Skip to main content
sharethis

6 สมาคมวิทยุ ขอเพิ่มกำลังสัญญาณส่งเป็น 500 วัตต์ เสาส่งสัญญาณสูง 60 เมตร และไม่กำหนดรัศมีครอบคลุมการส่ง พ.อ.นที แจงอยู่ระหว่างพิจารณา ชัดเจน 22 ส.ค.นี้ ด้านเครือข่ายวิทยุชุมชนอีกกลุ่ม จี้ กสทช.เปิดงบประชาพิจารณ์ ถามสัดส่วนความเห็นที่ได้ต่อการปรับแก้นโยบาย

(14 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กลุ่มผู้ประกอบการสถานีวิทยุชุมชน 6 สมาคม ได้แก่ สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย วิทยุเพื่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สมาคมวิทยุท้องถิ่นอุดรธานี ชมรมวิทยุกระจายเสียงจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มผู้ประกอบการวิทยุเพื่อสังคมและพระพุทธศาสนาสังกัดมหาเถรสมาคม สมาคมกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ รวมตัวยื่นหนังสือให้ กสทช. ทบทวนร่างประกาศหลักเกณฑ์ การกำหนดเงื่อนไขในร่างหลักเกณฑ์การกำหนดเทคนิคและอุปกรณ์ เครื่องส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียง โดยเห็นว่าหลักเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนด ไม่สอดคล้องกับการกระจายเสียงในปัจจุบัน

นายเจริญ ถิ่นเกาะแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย กล่าวว่า วันนี้มายื่นข้อเสนอกสทช.ใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ให้กสทช.ยกเลิกข้อกำหนดที่ระบุให้วิทยุชุมชนใช้กำลังส่ง 100 วัตต์ โดยเสนอให้ใช้กำลังส่งไม่เกิน 500 วัตต์ 2.เสนอให้เปลี่ยนจากที่กำหนดให้ใช้เสาส่งสัญญาณสูง 40 เมตร เป็นใช้เสาส่งสัญญาณสูงไม่เกิน 60 เมตร และ 3.ให้ยกเลิกการกำหนดรัศมีการกระจายเสียงที่ระบุว่าไม่เกิน 15 กิโลเมตร เนื่องจากอยากให้เรื่องรัศมีที่ครอบคลุมเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะกำลังส่ง 500 วัตต์สามารถส่งได้ครอบคลุม 15-20 กิโลเมตร รวมทั้งการกำหนดรัศมีครอบคลุมการส่งของ กสทช.ไม่ตอบโจทย์ลักษณะความแตกต่างในเชิงภูมิศาสตร์และบริบทด้านพื้นที่ของแต่ละภูมิภาค

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. ในฐานะประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (กสท.) สำหรับข้อเรียกร้องของทั้ง 6 สมาคมวิทยุที่มายื่นหนังสือนั้น กสทช.กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา คาดว่าจะได้ความชัดเจนในการประชุม กสทช. วันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าร่างประกาศหลักเกณฑ์ การกำหนดเงื่อนไขในร่างหลักเกณฑ์การกำหนดเทคนิคและอุปกรณ์ เครื่องส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียง จะสามารถประกาศใช้ได้ในต้นเดือน ก.ย.นี้

พ.อ.นที กล่าวด้วยว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และหน้าที่ของ กสทช.คือการทำให้สิ่งที่มีอยู่มีประโยชน์สูงสุด โดยเรื่องของความแตกต่างในเชิงภูมิศาสตร์และบริบทด้านพื้นที่ของแต่ละภูมิภาคก็จะนำมาพิจารณาด้วย ซึ่งวันนี้ข้อเรียกร้องคือ ทุกคนอยากได้กำลังส่งเพิ่มขึ้น และเสาส่งสัญญาณสูงขึ้น ดังนั้นบอร์ด กสท.ต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
 

 

จี้ กสทช.เปิดงบประชาพิจารณ์ ถามสัดส่วนความเห็นที่ได้ต่อการปรับแก้นโยบาย
วันเดียวกัน ศูนย์ศึกษากฎหมายและนโยบายสื่อมวลชน เครือข่ายสหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ (สวชช.) และสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย (สวทท.) ออกจดหมายเปิดผนึกถึง กสทช. ถึงประเด็นทิศทางของวิทยุกระจายเสียงขนาดเล็กในประเทศไทย มีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย

1.กสทช.ควรเปิดเผยตัวเลขงบประมาณที่ใช้ในการทำประชาพิจารณ์ พร้อมประเมินประสิทธิภาพการใช้งบประมาณด้วย ความเห็นที่ได้รับมีคุณค่าหรือประโยชน์ต่อ กสทช.ในการนำมาปรับใช้หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายตามที่ได้รับฟังมาเป็นสัดส่วนเท่าใด

2.ขณะจัดทำประกาศฯ หลักเกณฑ์อนุญาตทดลองประกอบกิจการของสถานีวิทยุขนาดเล็ก กสทช.ควรมีมาตรการควบคุมสถานีวิทยุหลัก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเดิมให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขเรื่องกำลังส่งที่ได้รับอนุญาตพร้อมกันไปด้วย

3.การพิจารณาออกใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ควรคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ นอกเหนือจากการกำหนดขนาดกำลังส่ง ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคด้วย เช่น ด้านเนื้อหา ความหนาแน่นของประชากร จำนวนที่เป็นไปได้ของคลื่นความถี่เพื่อให้การส่งกระจายเสียงมีประสิทธิภาพ

4.ตั้งคณะทำงานกำกับดูแลความเรียบร้อยในระดับพื้นที่ เพราะจะเข้าใจปัญหาในพื้นที่และเข้าถึงผู้ประกอบการได้ดีกว่าส่วนกลาง และ 5.เปิดเผยข้อมูลด้านเทคโลโนยีดิจิตอลในอนาคตที่เกี่ยวกับวิทยุขนาดเล็ก เพื่อป้องกันการหลอกลวงหาประโยชน์จากกลุ่มทุนที่ขายเครื่องส่งมาอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง ปัจจุบันมีสถานีวิทยุที่ออกอากาศทั้งที่ได้รับใบอนุญาต และไม่มีใบอนุญาต กว่า 7,000 สถานี ซึ่ง กสทช.ยังอยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานในหลายๆ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการกระจายเสียงในขณะนี้ และคาดว่าจะจัดระเบียบทั้งหมดได้เรียบร้อยภายในปลายปีนี้
 

 

ที่มา: บางส่วนจาก http://www.dailynews.co.th/technology/149464

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net