Skip to main content
sharethis

24 ส.ค.55 เวลา 9.30 น. บริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ สองผู้ต้องขังจากคดีมาตรา 112 คือ สุชาติ นาคบางไทร หรือ วราวุธ (สงวนนามสกุล)  และ สุริยันต์ (สงวนนามสกุล) ได้รับการปล่อยตัวจากการพระราชทานอภัยโทษตาม พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2555  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม โดยมีญาติและคนเสื้อแดงร่วมต้อนรับ 

ทั้งนี้ นายวราวุธถูกศาลพิพากษา จำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดเหลือ 3 ปี แต่รวมเวลาที่อยู่ในเรือนจำก่อนได้การอภัยโทษทั้งสิ้น 1 ปี กับเกือบ 10 เดือน ส่วนนายสุริยันต์ ศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี 1 เดือน สุริยันต์รับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือลงโทษ 3 ปี 15 วัน รวมเวลาที่อยู่ในเรือนจำก่อนได้การอภัยโทษทั้งสิ้น 1 ปี กับเกือบ 11 เดือน

 

นายสุวิทย์ และนางสุรินทร์ บิดาและมารดาของนายสุริยันต์ เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษฯ ตั้งแต่เวลา 6.00 น. เพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับการอภัยโทษที่บริเวณบอร์ดของเรือนจำ โดยในตอนแรกทั้งคู่ไม่พบชื่อของลูกชายแต่อย่างใด จนเมื่อตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่และผู้มารอรับ ก็พบว่าชื่อนายสุริยันต์อยู่ในลำดับสุดท้ายของรายชื่อผู้ได้รับการปล่อยตัวในชุดที่ 19 ซึ่งอยู่ในกระดาษเล็กๆ อีกใบหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพี่ชายของนายวราวุธก็ได้เดินทางมารับน้องชายเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีนางธิดา ถาวรเศรษฐ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.เดินทางมาในเวลาราว 9.00 น. รวมทั้งนางสาวสุดา รังกุพันธุ์ จากกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล และคนเสื้อแดงอีกราว 40 คนที่รู้ข่าวก็มารอต้อนรับผู้ได้รับการปล่อยตัวด้วย  อีกทั้งผู้สื่อข่าวหลายสำนักให้ความสนใจการปล่อยตัวครั้งนี้อยู่ด้านนอกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

 

ในส่วนรูปแบบการปล่อยตัว ทางเรือนจำได้จัดการปล่อยนักโทษเป็นชุดๆ ชุดละราว 30 คน โดยแต่ละชุดปล่อยตัวห่างกัน 15 นาที รวมทั้งสิ้นการปล่อยตัวในรอบนี้มีนักโทษได้รับการอภัยโทษจำนวน 304 คน โดยทางเรือนจำอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีการเมืองทั้งสองในชุดที่ 2 เนื่องจากเห็นว่ามีผู้มารอต้อนรับมาก

จนเวลาราว 9.30 น.ผู้ต้องหาทั้งสองก็เดินออกมาจากเรือนจำ ท่ามกลางเสียงแสดงความยินดีของผู้มาต้อนรับ โดยมีการนำพวงมาลัยและดอกไม้มอบให้กำลังใจผู้ได้รับการปล่อยตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวราวุธเดินออกมาในชุดสีขาว ขณะที่นายสุริยันต์อยู่ในเสื้อสีแดง ที่มีการเขียนลายเซ็นและข้อความจากผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่ยังคงอยู่ในเรือนจำ เช่น “โชคดีนะน้องรัก เขาปล่อยน้องแล้ว” (หนุ่ม แดงนนท์), “ความมั่นคงของชาติคือความมั่นคงของประชาชน” (สุรภักดิ์), หรือเครื่องหมาย 112 และขีดทับ โดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, ลายเซ็นสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าหลังจากการปล่อยตัว นายวราวุธยังได้อยู่ในบริเวณเรือนจำ เพื่อรอเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจเพื่อนนักโทษการเมืองที่ยังอยู่ภายในเรือนจำ โดยมีการสั่งอาหารเยี่ยมเพื่อนนักโทษด้วย ขณะที่นายสุริยันต์พร้อมทั้งบิดามารดาได้เดินทางไปยังเรือนจำหลักสี่ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจนักโทษการเมืองในคดีอื่นๆ อีกด้วย ก่อนเดินทางกลับที่พักต่อไป

นายวราวุธได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวอีกว่าตนจะมีการกิจกรรมเดี่ยวโทรโข่ง “Talk Show แห่ง (สุ) ชาติ” ในวันเสาร์ที่ 3 พ.ย.55 เพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารในนามกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และประสบการณ์เกี่ยวกับคดีความและเรื่องราวในเรือนจำของตน โดยจะมีการจำหน่ายบัตร 2 ราคาคือ ราคา 112 บาทจำนวน 500 ที่นั่ง และ 2,000 บาทจำนวน 50 ที่นั่ง โดยสถานที่และรูปแบบการจำหน่ายบัตรจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

 

หมอนิรันดร์ เยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำหลักสี่

ที่เรือนจำหลักสี่ ซึ่งมีผู้ต้องขังทางการเมืองที่เกี่ยวพันกับการชุมนุมปี 53 ถูกคุมขังอยู่ 20 คน รวมถึงนายเจ๋ง ดอกจิก ที่ศาลเพิ่งถอนประกันตัว มีการจัดกิจกรรมร้องเพลงประจำสัปดาห์โดยกลุ่มคนเสื้อแดงรายย่อยต่างๆ ที่ร่วมกันดำเนินกิจกรรมกันมาเป็นเวลานานแล้ว   

เวลาประมาณ 13.00 น. น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานอนุกรรมการสิทธิชุดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง โดยระบุสาเหตุของการเข้าเยี่ยมครั้งนี้ว่า เมื่อครั้งได้ร่วมงานเสนาปฏิญญาหน้าศาล คนเสื้อแดงได้ร้องเรียนและอยากให้ตนเดินทางมาดูแลผู้ต้องขังที่นี่ซึ่งเรียกร้องสิทธิของผู้ต้องขัง จึงได้เดินทางมา

น.พ.นิรันดร์ เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังราวครึ่งชั่วโมงว่า เบื้องต้นได้พูดคุยกับผู้ต้องขังจังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 4 รายซึ่งมีโทษหนักจำคุกคนละ 30 กว่าปี และจะกลับมาสอบถามคนที่เหลือเป็นรายบุคคลทุกคน เพื่อจัดเก็บข้อมูลและนำเสนอรายงานต่อหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง นอกจากนี้เอกสารรายงานของกรรมการสิทธิก็สามารถใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในศาลได้เพื่อได้รับสิทธิประกันตัว

จากนั้น น.พ.นิรันดร์ได้ใช้ไมโครโฟนกล่าวสวัสดีทักทายผู้ต้องขังรายอื่นๆ บนตึกและชี้แจงถึงการมาเยี่ยมของกรรมการสิทธิในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสุริยันต์และครอบครัวก็ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังที่หลักสี่ทันทีหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net