Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ข้อเสนอแนะอันเกิดจากการเข้าฟังคำพิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี คดี คำหล้า ชมชื่น ผู้ต้องหาคดีปล้นปืนทหาร 2 กระบอกเมื่อปีที่แล้ว

 
ภาพประกอบจาก s_falkow (CC BY NC 2.0)

 

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บางกลุ่มออกมารณรงค์ให้แก้กฎหมายมาตรา 112 บางคนเสนอให้แก้ถึงในรัฐธรรมนูญ บางกลุ่มเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึกในภาคใต้

ไม่ เราไม่ได้เรียกร้องอะไรใหญ่โตเช่นนั้น

บางคนเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องหา หลายคนเรียกร้องสิทธิในการรักษาพยาบาลนักโทษ บ้างเรียกร้องให้ยกเลิกโทษประหาร และไม่น้อยอยากให้เลิกการตีตรวน

ไม่ เราไม่ได้เรียกร้องอะไรใหญ่โตเช่นนั้น

เราเรียกร้องสิ่งเล็กน้อยที่สุด เท่าที่มนุษย์ที่ต่ำต้อยที่สุดจะคิดได้ นั่นคือ ไมโครโฟน

 

000000000

 

ผู้เข้าฟังคำพิพากษาในคดีของคำหล้า ชมชื่น ผู้ต้องหาคดีปล้นปืน เริ่มต้นรายงานตัวทีละคนๆ ว่าเป็นใคร มาจากไหน ตามที่ผู้พิพากษาที่ขึ้นบัลลังก์สั่ง พวกเขารู้สึกประหลาดใจ เพราะในการเข้าร่วมพิจารณาคดีที่ผ่านมา ไม่เคยพบเห็นการรายงานตัวถ้วนทั่วทุกตัวคนเช่นนี้มาก่อน

จากนั้นการอ่านคำพิพากษาก็เริ่มขึ้น

สักพักพวกเขาก็หันมองหน้ากันเลิกลั่ก

สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าคือริมฝีปากบางสีชมพูของผู้พิพากษาวัยกลางคนที่ขยับ ขึ้นลงไปมา พร้อมกับเสียงอ่อนหวานที่ไหลลื่นต่อเนื่องแต่จับความอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย

ทุกคนเงี่ยหูฟัง บางคนทำคอยืดคอยาว บางคนโน้มตัวไปข้างหน้าแทบตกเก้าอี้ แต่ก็ล้วนดูไม่เป็นผล ผ่านไปห้านาที คำพิพากษาถูกอ่านไปแล้วหลายหน้า ผู้คนหันมองหน้ากันไปมาอีกครั้ง

นักข่าวหญิงอาวุโสจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษหันมากระซิบบอกคนข้างๆ  “ยกตูด” คนข้างๆ กระซิบต่อกับคนถัดไป ถัดไป และถัดไปในแถวเดียวกัน ทุกคนพร้อมใจกระทำการดังกล่าว จากนั้นช่วยกันเอามือลากเก้าอี้ให้ขยับขึ้นหน้าไปได้เล็กน้อย นักข่าวอาวุโสหันมาส่งซิกอีกครั้ง ขยับไปได้อีกหน่อย อีกหน่อย และอีกหน่อย

เป็นความสามัคคีที่ดูค่อนข้างประหลาด เก้าอี้แถวหน้าฝั่งซ้ายมือของห้องค่อยๆ กระดึ๊บๆ ไปข้างหน้าจนแทบจะชิดคอกกั้น แต่ก็ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่ต้องการได้ยิน หลายคนถอดใจเพราะสถานการณ์ดูไม่มีทีท่าจะดีขึ้น

บางคนเหม่อลอยมองผนังห้อง การตกแต่งห้องพิจารณาคดีไปเรื่อยเปื่อย พร้อมฟังเสียงแอร์เครื่องเก่าที่ครางหึ่งๆ แล้วหันมองจำเลยที่ถูกขังตั้งแต่ชั้นสอบสวนมาเกือบ 2 ปี จนถึงวันพิพากษา เขาอยู่ในชุดนักโทษสีน้ำตาลอ่อน ถูกตีตรวนที่ข้อเท้า จ้องมองไปยังผู้พิพากษาบนบัลลังก์ด้วยแววตานิ่งๆ สีหน้าเรียบเฉย

นักข่าวอาวุโสคนเดิมไม่ยอมแพ้ เอี้ยวตัวนั่งหันข้าง เอามือป้องใบหู ทำท่าเงี่ยหูฟังอย่างชัดเจน

ผู้พิพากษาที่กำลังอ่านคำพิพากษาเหลือบตาขึ้นมามอง หยุดอ่าน ถอดแว่นออกแล้วพูดกับนักข่าวคนดังกล่าวว่าคำพิพากษานี้ยาวนับสิบยี่สิบหน้า หากจะให้ตะเบ็งอ่านด้วยเสียงอันดังโดยตลอดนั้นคงไม่ไหว นักข่าวหญิงแสดงอาการเข้าอกเข้าใจแต่ยังยืนยันให้ช่วยออกเสียงเน้นส่วนที่ สำคัญ แววตาโดยรอบแสดงอาการลิงโลด บางคนแทบโผเข้ากอดฮีโร่ของคนยาก

ผู้พิพากษาก้มลงอ่านคำพิพากษาอีกครั้ง ด้วยเสียงคงเดิม - -“

ทนายความสองคนลุกจากโต๊ะทนายไปยืนชิดติดกับบัลลังก์

ริมฝีปากสีชมพูขยับขึ้น ลง ขึ้น ลง ขึ้น ลง ขึ้น ลง ....

ชื่อเฉพาะบางชื่อ คำบางคำ ที่เล็ดรอดออกมาค่อนข้างชัดเจนถูกจดบันทึกอย่างอึกทึกครึกโครม ราวกับเป็นขุมทรัพย์ที่นักเดินทางพเนจรค้นพบโดยบังเอิญ

ตรงหน้าบัลลังก์ หนึ่งในทนายความหันมากระซิบกับอีกคน ผู้พิพากษาหยุดอ่านอีกครั้ง ถอดแว่นออก และพูดด้วยเสียงดัง

“มีอะไร”

“ไม่มีครับ”

“พูดอะไรกัน”

“ไม่มีอะไรครับ”

กองเชียร์ใจหายวาบ แต่แล้วริมฝีปากสีชมพูก็กลับไปขยับขึ้นลงเช่นเคย

ผู้พิพากษาชายที่นั่งอยู่ด้านข้างก้มหน้านิ่ง และบางครั้งก็เหลือบตามองเพดาน

สักพัก ทนายความคนหนึ่งหันมาทางคนฟัง ทำสัญลักษณ์โดยใช้นิ้วชี้ของมือสองข้างไขว้กันเป็นเครื่องหมายกากบาท

A:“มันคืออะไรวะพี่” 

B:“เขาว่าศาลลง(โทษ)แน่นอน”

ภรรยาจำเลยนั่งอยู่ริมสุดของแถวที่นั่ง เธอหันมาตามเสียงการหารือ “อะไรนะพี่”

ไม่มีใครตอบคำถามนั้น ทั้ง A ทั้ง B ต่างหันไปคนละทิศละทาง แล้วเธอก็เริ่มนั่งน้ำตาไหลอยู่เงียบๆ

 ริมฝีปากสีชมพูยังขยับขึ้นลงตามปกติ

ผู้พิพากษาหยุดอ่าน แล้วส่งกระดาษให้ทนายความลงชื่อ

จบแล้ว !!!

ทุกคนมองหน้ากันเลิกลั่ก สอบถามกันเองให้วุ่นถึงผลการตัดสินทั้งที่ก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยิน

ทนายความคนหนึ่งเดินออกมาจากคอกกั้นแล้วกระซิบกับคนฟังสั้นๆ ว่า “จำคุกสิบปี”

ภรรยาจำเลยวิ่งก้มหน้าออกไปนอกห้อง

ทนายความคนเดิมเดินไปนั่งข้างจำเลยบอกผลคำพิพากษา จำเลยปล่อยตัวลงนั่งพิงกับพนักเก้าอี้ช้าๆ สีหน้ายังเรียบเฉยเช่นเดิม

 

000000000

 

“แม้แต่คนเลวที่ทำเรื่องระยำที่สุดในสามโลกก็น่าจะมีสิทธิได้ยินที่มาของ โทษทัณฑ์ของเขา มิพักต้องพูดถึงเรื่องว่าเขาทำผิดจริงหรือไม่ สมควรได้รับโทษทัณฑ์นั้นเพียงใด” ... ขงจื๊อไม่ได้กล่าวไว้

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net