Skip to main content
sharethis

ผู้สื่อข่าวรายงานกำหนดการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค. 55 นี้ที่ จ.สุรินทร์

หลังจากวันที่ 20 มิ.ย.55 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีเขื่อนราษีไศล ตามมติ ครม. วันที่ 12 มิ.ย. 55  ให้แก้ไขปัญหากรณีผลกระทบจากเขื่อนราษีไศลให้แล้วเสร็จโดยด่วน  เพื่อให้เป็น ‘ราษีไศลโมเดล’ และเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการแก้ไขปัญหากรณีอื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะ ผู้เดือดร้อนจากโครงการ โขง ชี มูล  

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมวันนั้นว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในวาระที่รัฐบาลบริหารประเทศ และสั่งกำกับให้ข้าราชการทุกระดับตั้งใจทำงานให้บรรลุเป้าหมาย จ่ายเท่าไรรัฐบาลยอมจ่ายหากตรวจสอบแล้วเป็นไปตามความเป็นจริง เพราะเป็นเงินภาษีของชาวบ้านเอง ชาวบ้านจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังสักที ท่านายกฯ ได้มีคำสั่งให้แก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 7-15 วัน หลังจากนั้นรองนายกฯ ได้ สั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดเล็กมาดำเนินการนี้โดยเฉพาะ มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจน

นายประดิษฐ์ โกศล ตัวแทนสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนราษีไศล กล่าวว่า บัดนี้เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว นับจากการประชุมของคณะอนุกรรมการในครั้งแรกวันที่ 22 มิถุนายน 55 ซึ่งตนเองก็เป็นคณะกรรมการ่วมด้วย พวกเราต้องสลดใจอีกครั้งที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากจากคนรากหญ้ากลับละเลยเพิกเฉยต่อปัญหาความทุกข์ร้อนของคนยากคนจน รัฐบาลเตะถ่วงเพื่อซื้อเวลาเรื่อยไป วันนี้ ณ ที่นี้ เรา, สมัชชาคนจน ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ทำหน้าที่ให้สมกับที่คนรากหญ้าไว้วางใจ เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาล

นางสำราญ สุรโคตร ตัวแทนสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนหัวนา ปัจจุบันรัฐบาล โดยกรมชลประทาน ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีเขื่อนหัวนาให้แล้วเสร็จ โดยอ้างเสมอว่าไม่มีงบประมาณดำเนินการ แต่วันนี้กรมชลประทานโดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง จะนำเสนอโครงการก่อสร้างผนังกั้นน้ำอย่างเต็มพื้นที่ทั้งบริเวณเขื่อนหัวนาและเขื่อนราษีไศล และโครงการดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องมาตลอดว่าหากจะมีการดำเนินโครงการที่มีผลกระทบกับราษฎรในพื้นที่ จะมีการเปิดเผยข้อมูลและมีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นรายกรณี วันนี้รัฐบาลและกรมชลประทานทำให้เราหมดความเชื่อมั่นใจต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของคนจน

นางผา กองธรรม นายกสมาคมคนทาม กล่าวว่า การต่อสู้ของคนจนจำเป็นต่อดำเนินต่อไปตราบใดที่สังคมไทยยังเอารัดเอาเปรียบคนจนอย่างพวกเรา และนายกยิ่งลักษณ์ มาที่ จ.สุรินทร์ เราก็จะเดินทางไปถามว่าท่านมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้พวกเราคนทามหรือเปล่า 20 ปี ที่ผ่านมาสามารถพิสูจน์เราว่า การสร้างเขื่อนราษีไศลสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงกับชุมชนท้องถิ่น วันนี้รัฐบาลนายกปู ยังมีความพยายามผลักดัน โครงการผันน้ำขนาดใหญ่ได้แก่ โครงการ โขง เลย ชี มูล ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบรอบที่สอง ทั้งที่ปัญหาเก่าไม่ยอมแก้ไขให้แล้วเสร็จ แต่พยายามสร้างปัญหาใหม่กับชุมชนท้องถิ่น

“วันนี้เราอยากจะตั้งคำถามว่าการสร้างเขื่อนมีใครได้ประโยชน์บ้าง รัฐบาลต้องให้ชัดเจน เริ่มจาก ใครรับเหมาก่อสร้าง มีการป้องกันการคอรัปชั่นหรือเปล่า หากสร้างแล้วมีผลกระทบการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเป็นเช่นไร จากที่ดิฉันได้ศึกษารายงานผลการศึกษาวิจัยกรณีผลกระทบจากโครงการ โขง เลย ชี มูล ดิฉันว่าไม่แตกต่างไปจากงานศึกษาวิจัยที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยใส่ใจดำเนินการอย่างจริงจังเพราะเอาหลวมๆ เท่านั้น ปัจจุบันนี้กรณีเขื่อนราษีไศลก็ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จได้ ทั้งการจ่ายค่าชดเชยที่ดินทำดิน การจ่ายค่าชดเชยการสูญเสียอาชีพ และอีกหลายประเด็นรัฐบาลทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ตลอดระยะเวลากว่า 10 รัฐบาลที่ผ่านมา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 กรกฎาคม 55 เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ โขงชีมูล จำนวนกว่า 500-1,000 คน เตรียมเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีที่ จ.สุรินทร์ ด้วย โดยมีข้อเรียกร้องต่อนายกฯ ดังนี้ 1) ข้อเรียกร้องของเครือข่าย คือ หยุดโครงการ โขง เลย ชี มูล  และแก้ไขปัญหาผลกระทบจากเขื่อนทั้งหมดในโครงการ โขงชีมูล ให้แล้วเสร็จ 2) การแก้ไขปัญหารายกรณี โดยเฉพาะกรณีเขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนา

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net