Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

"เมื่ออากงเสียชีวิตในวันนี้ ผมก็รู้ว่า ในที่สุด ความพยายามของผมประสบกับความล้มเหลว คนในประเทศนี้ยังใช้กฏหมายหมิ่นฯ เป็นเครื่องมือทางการเมือง น่าอัปยศอดสูที่สุด"

แม้ว่าผมจะเป็นผู้ริเริ่มโครงการฝ่ามืออากง แต่ผมได้มีโอกาสพบอากงเพียงแค่ครั้งเดียวครับ ในโอกาสที่เราได้พบกันครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ เรือนจำคลองเปรม ผมได้พบกับป้าอุ๊ ภริยาของอากงด้วย เมื่อเราได้รับอนุญาตให้เข้าพบอากง ป้าอุ๊ได้แนะนำผมให้อากงรู้จัก ทันทีที่อากงรู้ว่าผมเป็นผู้เคลื่อนไหวโครงการฝ่ามืออากง อากงยกมือขึ้นไหว้ผม และกราบไปบนโต๊ะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกรงขัง และได้กล่าวขอบคุณผมนับครั้งไม่ถ้วน อากงบอกว่า อากงรู้สึกประทับใจที่คนภายนอกให้ความเห็นใจอากง และขอบคุณผมเป็นพิเศษที่อุตส่าห์เป็นธุระเรื่องการจัดแคมเปญรณรงค์เพื่อปล่อยตัวอากง อากงพูดไปก็น้ำตาไหลไป บอกกับผมแต่เพียงว่า “อาจารย์ ผมไม่ได้ทำนะ ผมไม่รู้เรื่อง” ผมเองได้เพียงแต่ปลอบใจอากง และบอกว่า ผมเข้าใจว่าอากงเป็นผู้บริสุทธ์ และผมจะช่วยอย่างเต็มที่ที่จะให้สาธารณชนรับรู้เรื่องนี้ โดยหวังว่า ความเคลื่อนไหวของผมจะเป็นปัจจัยที่แม้ว่าอาจจะมีพลังเพียงน้อยนิด แต่ก็อยากให้เป็นแรงผลักดันให้อากงได้รับอิสรภาพในที่สุด แต่เมื่ออากงเสียชีวิตในวันนี้ ผมก็รู้ว่า ในที่สุด ความพยายามของผมประสบกับความล้มเหลว คนในประเทศนี้ยังใช้กฏหมายหมิ่นฯ เป็นเครื่องมือทางการเมือง น่าอัปยศอดสูที่สุด

เมื่อเราได้คุยกัน ผมได้ถามถึงทุกข์สุขของอากงในเรือนจำ อากงบอกว่า ก็อยู่พอได้ แต่อยากออกมาพบลูกหลานมากกว่า พูดไป อากงก็มองไปทางป้าอุ๊ ผมเห็นแล้วก็เศร้าใจครับ ป้าอุ๊พูดเสริมเกี่ยวกับความเป็นไปในครอบครัว และขอให้อากงอย่าเป็นห่วง ผมเองก็บอกอากงไปว่า ผมได้นำเงินจำนวนหนึ่งที่ได้รับจากการขายหนังสือเรื่องอากง มามอบให้ป้าอุ๊ในวันนี้ หวังว่าคงจะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากหรือขัดสนได้บ้าง พออากงรู้ อากงก็ร้องไห้อีก ยกมือไหว้ผม และกราบลงไปที่โต๊ะ อำนวยพรขอให้ผมประสบในสิ่งที่ดี -- เป็นภาพที่น่าเศร้าจริงๆ ครับ

ก่อนจะจากไป ผมบอกว่า เราไม่ลืมอากงแน่ๆ และจะช่วยจนถึงที่สุดให้อากงได้รับอิสรภาพ อากงกล่าวขอบคุณผมอีกหลายครั้ง และเมื่อต้องบอกลา อากงไม่ยอมเดินจากไป แต่กลับมองพวกเราเดินออกไปจนลิบตา

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมพบอากง หลังจากที่ผมได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับป้าอุ๊แล้ว ผมก็ไม่มีโอกาสได้เจอกับครอบครัวอากงอีก เป็นเพราะผมไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ผมจึงไม่สามารถมีโอกาสได้ไปเยี่ยมอีก แต่ผมยังมีโครงการเกี่ยวกับอากงที่อยู่ในใจอีกหลายโครงการ โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องการนำเรื่องอากงนี้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้รับรู้ถึงความอยุติธรรมทางสังคมที่เกิดจากการใช้กฏหมายหมิ่นฯ เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่อากงก็พลันมาเสียชีวิตเสียก่อน ผมขอให้ทุกคนที่รักความยุติธรรม ได้ต่อสู้ต่อไปเพื่อความถูกต้อง เพื่อสิทธิและเสรีภาพในการแสดงซึ่งความเห็นทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา -- อากงจะไม่เสียชีวิตเปล่าครับ แต่จะเป็นพลังที่จะนำไปสู่การต่อสู้ที่เข้มข้นขี้นอีกต่อไป

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่ 44 ปีของอากงและป้าอุ๊ อีก 3 วันต่อมา เป็นวันจบชีวิตของอากง ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?? ปกติผมจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องผลกรรมเท่าไหร่ครับ แต่วันนี้ ผมหวังว่า คนที่ก่อกรรมกับคนบริสุทธิ์อย่างอากง จะต้องได้รับผลตอบแทนที่สาสมแน่นอน ไม่นานครับ และผมเริ่มจะเห็นถึงผลตอบแทนลางๆ แล้ว

 

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
8 พฤษภาคม 2555
เกียวโต ญี่ปุ่น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net