"มาร์ค" ย้ำรัฐบาลเก่าไม่ได้กักน้ำ โอด ปชป. อยู่ดีๆ ก็ถูกใส่ร้ายว่าปล่อยจระเข้

\อภิสิทธิ์\" อภิปรายโต้ไม่ฉวยโอกาสการเมืองเล่นงานรัฐบาล แจงไม่เจาะจงให้ใช้ พรก.ฉุกเฉินแก้น้ำท่วม ยันรัฐบาลเก่าไม่ได้กักน้ำล้นเขื่อน บ่นเซ็งถูกครหาปล่อยจระเข้กัดคน \"ยิ่งลักษณ์\" วอนทุกฝ่ายหันหน้าร่วมกันแก้ปัญหาฟื้นฟูประเทศถวายในหลวง 12 พ.ย. 54 - เมื่อเวลา 10.30 น. ในการประชุมร่วมรัฐสภาตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญ กรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากอุทกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายว่า นายกฯ พูดหลายครั้งว่า สถานการณ์เช่นนี้อยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์ ยืนยันว่า ตลอดเวลาในการทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนประชาชน เข้าใจว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ อยากบอกนายกฯว่า ไม่เคยมียุคใดที่ฝ่ายค้านร่วมมือแก้ปัญหาเท่ากับยุคนี้ ตนหลีกเลี่ยงการวิจารณ์ บั่นทอนการทำงานรัฐบาล แต่กลับมีโฆษกพรรคเพื่อไทยตำหนิว่า การลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนของตนเป็นการสร้างภาพ แต่ไม่ทำให้ย่อท้อ ขอให้นายกฯ ไม่ต้องกังวล ปัญหาการเมืองจากฝ่ายค้าน หากอยากฉวยโอกาสทางการเมือง ก็ไม่ยาก แต่ไม่เคยฉวยโอกาส ยืนยันว่า ผู้ว่าฯกทม.ไม่คิดเล่นการเมืองเช่นกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องกฎหมายพิเศษนั้น ไม่ได้เจาะจงว่า ต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ในสมัยรัฐบาลทักษิณปี 2548 เคยบอกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ใช้ปราบคน แต่รวมถึงใช้ดูแลภัยธรรมชาติด้วย ส่วนการตั้งคณะกรรมการ 2 คณะของรัฐบาล ถือว่าดีแล้ว แต่วันนี้นายกฯ ต้องมีสมาธิจัดการปัญหาเฉพาะหน้า อย่าเพิ่งไปวาดฝันเรื่องการบริหารจัดการในอนาคต โดยต้องเร่งกู้ ถ.พระราม 2 ถ.บรมราชชนนี ขณะที่ฝั่งตะวันออก บางชัน ลาดกระบัง หลายกระทรวงต้องเข้าไปดูแล รวมถึงฝั่งคลองบางซื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า กทม.ชั้นใน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน ซึ่งมีการหยิบเป็นประเด็นการเมืองว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์จงใจกักน้ำในเขื่อน ทำให้เกิดน้ำท่วม ตนเสียใจที่ ศปภ.กล่าวหาพวกตน อยากชี้แจงว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนช่วงก่อนยุบสภา อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์กักเก็บต่ำสุด เพราะช่วงนั้นแล้งมาก ถ้าดูจังหวะจริงๆ ที่จะระบายน้ำได้คือ เดือน ส.ค.ถึง ก.ย. 54 จากนั้นก็มีพายุเข้ามาหลายลูก ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง รมว.เกษตรฯยอมรับว่า ต้องชะลอการปล่อยน้ำ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรเก็บเกี่ยว แล้วปล่อยให้น้ำเข้าทุ่งภายหลัง จะผิดหรือถูกก็ประเมินกันเอง ไม่เข้าใจว่า ทำไมเอาเรื่องนี้มาเล่นการเมืองว่า เป็นความผิดของรัฐบาลที่แล้ว ดังนั้นในวันข้างหน้าต้องทบทวนระบบนี้ เพราะมีปัญหาเรื่องข้อมูลที่ กฟผ.กับกรมชลประทานใช้ไม่ตรงกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า มีข้อเสนอแนะคือ 1.