Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

Sarkozy !! C’est fini !! Sarkozy !! C’est fini
ซาโกซี มันจบแล้ว ซาโกซีมันจบแล้ว

ณ ลานบาสติลอันเป็นสถานที่สัญลักษณ์สำคัญในการปฏิวัติฝรั่งเศสและเป็นสถานที่รณรงค์ใหญ่ของพรรคสังคมนิยม ทันทีที่การประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อเวลาท้องถิ่นประมาณ ๒๐ นาฬิกา ของวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๐๑๒ ประชาชนผู้สนับสนุนพรรคสังคมนิยมต่างโห่ร้องอย่างดีใจทั่วลานบาสติล เพื่อแสดงถึงชัยชนะของ François Hollande จากพรรคสังคมนิยมที่เหนือกว่า Nicolas Sarkozy จากพรรคฝ่ายขวา UMP ด้วยคะแนนเฉียดฉิว 51.7% และ 48.3% นับเป็นครั้งแรกในรอบประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐที่ห้าที่ ประธานาธิบดีคนเก่าพ่ายแพ้การเลือกตั้งและไม่ได้เป็นประธานาธิบดีติดต่อกันสองวาระ และเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่พรรคฝ่ายขวาประสบความปราชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายนอันเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกของฝรั่งเศส มีผู้มาลงคะแนนเสียงทั้งสิ้นประมาณ 80% ซึ่งน้อยกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี2002ซึ่งมีผู้มาลงคะแนนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง86% ผลการเลือกตั้งผู้สมัครที่ได้คะแนนมาเป็นสองอันดับแรกปรากฏว่าไม่ผลิกโผแต่อย่างใด Hollande นำมาด้วยคะแนนเสียง 28.29% และ Sarkozy 27.02% ชัยชนะของผู้สมัครสองคนถูกกลบความเด่นไปสิ้นเชิงเมื่อสปอรต์ไลท์หันมาจับที่ Marine Le Pen ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายขวาจัดเข้าป้ายอันดับสามด้วยคะแนนเสียงสูงเป็นประวัติการณ์ 18.48%คะแนนที่เธอได้สูงกว่า Jean Marie Le Pen ผู้พ่อซึ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ Chirac เมื่อปี 2002 ปรากฏการณ์นี้สร้างความประหลาดใจให้วงการข่าวฝรั่งเศสตลอดจนต่างประเทศเช่นกัน เพราะเมื่อตอนเริ่มต้นรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งนั้น มารีน เลอ แปง ถูกปรามาสว่าจะได้คะแนนน้อยกว่าผู้พ่อ และถูกบารมีผู้พ่อกดดันเบียดบังการหาเสียงในครั้งนี้ เลอแปงเริ่มไปหาเสียง และปาฐกถาที่นิวยอร์คและถูกพิธีกรข่าวตลกฝรั่งเศสนำมาล้อเลียน และเมื่อมีการสัมภาษณ์ความคิดเห็นของคนทั่วไปที่มีต่อเธอก็มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับผลงานของพ่อเสมอ และตอนช่วงรณรงค์หาเสียงที่ Réunion และ martinique ซึ่งเป็นหมู่เกาะในแปซิฟิคที่อยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศส เลอแปงไม่ด้รับการตอบรับที่ดีจากคนท้องที่เลย ทันใดที่เธอลงมาจากเครื่องบิน ชาวพื้นเมืองต่างต้อนรับด้วยป้ายที่เขียนว่าออกไป ปรากฏการณ์ที่ฝ่ายขวาจัดได้คะแนนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ส่งผลให้เกิดคำถามว่า ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสและยุโรป เหตุการณ์ก่อการร้ายจากมุสลิมหัวรุนแรงในฝรั่งเศสเป็นตัวกระตุ้นให้แนวความคิดชาตินิยมขวาจัดกลับมาอีกครั้งหรือไม่ หรือที่แท้ประเทศฝรั่งเศสเองมีคนจำนวนมากมีความคิด ricisme อยู่แล้ว

เมื่อได้ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงมากสุดสองคนแล้ว การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองในวันที่ 6 พฤษภาคม ระหว่าง Hollande กับ Sarkozy ภายในเวลาสองสัปดาห์ที่เหลืออยู่นี้ทั้งสองฝ่ายจึงต้องชิงไหวชิงพริบกันเพื่อดึงคะแนนโหวตจากพรรคอื่นให้เป็นของพรรคตนเอง ทันทีที่ผลเลือกตั้งรอบแรกออก Jean Luc Mélenchon จากพรรคฝ่ายซ้ายผู้ได้คะแนนเสียงอันดับสี่ 10.8% และ Eva Joly จากพรรคกรีนด้วยคะแนนเสียง 2.1% ประกาศเรียกร้องให้ผู้ลงคะแนนเสียงให้พวกเขาไปโหวตให้ Hollande ในการเลือกตั้งรอบที่สอง ในขณะที่ Le Pen และ François Bayrou จากพรรคฝ่ายกลางด้วยคะแนนเสียง 8.9% ทั้งสองต่างสงวนท่าทีไว้

ดังนั้นปัจจัยที่ส่งผลให้ได้ชัยชนะคือ Hollande หรือ Sarkozy ใครจะโน้มน้าวคะแนนเสียงของ Le Pen และ Bayrou ได้มากกว่ากัน ผู้ที่ไม่ได้ติดตามการเมืองในฝรั่งเศสอาจเข้าใจว่าประชาชนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคขวาจัดอย่าง Marine Le Pen จะต้องโหวตให้ Sarkozy โดยอัตโนมัติในการเลือกตั้งรอบที่สอง อย่างไรก็ตามมันไม่แน่เสนอไป The Economist [1] วิเคราะห์ได้อย่างน่าสนใจว่า คนที่เลือก Le Pen จำนวนหนึ่งอาจไม่ได้เลือกเพราะว่ามีความคิดชาตินิยมก็ได้ แต่เพราะในสภาวะวิกฤติเช่นนี้ พวกเขาต้องการต่อต้านระบบการเมืองที่เป็นอยู่ ต้องการแสดงความผิดหวังต่อซาร์โกซี ต้องการให้ฝรั่งเศสออกจาก อียู ต้องการแสดงความโกรธต่อความไร้สามารถของฝรั่งเศส

หนังสือพิมพ์ Le Figaro [2] ได้รายงานข่าวผลสำรวจประชากรที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งรอบแรกซึ่งจัดทำโดย TNS/Sofres และ Ifopโดยโทรศัพท์ถามคนออกเสียง1500 คนและทางอินเตอร์เนตอีก3509คน ในทันทีที่เลือกตั้ง ผลที่ออกมาน่าสนใจเช่นกัน ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีเลือก Hollande 28%, Sarkozy 21%, Le Pen 20% แต่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65% กลับเลือก Sarkozy 43%, Hollande 23%, Le Pen 11%

ในขณะที่ซาร์โกซีมีเสน่ห์ดึดงดูดคะแนนเสียงผู้หญิงมากกว่า ด้วยคะแนน 31%, Hollande 28% แต่ผู้ลงคะแนนเสียงเพศชายลงคะแนนให้ Hollande เหนือกว่า Sarkozy ด้วยคะแนน 28% ต่อ 23%

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ผลการสอบถามปรากฏว่าคนงานกรรมกรจะตัดสินใจโหวตให้ Le Pen สูงที่สุด 29% นำหน้า Hollande ที่ได้ 28%, Sarkozy 18% และที่น่าผิดหวังที่สุดคือคนงานกรรมกรจะตัดสินใจเลือก Jean Luc Mélenchon จากพรรคฝ่ายซ้ายจัดที่มีนโยบายช่วยเหลือสังคมมากกว่า เพียงแค่ 11% ในขณะที่ประชากรที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสังคมดีกลับตัดสินใจเลือก ซาโกซีถึง 33% ซึ่งสูงกว่า Le Pen

ฃึ่งปรากฏการณ์ที่กรรมกรส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกฝ่ายขวาจัดนั้นเป็นที่เข้าใจว่า วิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงานมากขึ้น ในขณะที่แรงงานต่างชาติไร้ฝีมือจากเอเชีย แอฟริกา และ ยุโรปตะวันออก ต่างทะลักเข้ามาในประเทศและแย่งงานจากกรรมกรไร้ฝีมือชาวฝรั่งเศส นโยบายของฝ่ายซ้ายไม่ว่าจะเป็นของ Hollande หรือ Mélenchon ถึงแม้จะมีนโยบายช่วยเหลือสวัสดิการกรรมกรมากกว่า แต่ต่างไม่มีนโยบายกีดกันแรงงานต่างชาติหรือ ผลักดันกลับประเทศ ในขณะที่นโยบายของ Le Pen เป็นที่ชัดเจนว่าจะคุ้มครองแรงงานฝรั่งเศสก่อนด้วยการจะจัดหางานให้ชาวฝรั่งเศสก่อนชาวต่างชาติ หรือ การกำหนดให้ระบุสัญชาติในใบสมัครงานก็ตาม ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนส่งผลให้นโยบายของเธอถูกใจกรรมกรฝรั่งเศสมากกว่า (ต้องไม่ลืมด้วยว่า กรรมกรชาวต่างชาติไม่มีสิทธิเลือกตั้งในฝรั่งเศส เขาสงวนไว้ให้ผู้มีสัญชาติฝรั่งเศสเท่านั้นที่มีสิทธิเลือกตั้ง)

เพื่อดึงคะแนนเสียงจาก Le Pen, Hollande แสดงท่าทีต่อผู้โหวตคะแนนเสียงให้ Le Pen ได้ดีกว่าที่ Sarkozy ทำ Hollande กล่าวอย่างเข้าใจความโกรธแค้นของผู้ออกคะแนนเสียงว่า “ มีคนงานจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรกิน คนเกษียณอายุจำนวนมากที่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกต่อไป มีเกษตรกรจำนวนมากที่หวาดกลัวว่าฟาร์มของเขาจะไปไม่รอด เด็กๆจำนวนมากต่างไม่รู้ว่าอนาคตเขาเป็นอย่างไร”

ในขณะที่ Sarkozy ซึ่งกลัวว่า Le Pen จะมีอิทธิพลต่อผู้ลงคะแนนเสียงเลือกเธอในการเลือกตั้ครั้งที่สอง ซาร์โกซีกล่าวแต่เพียงว่า “ เราต้องเคารพคะแนนเสียงโหวตของพวกเขา มันเป็นการโหวตที่อยู่ในช่วงวิกฤติ”

อย่างไรก็ตามในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสอง Marine Le Pen ในที่สุดก็ออกมาพูดว่า เธอจะโหวตไม่ออกคะแนนเสียงในการเลือกตั้งรอบที่สอง และพูดสำทับว่า ซาร์โกซีรู้ตัวดีว่าเขาจะแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้

อ้างอิง:

  1. http://www.economist.com/blogs/elysee/2012/04/marine-le-pen-0?fsrc=scn/fb/wl/bl/are18offrenchpeopleracist
  2. http://elections.lefigaro.fr/presidentielle-2012/2012/04/23/01039-20120423ARTFIG00522-les-jeunes-preferent-hollande-les-femmes-sarkozy.php

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net