
 
แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุอีกว่า มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อทุกครอบครัวของผู้สูญเสีย และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้และทุกเหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมา และขอเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุได้หยุดคิดพิจารณาถึงผลกระทบจากการใช้ความรุนแรง ที่นำมาสู่ความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกาย ตลอดถึงทรัพย์สิน มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจึงขอเรียกร้องให้รัฐแสวงหาทางออกโดยการสร้างกระบวนการในการเปิดพื้นที่พูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ และองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อหาแนวทางสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายที่คำนึงถึงหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด
 
“มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยึดหลักการปฏิบัติตามหลักกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจึงขอแสดงถึงจุดยืนที่ชัดแจ้งต่อการไม่เห็นด้วยในการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา โดยไม่เลือกว่าจะเกิดความสูญเสียต่อบุคคลใด หรือกลุ่มใด ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ เพียงเพื่อต้องการให้บรรลุเป้าหมายที่ผู้ก่อเหตุต้องการ” แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 21 กันยายน 2555 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.แถลงข่าวชี้แจ้งหลังเหตุกราดยิงและระเบิดคาร์บอมบ์ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเที่ยงวันเดียวกัน
 
พ.อ.ปราโมทย์ แถลงว่า จากการประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ว่า หลังจากที่แกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง 93 ราย ได้เข้าเจรจาสันติกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงเพื่อประกาศจุดยืนที่จะเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างสันติ ซึ่งทางการได้เปิดโอกาสและช่องทางให้ผู้ที่มีความเห็นต่างมาร่วมสร้างแนวทาง และทางออกจากความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ซึ่งได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทางเลขาธิการสันนิบาตโลกมุสลิมได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นผู้ที่มีความคิดที่ไม่เป็นไปตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม จึงทำให้กลุ่มคนร้ายที่ไม่เห็นด้วยออกมาก่อเหตุตอบโต้
 
พ.อ.ปราโมทย์ แถลงอีกว่า นอกจากนี้ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุประกบยิงทหาร ที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิต 4 นาย และก่อเหตุลอบวางระเบิดในรถยนต์ดักสังหารตำรวจ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิต 5 นาย โดยภายหลัง จ้าหน้าที่ออกหมายจับไปแล้ว 11 คน และสามารถจับกุมคนร้ายดังกล่าวได้แล้ว 5 ราย ซึ่งเชื่อว่า ทำให้คนร้ายกลุ่มเดียวกันก่อเหตุเพื่อตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่
 
พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.)ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบรถกระบะที่คนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องนำมาก่อเหตุ ปรากฏว่า เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ ติดป้ายทะเบียนปลอม โดยมีการดัดแปลงป้ายทะเบียน 2 ด้านกลับกัน คือ บต 5993 ปัตตานี และ บต 5383 ยะลา เป็นรถที่คนร้ายได้ปล้นฆ่าแม่ค้ารับซื้อน้ำยางพาราในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้แม่ค้าเสียชีวิต 3 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา
 
สำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว พบว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย โดยเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) 1 ราย และชาวบ้าน 5 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ รวมทั้งหมด 51 ราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่ 39 ราย ตำรวจ สภ.สายบุรี 12 นาย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 5 นาย แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหมร้านค้าเสียหาย 4 คูหา โดยเฉพาะบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด สาขาสายบุรี ซึ่งเสียหายอย่างหนัก รถยนต์ของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้รับความเสียหายอีกหลายคัน
 
รายชื่อผู้เสียชีวิต
       1.นายวิชัย สกลธวุฒิ เป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนประจำอำเภอสายบุรี
       2.นายวรุฒ สุนทร อายุ 21 ปี ชาว ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นเจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์
       3.นางอรียา สมัน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/1 ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
       4.นายไพศาล จันททรัพย์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129-131 ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
       5.นางประทิน แก้งทอง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
       6.นางเสวภา ประศาสน์ศิลป์
 
รายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 12 นาย
       1.พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ทองด้วน รอง ผกก.3 สภ.สายบุรี
       2.จ.ส.ต.มูหะมะ กาเดร์ อายุ 38 ปี
       3.ส.ต.อ.ชาคริต ราชมณี
       4.ส.ต.ท.ไซบิ ฮะมิงมะ
       5.ส.ต.อ.ฮัซซาน สูเด็น อายุ 34 ปี
       6.ร.ต.อ.อับดุลฮามิ บือราเฮง สวป.สภ.สายบุรี
       7.ส.ต.ต.นิรี ด้วงชู
       8.ส.ต.ท.อดิภัทร วาสนาทิพย์ อายุ 23 ปี
       9.จ.ส.ต.แวอามิน แวและ อายุ 38 ปี
       10.ส.ต.อ.ชัชวาลย์ พาคะ อายุ 35 ปี
       11.ส.ต.อ.สุชาติ ราชมณี
       12.พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดเฉียดที่บริเวณศีรษะเล็กน้อย
 
รายชื่อชาวบ้านที่บาดเจ็บ ได้แก่
       1.นายสันติ แก้ววิไล อายุ 44 ปี
       2.นายอับดุลเลาะ การี อายุ 47 ปี
       3.นางเสาวลักษณ์ สมัน อายุ 23 ปี
       4.นางเสวภา สรรพช้าง อายุ 52 ปี
       5.นายซอพปรี สหพฤทธานนท์ อายุ 36 ปี
       6.นางนิตยา แก้วอินทร์ อายุ 51 ปี
       7.นายธีระศักดิ์ พรหมเชียรรัตน์ อายุ 47 ปี
       8.นายฉัตรอรุณ จีรสิทธิ์ อายุ 55 ปี
       9.นางสายใจ พรหมเชียรรัตน์ อายุ 51 ปี
       10.ร.ต.ต.กิจติ แสงหทัย อายุ 72 ปี
       11.น.ส.อัญชรา มะดือเระ อายุ 35 ปี
       12.นางนันทพร เสรีกุล อายุ 51 ปี
       13.น.ส.อาซียะ มาซู อายุ 16 ปี
       14.นางลิ้ม ประศาสน์ศิลป์ อายุ 79 ปี
       15.ด.ช.นพกร ชูพันธ์ อายุ 3 ปี
       16.นางเกสร อโนทัยสถาพร อายุ 45 ปี
       17.นายกำธร อโนทัยสถาพร อายุ 48 ปี
       18.นายนิรันดร์ ศรีทอง อายุ 43 ปี
       19.ด.ช.ภูริ อโนทัยสถาพร อายุ 3 ปี
       20.ส.ต.ท.สุชาติ จุลราช อายุ 35 ปี
       21.นายโยฮัน สาดออุมา อายุ 29 ปี
       22.น.ส.สุมาลี ยีสมาน อายุ 49 ปี
       23.นายวสันท์ แก้ววิไล อายุ 25 ปี
       24.นางฟูซียะ อาลี อายุ 38 ปี
       25.น.ส.นูรไอนี มามะ อายุ 17 ปี
       26.นายสะบะ สะแลแม อายุ 69 ปี
       27.ด.ญ.อัลฟาเดียร์ มะเกะรอ อายุ 15 เดือน
       28.นายมะแอ เส็ง อายุ 63 ปี
       29.นายอานุวา มิง อายุ 26 ปี
       30.นางรอนะ อาบู อาบู อายุ 55 ปี
       31.ด.ช.อามินทร์ เยะแล อายุ 12 ปี
       32.นายดอเลาะ เวาะเล็ง อายุ 45 ปี
       33.นายธรรมนูญ พรหมเชียรรัตน์ อายุ 56 ปี
       34.นายมุขตารี สาแมแน็ง อายุ 18 ปี
       35.นายอับดุลฟาริค การี
       36.นางนฤษร อโณทัยสถาพร
       37.นายนิมิต แก้วอินทร์
       38.นางทัศนีย์ เสรีกุล
       39.นายสืบพงษ์ อโณทัยสถาพร
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท