Skip to main content
sharethis

อัลจาซีร่าสัมภาษณ์ ปธน.ของลิเบีย ต่อความเห็นเรื่องโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ เผย อาจเป็นฝีมือของกลุ่มอัล-เคด้า และเหตุรุนแรงครั้งนี้มีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว เป็นความพยายามล้างแค้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนา

 
 
 
ที่มาภาพ: วีดีโอ Aljazeera
 
15 ก.ย. 2012 - ประธานาธิบดีลิเบียกล่าวว่าการโจมตีสถานกุงสุลสหรัฐฯ ในกรุงเบงกาซี ประเทศลิเบีย ที่เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทางการทูตสหรัฐฯ เสียชีวิต 4 ราย และชาวลิเบียเสียชีวิต 10 ราย เป็นการกระทำของ "จอมวางแผนผู้มีประสบการณ์" ที่วางแผนตระเตรียมเอาไว้ก่อน
 
"ผมคิดว่าเป็นฝีมือกลุ่มอัล-เคด้า" ประธานาธิบดี โมฮัมเม็ด อัล-มาการีฟ กล่าวให้สัมภาษณ์ต่ออัลจาว๊ร่าเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อต่างประเทศครั้งแรกตั้งแต่เกิดเหตุการรุนแรงเมื่อสามวันก่อน
 
"ถ้าหากคุณลองพิจารณาการใช้อาวุธพวกอาร์พีจีและอาวุธหนักอื่นๆ มันก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องที่เตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว" ปธน.ของลิเบียกล่าว "มันเป็นการล้างแค้นอย่างสกปรก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนาเลย"
 
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมารักษาการรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของลิเบีย ได้กล่าวหาว่าการโจมตีมาจากกลุ่มผู้ภักดีต่อกัดดาฟี อดีตประธานาธิบดีเผด็จการที่ถูกโค่นล้มไปเมื่อปีที่แล้ว
 
ขณะที่กลุ่มผู้ภักดีต่อกัดดาฟียังคงแสดงตัวอยู่ในลิเบีย แต่อัล-มาการีฟ ก็กล่าวว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ
 
ปธน.ของลิเบีย เปิดเผยว่ามีกลุ่มอัล-เคด้าจำนวนไม่มากยังคงอยู่ในลิเบีย แต่พวกเขาก็ได้รับผลประโยชน์จากช่องว่างของหน่วยงานความมั่นคง และสามารถแทรกซึมเข้าไปในหน่วยรักษาความมั่นคงได้
 
 
การเพิ่มจำนวนอาวุธ
 
ปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในลิเบียคือการเพิ่มจำนวนอาวุธซึ่งหลงเหลือมาจากความขัดแย้งในช่วงปี 2011 ที่มีกลุ่มติดอาวุธล้มล้างอดีตผู้นำมุมมาร์ กัดดาฟี ลงได้ รวมถึงการที่รัฐบาลกลางถูกทำให้อ่อนแอลงจากกลุ่มเผ่าพันธุ์ที่เป็นปฏิปักษ์
 
ปธน.อัล-มาการีฟ กล่าวต่ออัลจาซีร่าว่า เขาจะสั่งหารให้มีการปลดอาวุธกลุ่มติดอาวุธ "แน่นอนว่าเราต้องอาศัยความร่วมมือจากฝ่ายกลุ่มติดอาวุธ และก่อนหน้านั้นก็จำต้องพึ่งพากองทัพ"
 
มีประชาชนราวหนึ่งร้อยคนชุมนุมประท้วงกันที่จัตุรัสทาห์เรียของกรุงเบงกาซีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา มีหลายคนเรียกร้องให้มีการเพิ่มกำลังหน่วยรักษาความสงบในประเทศและให้กลุ่มติดอาวุธสลายตัวไป
 
คาลิด เอล คาดีคี ผู้ร่วมจัดการประท้วงบอกว่ารัฐบาลควรเสริมกำลังให้กองทัพและตำรวจมากกว่านี้ เพื่อให้กลุ่มหัวรุนแรงไม่สามารถก่อเหตุรุนแรงได้อีก
 
เมื่อถามว่าเขามีความเชื่อมั่นในคำสัญญาของปธน.ที่จะปลดอาวุธกลุ่มติดอาวุธหรือไม่ คาลิด เอล คาดีคี ก็บอกว่า ปธน. อัล-มาการัฟ ให้สัญญษไว้มากมายแต่ไม่เคยทำอะไร
 
คาดิยา ฟิตอร์ ผู้ที่เข้าร่วมประท้วงพร้อมลูกสาว 2 คนถือป้ายเรียกร้องให้รัฐบาลใช้อำนาจกับกลุ่มติดอาวุธ
 
"พวกเราต่อต้านการก่อการร้ายและความรุนแรงต่อสถานกุงสุลสหรัฐฯ" คาดิยา กล่าว "พวกเราต้องการรักษาสัมพันธ์อันดีกับประชาชนชาวอเมริกัน พวกเขาช่วยเราในการปฏิวัติ"
 
มีตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าภาครัฐของลิเบียเปราะบางต่อการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธ คืกเหตุการณ์ในช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ย. ที่พื้นที่น่านฟ้าของกรุงเบงกาซีถูกสั่งห้ามหลายชั่วโมงหลังจากที่นักรบกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขู่ว่าจะยิงเครื่องบินโดรนของสหรัฐฯ ในพื้นที่
 
 
 
ที่มา:
 
Benghazi attack on US consulate 'pre-planned', Aljazeera, 15-09-2012
http://www.aljazeera.com/news/africa/2012/09/201291512714470776.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net