Skip to main content
sharethis

ด้าน \ศาสตรา โตอ่อน\" ชี้เพราะแกนนำ นปช. ได้เป็นรัฐมนตรี \"นิติราษฎร์\" จึงเข้ามาดูแลงานมวลชนแทน พร้อมยก \"กัดดาฟี\" เป็น \"ผู้นำทางจิตวิญญาณ\" แต่ถูกชาวลิเบียที่ถูกต่างชาติมอมเมานำมาทุบตีกลางถนน หวั่นสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในไทย โดยมีนักวิชาการเป็นตัวช่วย เอเอสทีวี ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. เวลา 20.30 น. ในรายการ \"คนเคาะข่าว\" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV มีการเชิญนายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต สมาชิกกลุ่ม \"สยามประชาภิวัฒน์\" และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พูดคุยในประเด็นการแก้มาตรา 112 ปานเทพชี้สหรัฐหนุนแก้ ม.112 เพราะต้องการพลังงาน นายปานเทพ กล่าวตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ ตามที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าสหรัฐฯ เคลื่อนมายังเอเชียแปซิฟิก เพื่อเอาแหล่งพลังงาน จึงไม่แปลกเลยทำไมอเมริกาถึงร่วมสนุบสนุนการแก้มาตรา 112 ก็เพราะภูมิคุ้มกันของชาติคือความรักชาติ เวลาคนไทยมีความรักเทิดทูนต่อพระมหากษัตริย์ จะสู้อะไรบางอย่างเพื่อความถูกต้อง เขานึกถึงพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นจิตวิญญาณของคนในชาติ แม้กระทั่งเศรษฐกิจพอเพียง นี่เป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีในการป้องกันกองทุนต่างชาติที่เข้ามาสูบความ มั่งคั่ง แล้วเราก็หลงในความมั่งคั่งแล้วเขาก็สูบความมั่งคั่งกลับไป แน่นอนการส่งเสริมคนจาบจ้วงสถาบันฯ คือกระบวนการบ่อนทำลาย เพื่อทำให้เกิดความไม่ยึดในศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ เพราะความเป็นชาตินิยมหวงแหนแผ่นดิน เป็นสิ่งขัดขวางนักล่าอาณานิคม เลยต้องมีคนมากล่อมความคิด ว่าโลกไร้พรหมแดน หลายคนไปเรียนต่างประเทศ หลายคนหลงในหลักคิดของทุนนิยม ที่เขามาครอบเอาไว้ ถูกครอบด้วยความคิดเลือกตั้งแม้ว่าจะซื้อเสียงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างคือเรื่องผลประโยชน์ ไม่ใช่ประชาธิปไตยแท้หรือไม่แท้ \"ศาสตรา โตอ่อน\" อัดนิติราษฎร์ต้องการทำลายสปิริตชาติ ด้านนายศาสตรา โจมตีการเคลื่อนไหวของนิติราษฎร์ว่า เป็นความพยายามทำลายสถาบันกษัตริย์ให้หมดสภาพไปในทางความเป็นจริงก่อน ความมั่นคงของรัฐมีบทบัญญัติเยอะแยะ แต่ทำไมถึงโฟกัสมาเฉพาะที่มาตรา 112 ก็เพราะมาตรานี้มันคือปากที่จะได้พูด ได้เสนอ เป็นด่านแรกให้พวกโพสต์โมเดิร์นทั้งหลาย พยายามจะทำลายสปิริตของประเทศชาติ และพยายามสร้างความคิดขึ้นมาใหม่ บางคนไม่เหนียมอายอย่างดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็บอกเลยให้ยกเลิก บางคนบอกเป็นแนวปฏิรูป แต่มันมีพวกฮาร์ดคอร์ซ่อนรูปอยู่ข้างหลัง นิติราษฎร์เปิดประตูมาตรา 112 เมื่อไหร่ พวกนี้จะระดมเข้ามารื้อสปิริตของสังคม โดยอกุศลกรรม ไม่ใช่การตักเตือนอย่างดีงาม ตอนนี้ตนมองว่ามาตรา 112 พรรคการเมืองไม่แก้แล้ว เขาพอใจที่ได้อยู่ในรัฐบาล ได้คุมระบบเศรษฐกิจ คุมสัมปทาน สามารถดำรงโครงสร้างทุนนิยมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว พอทุนนิยมได้สิ่งเหล่านี้หมดแล้ว เขาก็ประนีประนอมทุกอย่าง เพราะการต่อสู้ต่อไป เปลืองต้นทุนเปล่าๆ ดังนั้นมันจึงเป็นปัญหาที่กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์มองอยู่แล้ว ว่าตรงนี้นำไปสู่การผูกขาดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ คือการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจ สนิทแนบแน่นไปเรียบร้อยแล้วกับการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ผ่านทางการเลือกตั้ง ซึ่งมีวัฒนธรรมไทยที่เป็นรากฐานคือระบบอุปถัมภ์ เผยแกนนำ นปช. ขึ้นเป็นรัฐมนตรีแล้วให้ \"นิติราษฎร์\" ดูแลมวลชนฮาร์ดคอร์แทน นายศาสตราอ้างด้วยว่า \"ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือ กระแสมวลชนเสื้อแดงที่ปลุกขึ้นมาโดยเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมือง มันยังมีพลังอยู่ และมวลชนต้องการอาหารทางอุดมการณ์ ต้องการข่าวร้อน ต้องการเสพนักวิชาการ ในกลุ่มนิติราษฎร์ผมมีความรู้จักเป็นการส่วนตัวเลย รู้หมดใครคิดอะไรอย่างไร พวกนี้มีความคิดอย่างร้ายที่สุดคือไปถึงสาธารณรัฐ มีมุมมองต่อกษัตริย์แบบเชิงลบ เหมือนฝรั่งเศสที่มองพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวแนต แต่พวกนี้ผมว่าเขาเพี้ยน เพราะกษัตริย์ฝรั่งไม่ได้แสดงบทบาทต่อสังคม อย่างพระนางมารี อองตัวแนต มีคนไปทูลว่าประชาชนยากจนไม่มีข้าวกิน พระนางบอกให้ไปกินขนมปัง มันสะท้อนตอบอะไรไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยมีคุณูปการทุกเรื่อง ตลอดเวลาที่ผ่านมา\" นายศาสตรา กล่าวอีกว่า กลุ่มเหล่านี้มีมาตั้งนานแล้ว 20 - 30 ปี ฝังตัวอยู่แถวต้นโพธิ์ธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ทั้งหลาย มีอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นศาสดา ส่วนคณะนิติศาสตร์เพิ่งเกิดช่วงหลังๆ พวกนี้บางคนก็ชอบอ่านงานของดร.สมศักดิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางคนเรียนอยู่ฝรั่งเศส บางคนเรียนอยู่เยอรมัน ชัดเจนอยู่แล้ว ความประสงค์ของเขา โดยอาศัยฐานมวลชนซึ่งเป็นผลผลิตของเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทิ้งมวลชนตรงนั้นเอาไว้ ฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่าตอนนี้แกนนำม็อบเสื้อแดงได้ไปเสพอำนาจเป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรี เขาพอใจแล้ว และปล่อยให้นปช.ถูกดูแลโดยนิติราษฏร์ไป คนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ที่ชอบอ่านโน่นอ่านนี่ ก็มีความสุขต่อไปที่ได้เสพงาน แล้วมีศาสดาองค์ใหม่คือ ดร.วรเจตน์ ตนมองว่าเหมือนระบบนาซีเลย สมัยฮิตเลอร์เรืองอำนาจ ก็มีด็อกเตอร์สติเฟื่องคนหนึ่ง ชื่อ ดร. โจเซฟ เกิบเบิลส์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาการ คอยคิดการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง คนนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าพวกฮิมเลอร์ รอมเมล ที่เป็นพวกนักรบ เข้ามาคอยผลิตวาทกรรม ต่างคนต่างได้ประโยชน์ เสื้อแดงก็ได้เสพข่าวสารเป็นมังสาหาร ฝ่ายนักวิชาการก็ได้เป็นศาสดาขึ้นมา อัดคนลงชื่อแก้ ม.112 ไม่ทันเกมอเมริกาที่ต้องการแสวงหาแหล่งพลังงาน โดยระหว่างร่วมรายการนายศาสตราได้กล่าวหา นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.สาวตรี สุขศรี นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์หลายหน โดยเรียกนายปิยบุตรว่า \"เบอร์ 2\" และ น.ส.สาวตรีว่า \"เบอร์ 3\" และว่า \"นิติราษฎร์ไม่ใช่นักกฎหมาย เป็นนักอะไรก็ไม่รู้ที่ใส่เสื้อคลุมนักกฎหมาย\" ดร.ศาสตรา ยังกล่าวว่า ถ้า 118 คน ที่ร่วมลงชื่อแก้มาตรา 112 ไม่ได้ไปรับเงินพวกองค์กรของอเมริกาเพื่อล้มสถาบันฯ และเชื่อมั่นในอุดมการณ์จริงๆ ตนว่าพวกนี้เฟอะฟะ ไม่ทันสมัย ไม่ทันเกม ตนไม่แปลกใจที่อเมริกาต้องแสวงหาแหล่งพลังงาน เพราะอเมริกาประเทศเดียวบริโภคทรัพยากรของโลกถึง 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ เขาจึงต้องการความมั่นคงทางพลังงานสูง เพื่อดำรงระบบของเขาไว้ให้ได้ เผย \"ลิเบีย\" ถูกต่างชาติมอมเมาจึงลาก \"กัดดาฟี\" มาทุบตีกลางถนน ระหว่างการออกอากาศ นายศาตราได้ยกให้ พ.อ.โมฮัมมา กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบียเป็น \"ผู้นำทางจิตวิญญาณการต่อสู้ของประเทศ\" โดยนายศาตรากล่าวว่า อิทธิพลอเมริกาเข้าไปในประเทศที่เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งผลประโยชน์กับกลุ่มอียู หรืออียูก็ร่วมกับอเมริกาในการบอมบ์ลิเบีย พรรคฝ่ายค้านเยอรมันก็โจมตี นางแองเจลา แมร์เคิล ทำไมโจมตีลิเบีย แต่ไม่โจมตีซีเรีย ก็เพราะลิเบียมีผลประโยชน์ อีกทั้งกล่าวหากัดดาฟี่ ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณการต่อสู้ของของประเทศ กัดดาฟีเป็นคนเผ่าเบดูอิน ชนร่อนเร่ที่เป็นอัตลักษณ์ของประเทศ แต่คนในชาติถูกมอมเมา ลากหัวหน้าเผ่า ซึ่งเดิมเป็นผู้แทนทางจิตวิญญาณ ออกมาทุบตีเลือดสาดตายกลางถนน วันนี้สิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศของเรา ความวิปลาสของโลกกำลังส่งผลต่อประเทศเรา โดยมีนักวิชาการเป็นตัวช่วย ซึ่งถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ก็เฟอะฟะมาก หรืออย่างนักเขียนที่ออกมาร่วมด้วย แสดงให้เห็นว่าภูมิปัญญาของสังคมในประเทศอ่อนแอมาก ทำไมมุสลิมจึงเกิดอัลกออิดะห์ เพราะพวกนี้ตระหนักว่านี่คือภูมิคุ้มกันของประเทศเขา หรือจีนบล็อกเฟซบุ๊ก ก็เพราะรู้ว่านี่คือเครื่องทำลายล้าง อเมริกาไม่ได้มีสิทธิเสรีภาพจริง คนทั้งโลกกำลังถูกอำนาจสื่อต่างๆมอมเมา ภูมิภาคไหนมีทรัพยากรมากจะสูญเสียทรัพยากรทันทีถ้าคนในประเทศนั้นโง่ และไม่สามารถปรับตัวได้ อีกหน่อยไร่นาก็หมด เมื่อเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองไทยกับทุนนิยมโลก จับมือกันเรียบร้อยแล้วทำลายภูมิคุ้มกันของชาติ ทั้งนี้นายศาสตรายังกล่าวระหว่างออกรายการด้วยว่า มีความพยายามถอดสถาบันฯให้ออกจากความเป็นจิตวิญญาณของคนในชาติ ถอดออกจากความมั่นคงของชาติ เสนอให้ลดโทษลง แต่ความกระสันอยากบางอย่าง ทำให้ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ที่เป็นนักเรียนกฎหมายเกียรตินิยมขั้นสูงสุดของเยอรมัน ผิดพลาดอย่างมหันต์ เกิดผลประหลาดคือคุณคุ้มครองประมุขรัฐตัวเอง ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี น้อยกว่าประมุขของรัฐต่างประเทศ ซึ่งโทษจำคุก 1- 7 ปี อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นี้นายวรเจตน์ได้มีข้อเสนอเรื่องคุ้มครองประมุขต่างประเทศไปแล้ว โดยข้อเสนอในการอภิปรายเมื่อ 15 ม.ค. นายวรเจตน์อธิบายว่า ข้อเสนอของนิติราษฎร์คือ เอาหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองประมุขของประเทศไปปรับแก้กับการคุ้มครองประมุขต่างประเทศไปในคราวเดียวกัน ซึ่งรัฐสภาทำได้อยู่แล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net