"ปราโมทย์" แจงวิธีระบายน้ำฝั่งตะวันออก ชี้ กทม. อาจไม่เข้าใจการเดินทางของน้ำ

กรุงเทพธุรกิจแพร่คำให้สัมภาษณ์ \ปราโมทย์ ไม้กลัด\" ระบุฉะเชิงเทราสูงกว่า กทม. และน้ำทะเลก็สูงกว่าคลองที่เชื่อมทะเล ทำให้ต้องปิดประตูน้ำป้องกันน้ำสมทบเข้ากรุง ขณะที่ครม.เงาประชาธิปัตย์ยังอัดต่อว่ารัฐบาลยังบิดเบือนเส้นทางระบายน้ำ ไม่ระบายน้ำด้านตะวันออกอย่างเต็มที่ เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวานนี้ (27 ต.ค.) รายงานว่า นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรณีที่มีการอ้างว่าทางฝั่งตะวันออกไม่เปิดประตูระบายน้ำ ทำให้ปริมาณน้ำมาอัดที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนั้น ต้องมองข้อเท็จจริงในพื้นที่ เนื่องจากระดับพื้นที่ของ จ.ฉะเชิงเทรามีความสูงกว่าพื้นที่ กทม. และระดับน้ำในทะเลก็สูงกว่าคลองที่เชื่อมต่อสู่ทะเล ทำให้ต้องปิดประตูนอกคันกันน้ำพระราชดำริ ไม่ว่าจะเป็นประตูระบายน้ำหนองจอกและคลองประเวศบุรีรมย์ เพื่อป้องกันน้ำสมทบเข้ามา กทม. กทม.อาจไม่เข้าใจการเดินทางของน้ำ ทำให้การแก้ปัญหามีความสับสน ดังนั้น ต้องทำงานประสานกับกรมชลประทาน เพราะจะรู้ดีกว่า ว่า น้ำไหลไปทางไหนต้องไหนควรปิด และต้องไหนควรเปิด นายปราโมทย์กล่าว ขณะที่ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ทาง ทส. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ดูแลการผลักดันน้ำท่วมทุ่งออกทะเลให้เร็วที่สุด จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสภาพปัญหาการระบายน้ำในฝั่งตะวันออกแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่าปัญหามาจากการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยหลายแห่งที่เป็นเส้นทางไหลของน้ำ ไล่ตั้งแต่พื้นที่หนองจอก มีนบุรี คลองแสนแสบ มีการก่อสร้างถนนกีดขวางทางน้ำกั้น จากเดิมในอดีตที่เคยเป็นทางน้ำไหลผ่านลงมาทางตอนล่าง รวมทั้งยังมีหมู่บ้านจัดสรรขึ้นจำนวนมากด้วย เช่น แถวถนนนิมิตรใหม่ เขตมีนบุรี ทำให้น้ำบางจุดหยุดนิ่งและต้องรอน้ำที่จะไหลลงมาก่อนถึงจะไหลลงไปได้ ได้ลงพื้นที่เพื่อทำแผนที่จุดปัญหาต่างๆ ส่งข้อมูลมาที่ศูนย์ป้องกันวิกฤติน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ โดยจะพล็อตจุดพิกัด และแผนที่ลงรายละเอียดพื้นที่ที่ติดขัด เนื่องจากได้ประสานงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการ 50 จังหวัด ระดมเอาเครื่องสูบน้ำทั้งของรัฐและเอกชนลงมาในฝั่งตะวันออก เพื่อผันน้ำให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (27 ต.ค. 54) ทีมงานของนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ ครม.เงา ประชาธิปัตย์ เรื่อง \"การบิดเบือนเส้นทางระบายน้ำ ผ่านกรุงเทพมหานคร\" ผ่านเฟซบุคของทีมงานกรณ์ จาติกวณิช โดยตอนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุว่า \"โดยคณะรัฐมนตรีเงา ได้ตรวจพบว่า การระบายน้ำในปัจจุบันของรัฐบาล และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เป็นการบิดเบือนเส้นทางระบายน้ำ ไม่สอดคล้องตามหลักวิชา หลักปฏิบัติจากอดีต และเป็นไปอย่างผิดหลักธรรมชาติของภูมิประเทศของกรุงเทพมหานคร จากที่คณะทำงานได้ลงพื้นที่ศึกษาพบกว่า การที่จะทำการระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทยได้เร็วที่สุดอย่างสมดุลนั้น คือ การระบายผ่านทางหลักๆ ๓ ทางซึ่งคือ ๑) ทางตะวันตก ผ่านแม่น้ำท่าจีน ๒) ทางแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านกลางกรุงเทพมหานคร และ ๓) ทางตะวันออก ผ่านทางแม่น้ำบางปะกง และนอกจากนี้ ทางน้ำที่ใช้ระบายเพิ่มพิเศษคือ ระหว่าง แม่น้ำเจ้าพระยากับ แม่น้ำบางปะกง ยังมีทางระบายพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการนี้อยู่แล้ว ซึ่งคือ คลองด่าน และสถานีสูบน้ำต่างๆ ในจังหวัดสมุทรปราการ ปัญหาหลักที่พบ คือ การบิดเบือนเส้นทางระบายน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สมดุลในการระบายน้ำ ของ ๓ ทางหลักนี้ โดยเฉพาะทางพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร คือ สถานีสูบน้ำต่างๆ ที่จะช่วยให้ระบายน้ำไปทางตะวันออก แทบไม่ได้มีการระบายเลยในช่วงก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งมีการเริ่มให้มีการสูบน้ำระบายเพียงแค่ไม่กี่วัน และยังไม่ได้ทำอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ การระบายน้ำหลักถูกกดดันให้น้ำมาอยู่ที่ แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นทางเส้นหลักที่อยูตรงกลาง ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ดังจะเห็นได้ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับความสูง เหนือระดับน้ำทะเลปกติ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ การระบายน้ำที่ไม่มีความสมดุลเช่นนี้ จะเกิดความเสี่ยงให้มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานในใจกลางเมือง กรุงเทพมหานคร และจะก่อให้เกิดความเป็นอัมพาตของระบบการบริหารจัดการทั้งระบบในประเทศ การทำงานของราชการส่วนกลางทั้งหมดจะถูกหยุด\""

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท