Skip to main content
sharethis

 

9 พ.ค.55 เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาและประชาสังคมเพื่อสันติภาพปาตานี เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงตัวแทนองค์การการประชุมอิสลาม OIC ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) แจงรัฐบาลไทยไร้อำนาจที่แท้จริง เสนอ OIC ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจผลักดันสันติภาพปาตานีอย่างเป็นทางการ และเพื่อเป็นการรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน OIC ควรเปิดโอกาสทางองค์กรเยาวชน องค์กรนักศึกษา และองค์ประชาสังคมในพื้นที่ ได้ร่วมนำเสนอในเวทีแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการด้วย โดยจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้

0 0 0

 จดหมายเปิดผนึก

เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาและประชาสังคมเพื่อสันติภาพปาตานี

เรื่อง ข้อเสนอเพื่อสร้างสันติภาพที่ปาตานีต่อตัวแทน OIC
เรียน  ตัวแทนองค์การการประชุมอิสลาม OIC
สิ่งที่ส่งมาด้วย เอกสารข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อเยาวชนปาตานี  1 ชุด

                ด้วยพระนามของอัลลอฮผู้มหาเมตตาและกรุณาปราณี เป็นที่รับรู้ของสังคมสาธารณะทั่วโลกว่าสถานการณ์ความไม่สงบที่ปาตานีซึ่งได้ปะทุขึ้นมาในรูปแบบของการสู้รบกันระหว่างกองทัพรัฐไทยกับกองกำลังติดอาวุธกอบกู้เอกราชปาตานี โดยใช้ชุมชนชนบทและชุมชนเมืองเป็นยุทธบริเวณของการรบแบบจรยุทธ์ ซึ่งแตกต่างจากปรากฏการณ์การต่อสู้เมื่อก่อนปี ค.ศ. 2004 ที่ทั้งสองฝ่ายใช้ป่าเขาเป็นยุทธบริเวณการรบนั้น มาจากรากเหง้าปัญหาของความเป็นจักรวรรดินิยมสยามเมื่อปี ค.ศ. 1786 ทำการสงครามยึดดินแดนและอธิปไตยต่อรัฐปาตานี จนถึงปี ค.ศ.1909 สถานะของความเป็นรัฐปาตานีก็ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนรัฐสยามภายใต้อธิปไตยรัฐสยามอย่างเป็นทางการด้วยสนธิสัญญาอธรรมที่เรียกว่า Anglo-Siamese Treaty ซึ่งต่อมารัฐสยามก็เปลี่ยนชื่อเป็นรัฐไทยเมื่อปี ค.ศ.1939

                การมาเยือนของตัวแทน OIC ยังดินแดนปาตานีหรือจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยครั้งนี้ เป็นที่ตื่นเต้นของประชาชนปาตานีเป็นอย่างมาก เพราะด้วยการที่ตกอยู่ภายใต้บรรยากาศการสู้รบของสงครามแบบจรยุทธ์มาเป็นระยะเวลา 8 ปี และยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่พอจะมีความหวังได้บ้างว่าสันติภาพปาตานีจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน พอได้ทราบข่าวว่า ตัวแทน OIC จะมาเยือนปาตานีด้วยภารกิจหลัก คือเพื่อรับรู้ถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงเป็นธรรมดาของคนที่สิ้นหวัง แล้วอยู่ๆ ก็มีอัศวินขี่ม้าขาวจะเข้ามาช่วยเหลือ จะรู้สึกตื่นเต้นและตื่นเต้น

                คงไม่มีใครปฏิเสธว่าตัวแปรสำคัญของสันติภาพปาตานีนั้นอยู่ที่ความจริง และเชื่อว่าเมื่อความจริงปรากฏปัญหาปาตานีกับรัฐไทยก็จะคลี่คลายลงไปเอง สรุปคือชะตาชีวิตหรืออนาคตชาวปาตานีขึ้นอยู่กับความจริงนั่นเอง แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ณ ปัจจุบัน อย่างเช่น ความเป็นเผด็จการซ่อนรูปประชาธิปไตยของโครงสร้างการปกครองของรัฐไทย ที่เห็นชัดเจนคือผู้นำประเทศสูงสุดที่ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจเป็นที่สิ้นสุดในการตัดสินใจกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาความมั่นคงของประเทศรวมถึงปัญหาปาตานีด้วย ดังปรากฏการณ์ของท่าทีนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กับท่าทีของ ผบ.ทบ.ต่อกรณีการกระจายอำนาจให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองท้องถิ่นพิเศษ ท่าทีนายกรัฐมนตรีเห็นด้วย แต่ท่าที ผบ.ทบ.กลับไม่เห็นด้วย ในขณะเดียวกันสภาพของสถานะทางการเมืองของประชาชนในการจะกำหนดชะตาชีวิตตนเองด้วยการแสดงเจตจำนงทางการเมืองนั้น ก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะทางรัฐไทยยังไม่เปิดพื้นที่ทางการเมืองอย่างเคารพในความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง และประชาชนที่มีความคิดต่างจากรัฐนั้น รัฐมักจะใช้วิธีการปราบปรามด้วยความรุนแรงนำ มากกว่าจะเลือกใช้แนวทางสันติวิธี โดยมีกฎหมายพิเศษสามฉบับรองรับการใช้ความรุนแรงเหล่านั้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการโดยไม่ต้องรับผิด คือ กฎอัยการศึก พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.ความมั่นคง

                ตลอดระยะเวลา 8 ปี ท่ามกลางความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนซึ่งปัจจุบันยอดผู้สูญเสียชีวิตพุ่งถึงเกือบ 5,000 รายแล้ว นับได้ว่าเป็นแปดปีที่ชาวปาตานีเฝ้ารอคอยสันติภาพด้วยความหวังอย่างขมขื่น เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาและประชาสังคมเพื่อสันติภาพปาตานี หวังว่าการมาเยือนของตัวแทน OIC ยังปาตานีในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนชาวปาตานี จึงมีข้อเสนอให้กับทาง OIC ในการมีส่วนร่วมกันผลักดันสันติภาพที่ปาตานีให้เกิดขึ้นอย่างเร็ววันตามบทบาทที่ควรจะเป็น ดังนี้

                1.OIC ควรตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจผลักดันสันติภาพปาตานีอย่างเป็นทางการ

                2.เพื่อเป็นการรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน  OIC ควรเปิดโอกาสทางองค์กรเยาวชน องค์กรนักศึกษา และองค์ประชาสังคมในพื้นที่ ได้ร่วมนำเสนอในเวทีแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการด้วย

                เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาและประชาสังคมเพื่อสันติภาพปาตานี เชื่อมั่นและศรัทธาในความเป็นพี่น้องของความเป็นมุสลิม ที่เข้าใจในความรู้สึกของหัวอกมุสลิมด้วยกัน ว่าจะไม่ทอดทิ้งกันแน่นอน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า OIC จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนและความจริง

                                               ด้วยพระนามของอัลลอฮที่มหาเมตตาและกรุณาปราณี 
                                               เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาและประชาสังคมเพื่อสันติภาพปาตานี

               

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net