เรื่องการระบายน้ำ เป็นแบบต่างคนต่างทำ คนทำงานไม่มีความเข้าใจภาพรวมเรื่องการเชื่อมโยงกับจุดอื่นๆ ดังนั้นต้องเร่งทำระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่เขื่อนใหญ่จนถึง อุโมงค์ยักษ์ ให้มีการรวมศูนย์อยู่ที่เดียว 2.การบริหารจัดการน้ำลงทะเลผ่านแม่น้ำสายหลัก 3 สาย ต้องให้สมดุลกัน 3.การแก้ไขระบบบริหารจัดการน้ำที่เดิมออกแบบไว้เฉพาะแก้ปัญหาน้ำหลาก จึงควรปรับระบบรองรับปัญหาน้ำทุ่งด้วย 4.ระบบการสื่อสารไปยังประชาชนมีปัญหา ทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่น หน่วยงานรัฐควรสื่อสารไปยังประชาชนให้แม่นยำที่สุด ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เชื่อว่า คณะกรรมการ 2 ชุด ที่รัฐบาลจะเสนอโครงการลงทุนต่างๆจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นภาระงบประมาณอีกหลายปี ดังนั้นต้องบริหารจัดการเรื่องคนให้ดีที่สุด เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ใช้ประตูระบายน้ำบริหารน้ำ แต่ใช้มวลชนบริหารแทน ซึ่งแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องอธิบายให้มวลชนเข้าใจใครเสียหายต้องชดเชยเยียวยาให้เป็นพิเศษ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสร้างคันกั้นน้ำแล้วพอถึงเวลาก็มีนักการเมืองยกมวลชนมาทำลาย ส่วนเรื่องจระเข้ก็ไม่รู้เป็นอย่างไร ตนอยู่เฉยๆ ก็ถูกกล่าวหาว่า ทำให้น้ำท่วมเพื่อปล่อยจระเข้มากัดคน ยืนยัน ไม่ได้เล่นการเมือง \"ส่วนเรื่องถุงยังชีพ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ เรื่องนี้ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการมาสอบ แค่เปิดถุงยังชีพมาดูว่า สินค้ามีมูลค่าตามที่ตั้งไว้หรือไม่ เรื่องถุงยังชีพมีการเลือกปฏิบัติ บางพื้นที่ได้ บางพื้นที่ไม่ได้ มีการแบ่งสีกันอยู่ ขอให้สบายใจไม่มีใครอยากฉวยโอกาส ใครจะมากระแหนะกระแหน หรือว่า รอส้มหล่น ไม่มีแน่ ขอให้พวกท่านอย่างสร้างเงื่อนไขขึ้นมาเอง อย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายหลังน้ำลด ฝ่ายค้านมีหน้าที่ต้องตรวจสอบ ใครหาประโยชน์ก็ต้องจัดการตามหน้าที่\" ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว จากนั้นเวลา 11.20 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุม ได้ปิดการอภิปราย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ขอถือโอกาสนี้ในนาม ครม. ขอขอบคุณสมาชิกกทุกท่าน ส.ส. ส.ว. ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ได้ให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ตนและทีมงานจะนำไปศึกษาหารือและทำสิ่งต่างๆให้รอบคอบขึ้น และขอบคุณธารน้ำใจประชาชน เอกชน วันนี้สิ่งที่เราได้รับคือพลังความสามัคคีในการทำงาน และแก้ปัญหาให้อนาคตประเทศ นั่นจะเป็นสิ่งเรียกความเชื่อมั่นให้ประเทศไทย และยืนยันว่า ตนจะตั้งใจ อดทน และไม่ท้อถอยในการแก้ปัญหาและฟื้นฟูประเทศให้กลับมาสู่สภาพเดิม สร้างความมั่นคงเชื่อมั่นให้ประชานชาวไทย และถือโอกาสนี้ ขอกำลังใจพลังสามัคคีจากสมาชิกและประชาชน เพื่อร่วมน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของคนไทยทุกคน ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 84 พรรษาในโอกาสนี้ด้วย ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ไทยรัฐออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท