อัสซาด ปธน. ซีเรียตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2012 สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรียได้มีมติจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สองเดือนหลังจากที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งถูกบอยคอตต์จากฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีขึ้นในขณะเดียวกับที่ฝ่ายนักกิจกรรมรายงานว่ามีการ "สังหารหมู่" เกิดขึ้นในเมือง ดิแอร์ อัล-ซอร์ ทางฝั่งตะวันออก จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน นอกจากนี้แล้วยังเกิดเหตุการณ์ที่กองทัพซีเรียยิงเครื่องบินของตุรกีตกโดยอ้างว่าเครื่องบินได้รุกล้ำน่านฟ้าของซีเรียด้วย
สถานีโทรทัศน์ของซีเรียรายงานว่า "ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ประกาศกฤษฎีกา 210 ให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้นายกรัฐมนตรี ดร. เรียด ญิฮาบ"
โทรทัศน์ซีเรียยังได้เปิดเผยอีกว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ วาลิด อัล-มูอะเล็ม รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีมหาดไทยยังคงผู้ดำรงตำแหน่งเดิมไว้ ขณะที่รมต.การค้าภายในและการคุ้มครองผู้บริโภค, รมต.เศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศ และ รมต.พัฒนาที่อยู่อาศัยและการก่อสร้าง มีการเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งใหม่ นอกจากนี้ยังมีก่ารตั้งกระทรวงใหม่ๆ เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ด้วย
โดย คาดรี จามิล คนกลางที่บอกว่าตนเป็นปากเสียงให้ทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายรัฐบาลได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรมต.การค้าภายในและการคุ้มครองผู้บริโภค
ดร.ญิฮาบ ซึ่งเคยเป็นรมต. กระทรวงเกษตรมาก่อน เป็นสมาชิกพรรคบาธของอัสซาดที่ปกครองซีเรียมากว่า 4 ทศวรรษแล้วตั้งแต่ตอนที่บิดาของเขา ฮาเฟซ อัล-อัสซาด ขึ้นมามีอำนาจในปี 1970
ตำแหน่ง รมต. ระดับสูงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ภักดีต่อพรรคบาธ นักวิจารณ์กล่าวว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีของซีเรียเป็นแค่การกระทำในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น และอำนาจยังคงอยู่ในมือของอัสซาดกับกลุ่มวงในของครอบครัวและชนชั้นนำในหน่วยรักษาความสงบ
ก่อนหน้านี้อัสซาดเคยอ้างว่า การเลือกตั้งส.ส. ในวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้บอยคอตต์บอกว่าการเลือกตั้งนี้เป็นปาหี่ และเรียกร้องให้อัสซาดลงจากอำนาจ
การสังหารยังคงดำเนินต่อไป
แม้จะมีการประกาศคณะรัฐมนตรีใหม่แล้ว แต่เหตุสังหารก็ยังคงเกิดขึ้น โดยแหล่งข่าวจากโรงพยาบาลเมือง ดิแอร์ อัล-ซอร์ กล่าวว่าผู้ที่ถูกสังหารมีผู้หญิงสามคนและเด็กอีกหลายคนเกือบทั้งหมดเป็นประชาชนธรรมดาที่ถูกสังหารโดยการยิงระเบิดใส่บ้านของพวกเขาในเขตสนามบินเก่า แหล่งข่าวบอกอีกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะมากกว่า 28 ราย เนื่องจากมีจำนวนหนึ่งในห้องเก็บศพที่ยังไม่ได้ระบุตัวว่าเป็นใคร
นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานเหตุรุนแรงจากเมืองฮอม โดยมีประชาชน 5 คน ถูกกองกำลังรัฐบาลสังหารด้วยอาวุธ ปืนและปืนใหญ่ รวมถึงอีกสองรายในฐานที่มั่น อัล-กัสแซร์ ของกองกำลังฝ่ายต่อต้าน และอีกรายในเขตเดียวกัน นักกิจกรรมรายงานว่ากองทัพรัฐบาลยิงปืนใหญ่เข้าใส่ย่านคาลดิเยห์ และย่าน บาบา อัมร์ เพื่อพยายามเข้าควบคุมพื้นที่อีกครั้ง
ในเมืองฮามา มีรายงานว่าประชาชนสองรายถูกสังหารจากการลอบดจมตีของฝ่ายรัฐบาล อีกรายหนึ่งถูกสังหารในขณะที่มีการปะทะระหว่างทั้งสองฝ่าย ขณะที่ในเดรามีประชาชนถูกสังหารโดยการโจมตีของรัฐบาลหนึ่งราย ในเขตอเล็ปโปมีประชาชนรวมถึงกองกำลังกบฏถูกสังหารเสียชีวิตสองราย
กรณีเครื่องบินตุรกี
ในวันเดียวกันประธานาธิบดีตุรกี อับดุลลาห์ กูล กล่าวถึงกรณีที่เครื่องบินรบของตุรกีถูกกองทัพซีเรียยิงตกเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ว่า เครื่องบินของตุรกีอาจไปรุกล้ำน่านฟ้าของซีเรียเข้า โดยที่เครื่องบินดังกล่าวได้บินลาดตระเวนตามกิจวัตรประจำวันและพุ่งผ่านเขตน่านฟ้าในระยะทางเล็กน้อย
ฝ่ายซีเรียเองก็ยืนยันว่าพวกเขายิงเครื่องบินดังกล่าวตกลงไปในทะเลเมดิเตอเรเนียน โดยกระทำตามหลักกฏหมายที่ระบุถึงสถานการณ์เช่นนี้
สำนักข่าว BBC รายงานว่า แม้ตุรกีและซีเรียที่ต่างก็เป้นสมาชิกของนาโต้ จะเคยเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมาก่อน แต่ความสัมพันธ์ก็เสื่อมลงหลังเกิดเหตุลุกฮือต่อต้าน ปธน. อัสซาดในช่วงเดือน มี.ค. 2011 มีผู้อพยพชาวซีเรียมากกว่า 30,000 คน อพยพหนีความรุนแรงในประเทศข้ามเขตแดนไปยังตุรกี
จากรายงานข่าวของสำนักข่าวอนาโตเลียของรัฐบาลตุรกี ประธานาธิบดีกูลกล่าวอีกว่าทางรัฐบาลตุรกีไม่สามารถเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าเครื่องบินของตุรกีถูกซีเรียยิงตกได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาทางลบแต่เป็นเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นเนื่องจากความเร็วของเครื่องบินเจ็ท
"เป็นเรื่องปกติที่เครื่องบินเจ็ทบางครั้งก็บินข้ามผ่านพรมแดน,,,เมื่อคุณลองพิจารณาความเร็วเหนือน่านน้ำแล้ว" กูลกล่าว
กูลบอกอีกว่าจะมีการสืบสวนว่าเครื่องบินของตุรกีถูกยิงในน่านฟ้าของตุรกีเองหรือไม่ และจะมีการติดต่อขอความร่วมมือกับฝ่ายซีเรียแม้จะเคยมีท่าทีหมางเมินกันทางการทูตในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งกูลบอกว่าเขาถอนทูตจากซีเรียเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการติดต่อกัน
โจนาธาน เฮด นักข่าว BBC รายงานจากอิสตันบูล บอกว่ารัฐบาลตุรกีจริงจังมากกับเรื่องที่เครื่องบินถูกยิงตก แต่ก็แสดงออกอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะมีความไม่พอใจกรณีความทุกข์ยากของประชาชนในซีเรีย ตุรกีก็ไม่หวังจะใช้การแทรกแซงทางการทหาร และคาดว่าจะไม่มีการใช้กำลังทหารตอบโต้เหตุการณ์นี้เช่นกัน
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. กองทัพตุรกีกล่าวว่าพวกเขาขาดสัญญาณติดต่อกับเครื่องบิน F-4 Phantom ในช่วงเวลา 11:58 น. (08:58 น. ตามเวลามาตรฐานโลก) ขณะที่บินข้ามไปยังเขตปกครองฮาเทย์ราว 90 นาทีหลังจากออกจากฐานอากาศยานเออร์ฮัก ในเขตปกครองมาลาเทีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
โดยต่อมากองทัพฝ่ายซีเรียรายงานว่ามี "เป้าหมายทางอากาศไม่สามารถระบุตัวตนได้" ล่วงล้ำผ่านน่านฟ้าของซีเรียทางตะวันตกในเวลา 11:40 น. (08.40 น. ตามเวลามาตรฐานโลก) โดยร่องลงต่ำและด้วยความเร็วสูง ซึ่งต่อมาซีเรียได้ใช้อาวุธต่อต้านอากาศยานยิงโดนวัตถุดังกล่าวโดยตรงเป็นระยะห่าง 1 กม. จากชายฝั่ง จนกระทั่งวัตถุดังกล่าวระเบิดลุกเป็นไฟและตกลงสู่ทะเลห่างออกไป 10 กม. จากหมู่บ้าน โอม อัล-ตูยอร์ ชายฝั่งเขตลาคาเทีย ภายใต้น่านน้ำของซีเรีย
ที่มาเรียบเรียงจาก:
Syria forms government amid more violence, Aljazeera, 23-06-2012
Turkish warplane downed by Syria 'may have crossed border', BBC, 23-06-2012
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)