แอมเนสตี้ฯ ยื่นหนังสือจี้เชลล์จ่ายค่าเสียหายและกำจัดมลพิษจากน้ำมันรั่วในลุ่มแม่น้ำไนเจอร์

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 55 สมาชิกและอาสาสมัครแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (เอไอ ประเทศไทย) กว่า 20 คน เดินทางไปยื่นหนังสื่อถึงคุณพิศวรรณ  อัชนะพรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดค้าปลีก  เพื่อเรียกร้องไปยังผู้บริหารสูงสุดบริษัทน้ำมันเชลล์ นายปีเตอร์ โวเซอร์ ให้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและกำจัดมลพิษอันเกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันในลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ ทั้งนี้มีผู้ร่วมลงนามผ่านทางโปสการ์ดรณรงค์ในเรื่องนี้เกือบ 1,000 รายชื่อ
 
“การปนเปื้อนทางน้ำมันส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สารพิษที่ปนเปื้อนเป็นอุปสรรคต่อชาวบ้านในการได้รับน้ำดื่มและอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ทั้งยังเป็นการเสี่ยงต่อสุขภาพพลานามัยของผู้คนหลายพันคน โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้านผู้ยากไร้ ไนเจอร์ เราต้องการให้เชลล์แสดงความรับผิดชอบด้วยจำนวนเงินเริ่มต้นหนึ่งพันล้านบาทในการขจัดมลพิษและปรับปรุงสภาพแวดล้อมซึ่งถูกทำลายจากกรณีที่น้ำมันรั่วไหล” นางสาวปริญญา บุญฤทธิ์ฤทัยกุล เอไอ ประเทศไทย กล่าว
 
พวกเราเรียกร้องให้ บริษัทเชลล์แสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากมลภาวะทางน้ำมันในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ดังนี้
 
· จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งพันล้านบาทตามการประเมินของ UNEP ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นเงินเริ่มต้นในการจัดตั้งกองทุนอิสระในการทำความสะอาดมลภาวะที่เกิดจากน้ำมันรั่วไหลในโอโกนิแลนด์
 
· ทำความสะอาดมลภาวะที่เกิดจากน้ำมันรั่วไหลและส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรมของสภาวะแวดล้อมในโบโดอย่างครอบคลุม โดยต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกับชุมชน
 
· จัดให้มีการทบทวนอย่างโปร่งใสต่อกระบวนการการจัดการทั้งหมดในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการในการทำความสะอาด การสืบสวนการรั่วไหลของน้ำมัน การปรึกษาหารือกับชุมชน และการจ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหาย
 
· สนับสนุนต่อความจำเป็นที่ยังต้องมีการประเมินอย่างต่อเนื่องถึงผลกระทบที่จะเกิดจากมลภาวะทางน้ำมันในพื้นที่อื่นๆ ที่มีการขุดเจาะน้ำมันในบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์
 
· รับผิดชอบค่าชดเชยต่อทุกชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเพียงพอและเป็นธรรม.
 
ข้อมูลพื้นฐาน
 
บริเวณลุ่มน้ำไนเจอร์ (Niger Delta) เป็นแหล่งสะสมน้ำมัน มหาศาลและมีค่ามากแต่ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ จากประชาชนทั้งหมด 31 ล้านคน กลับอาศัยอยู่อย่างยากจน เป็นเวลานานกว่าทศวรรษที่มลภาวะซึ่งเกิดจากการขุดเจาะน้ำมันในลุ่มน้ำ ไนเจอร์ได้ก่อให้เกิด การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง
 
บริษัทเชลล์ได้สัมปทาน 80% ของการกลั่นน้ำมันและแก๊สในบริเวณนี้การดำเนินงานของบริษัทที่สร้างความเสีย หายให้กับพื้นที่นั้นได้ปล้นสิทธิมนุษยชนไปจากประชาชนและผลักให้ พวกเขาจมอยู่กับความยากจน  แทนที่รัฐบาลของไนจีเรียจะปกป้องประชาชนของตนเองแต่กลับละเลยให้พวกเขาให้ อยู่กับมลพิษจากบริษัทน้ำมัน
 
ผลกระทบจากการดำเนินการของเชลล์ต่อสิทธิมนุษยชน 
 
ในเดือนสิงหาคม 2551 ท่อส่งน้ำมันของเชลล์รั่ว และมีน้ำมันมากกว่า 1,600 บาเรล ปนเปื้อนในลำน้ำท้องถิ่นที่โบโด (Bodo Creek) นี่เป็นเรื่องเศร้าบทหนึ่งจากมลภาวะที่เชลล์ก่อขึ้น และรัฐบาลประเทศไนจีเรียไม่เคยควบคุมดูแลน้ำมันรั่วการเผาไหม้ของแก๊สและมลภาวะทั้งหมดนี้กำลังส่งผลกระทบอันเลวร้ายต่อผืนดินและแหล่งน้ำของชุมชน ประชาชนท้องถิ่นต้องดื่มน้ำที่ปนเปื้อนมลภาวะ กินปลาที่มีสารพิษปนเปื้อน เพาะปลูกบนที่ดินที่ถูกแย่งชิง และหายใจเอาอากาศที่มีแต่กลิ่นน้ำมันและแก๊ส  
 
เชลล์กำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนท้องถิ่นดังนี้ 
 
·สิทธิที่จะมีน้ำสะอาดอุปโภคและบริโภค 
 
·สิทธิที่จะสามารถประกอบอาชีพ 
 
·สิทธิที่มีสุขภาพที่ดีและอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
 
Rounded Rectangle: **แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (AI) คือกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวรณรงค์ต่อสู้เพื่อการปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ปัจจุบันมีสมาชิกสามล้านคนใน 150 ประเทศและดินแดน สำหรับประเทศไทยมีสมาชิกประมาณ 900 คน  
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท