ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. และนายก อบจ. ปทุมธานี ได้มีความเห็นจากคนของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นความผิดพลาดของตัวบุคคล เรื่องนี้จึงกำลังถูกทำให้พ้นตัวพรรคเพื่อไทย ทำให้เป็นเรื่องส่วนบุคคล และทำให้เป็นปัญหาท้องถิ่น แต่ข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงหรือไม่
ใครควรรับผิดชอบ
จึงเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ กรรมการพรรคเพื่อไทยรับทราบทุกขั้นตอน ดังนั้น ไม่ควรโยนความผิดให้กับนายสุเมธ และ ส.ส.ปทุมธานีเท่านั้น
เพราะน้ำท่วมอย่างเดียวหรือไม่
เมื่อดูได้จากช่วงน้ำท่วม เสียงของเสื้อแดงยังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าเป็นเพราะฝีมืออำมาตย์ เหมือนกับที่บทความของสุนัย จุลพงศธร เขียนไว้ แม้กระทั่งการเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ มวลชนยังคงต้อนรับอย่างอบอุ่น
ถึงแม้ว่า ในช่วงน้ำท่วมผู้รับเหมารายย่อยจากย่านอื่นที่ไปติดน้ำท่วมที่ลำลูกกาเล่าว่า เสื้อแดง (ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย) จัดกำลังดูแลพื้นที่น้ำท่วมอย่างดียิ่ง แต่มวลชนเสื้อแดงที่จัดการดูแลตัวเองเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.เพื่อไทยอย่างกระท่อนกระแท่น รวมถึงในพื้นที่ปทุมธานีด้วย
ขณะที่ ทัศนคติของเสื้อแดงนนทบุรีฝั่งตะวันตก ซึ่งน่าจะสะท้อนทัศนคติเสื้อแดงปทุมธานีได้ คือน้ำท่วมไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงจนเปลี่ยนไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้ว่าจะหงุดหงิดพฤติกรรมของ ส.ส. ในพรรคเพื่อไทยก็ตาม
แต่สิ่งที่สุนัย ไม่ได้กล่าวถึงเสื้อแดงปทุมธานีเลย คือผลกระทบจากช่วงการชุมนุมเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553 เสื้อแดงปทุมธานีได้แสดงบทบาทสนับสนุนการชุมนุมราชประสงค์ มีผู้บาดเจ็บหลายราย เช่น การชุมนุมที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง การเผชิญหน้าที่ ขวัญชัย ไพรพนา หลบหนีกลับราชประสงค์ ทิ้งให้มวลชนเสื้อแดงเผชิญหน้ากับทหารเพียงลำพัง
เมื่อพรรคเพื่อไทยหันหน้าไปปรองดอง และเอาตัวเสื้อแดงที่ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน ทิ้งให้ไร้อิสรภาพมาเกือบสองปี โดยเก้าเดือนอยู่ภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่พวกเขาเลือกมากับมือ แล้วพวกเขาจะพอใจได้อย่างไร
ในเฟซบุ๊ก ข้อความที่วิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเสื้อแดงที่ติดคุก มีคนคลิก “Like” และโพสต์ความเห็นสนับสนุนมากมาย ดังนั้น สุนัย รวมถึงพรรคเพื่อไทย ไม่ควรมองข้ามความรู้สึกว่า พรรคเพื่อไทยกำลังหักหลังพวกเขา
น้ำท่วมเพราะอำมาตย์หรือ
พื้นที่นี้ได้รับน้ำทุ่งจากปทุมธานีหรือไม่ คำตอบคือ ได้รับ ซึ่งมาถึงตั้งแต่ 10 ต.ค. และน้ำท่วมเฉพาะบริเวณคันกั้นน้ำไม่แข็งแรงและพังลงมา เช่น โรงพยาบาลบางบัวทอง และน้ำก็ยังไหลไปแม่น้ำท่าจีน ผ่านลำคลองต่างๆ พอคืนวันที่ 18 ต.ค. น้ำห็ท่วมอำเภอบางบัวทองในพื้นที่เทศบาล เนื่องจากเขื่อนริมคลองบางบัวทองและประตูน้ำพิมลราชพัง จึงท่วมทันที พื้นที่ไกลออกไป เช่น บริเวณถนนกาญจนาภิเษก น้ำท่วมเริ่มมาจากด้านปลายคลองแต่ละสาย หมายความว่าน้ำไม่สามารถไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนได้อีกแล้ว เพราะในรายงานกรมชลประทาน แม่น้ำท่าจีนที่ประตูน้ำพลเทพเต็มตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.
วันที่ 27 ต.ค. ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ให้ความเห็นว่า แม่น้ำท่าจีนถูกใช้งานมากเกินไป และประตูน้ำท่วมพลเทพได้ปิดลงเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน สถานการณ์ในนนทบุรีฝั่งตะวันตกดีขึ้นตามลำดับ พื้นที่ส่วนใหญ่แห้งประมาณกลางเดือนธันวาคม น้ำควรลดลงจนแห้งในปลายเดือนธันวาคม ถึงไม่มีการชุมนุมของคนจังหวัดนนทบุรี
คำถามจึงมีว่า เป็นเพราะอำมาตย์ปล่อยน้ำ หรือเป็นเพราะการบริหารน้ำด้วย
ไม่ใช่แค่ปัญหาส่วนบุคคลและท้องถิ่น
การจะโยนปัญหาให้พ้นพรรคเพื่อไทย อาจจะมีความจำเป็นแบบไทยเพื่อรักษาหน้าตัวเอง ทั้งที่พรรคต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย
การเลือกตั้งปทุมธานี ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนที่ให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทบทวนกลไกพรรคและทิศทางการเมืองที่ดำเนินอยู่ว่า “เห็นหัวมวลชนเสื้อแดง” ไหม ไม่ใช่แค่ ส.ส.เป็นรายบุคคล แต่เป็นทั้งพรรคที่ต้องทบทวนตัวเอง ที่สำคัญคือต้องทบทวนความพยายามปรองดองโดยเอานักโทษการเมืองเสื้อแดงเป็นตัวประกัน